ที่พักสุดเก๋ 17 แห่งริมน้ำสำหรับทริปพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิต

โรงแรมที่มีผนังทั้งสี่ด้านน่ะหรอ เยอะเกินไป เติมสีสันให้กับวันหยุดพักผ่อนในครั้งต่อไปของคุณด้วยที่พักที่เจ๋งที่สุดในโลก ที่จะทำให้คุณได้นอนหลับริมมหาสมุทรหรือนอนกลางทะเล
เราได้รวบรวมรายชื่อ 17 สถานที่พักผ่อนริมน้ำที่ไม่เหมือนใครไว้แล้ว ตั้งแต่วิลล่าเหนือน้ำที่สวยงามในมัลดีฟส์ ไปจนถึงรีสอร์ทริมหน้าผาในซานโตรินี
วิลล่าเหนือน้ำ
1. Gili Lankanfushi, มัลดีฟส์

มัลดีฟส์มีบังกะโลเหนือน้ำที่สวยที่สุดในโลกและที่จัดว่าอยู่ในอันดับต้นๆ ของรายการเลยก็คือ Gili Lankanfushi ใช้เวลานั่งเรือเร็วเพียง 20 นาทีจากสนามบินนานาชาติมาเล่ก็จะถึงรีสอร์ทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมบนเกาะส่วนตัวอย่างลังกันฟูชิ คุณสามารถพักผ่อนในวิลล่าที่มีหลังคามุงจากปาล์มจำนวน 44 หลังของรีสอร์ท ซึ่งแต่ละหลังมีลานอาบแดดส่วนตัวและเห็นวิวทะเลที่สวยงาม หรือพักในหนึ่งในเจ็ดที่พักแบบสแตนด์อโลนของ Crusoe Residences ที่สามารถเข้าถึงได้โดยเรือส่วนตัวเท่านั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด
2. Four Seasons Resort, บอราบอรา

พบกับบริการชั้นยอดและเป็นส่วนตัวเมื่อคุณก้าวเข้าสู่รีสอร์ท 5 ดาวที่เหมาะสำหรับครอบครัวแห่งนี้บนเกาะบอราบอรา นอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตาของภูเขาโอเตมานูและมหาสมุทรแล้ว วิลล่าแต่ละหลังยังตกแต่งด้วยเครื่องเรือนไม้สักแบบดั้งเดิมและงานศิลปะแบบโพลินีเซียนอีกด้วย
สิ่งที่ดีที่สุดน่ะหรอ เด็กๆ จะได้เพลิดเพลินกับโปรแกรม Kids for All Seasons ภายใต้การดูแลของรีสอร์ท ขณะที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับสปาเพื่อการฟื้นฟูเหนือพื้นกระจกใสที่มองเห็นทะเลสาบได้
3. Likuliku Lagoon Resort, ฟิจิ

Likuliku Lagoon Resort ที่ล้อมรอบด้วยเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำที่ได้รับการคุ้มครองเป็นรีสอร์ทแห่งแรกในฟิจิที่มีกระท่อมเหนือน้ำ หรือที่เรียกกันว่า Bures รีสอร์ทสุดพิเศษสำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะแห่งนี้มีพื้นที่ให้บริการเพียง 10 Bures โดยแต่ละแห่งมีทางเดินไปยังมหาสมุทรได้โดยตรงจากระเบียงส่วนตัว ลุกจากเตียงและลงเล่นน้ำทะเลเย็นๆ ซึ่งคุณสามารถดำน้ำตื้นหรือว่ายน้ำเพื่อสำรวจสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลและปะการังที่มีชีวิตชีวาได้
อย่าพลาดปาร์ตี้ค็อกเทลในคืนวันศุกร์ เพลิดเพลินกับการแสดงเมเกแบบดั้งเดิมและกานาเปชิ้นเล็กๆ มากมายเพื่อสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษของชาวฟิจิ
ห้องสวีทใต้น้ำ
4. Atlantis The Palm, ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ลองนึกภาพ: คุณจะได้นอนแช่ในอ่างอาบน้ำหินอ่อนพร้อมชมปลาฉลามและปลากระเบนร่อนผ่านไปมา สัมผัสประสบการณ์นี้ในห้องสวีทใต้น้ำของ Atlantis The Palm ในดูไบ หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานทำให้คุณได้เห็นสัตว์ทะเล 65,000 ตัวใน Ambassador Lagoon ซึ่งเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างใกล้ชิด ห้องสวีทสุดหรูมีสามชั้นและมีลิฟต์ส่วนตัวและบริการผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง
5. Conrad Maldives Rangali Island, มัลดีฟส์

ใช้เวลายามค่ำคืนใต้มหาสมุทรอินเดียลึกลงไป 16 ฟุตในโดมอะคริลิกโค้ง 180 องศาที่ The Conrad Maldives Rangali Island วิลล่าสองชั้นหรือ The Muraka (ซึ่งหมายถึง “ปะการัง” ในภาษาพื้นเมืองดิเวฮิ) สามารถรองรับแขกได้ถึง 9 คน และมีดาดฟ้ากลางแจ้งส่วนตัวพร้อมสระว่ายน้ำไร้ขอบที่ชั้นบนสุด
อย่าพลาดร้านอาหาร Ithaa Undersea Restaurant ซึ่งเป็นร้านที่ได้รับรางวัลของรีสอร์ทด้วยล่ะ ซึ่งเป็นร้านอาหารใต้น้ำรองรับได้ 12 ที่นั่งที่ให้บริการอาหารฟิวชั่นและไวน์ชั้นดี
6. Reefsuites, แอร์ลีบีช, ออสเตรเลีย

นี่คือวิธีที่คุณจะประทับใจไม่รู้ลืมในการสำรวจแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ พักค้างคืนที่ Reefsuites ที่ตั้งอยู่บนเรือท้องแบนที่จอดอยู่นอกชายฝั่งที่ฮาร์ดีรีฟ การเดินทางของคุณเริ่มต้นด้วยการล่องเรือข้ามหมู่เกาะวิทซันเดย์ไปยังแนวปะการังที่ซึ่งคุณสามารถดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก หรือแม้แต่นั่งเฮลิคอปเตอร์ชมวิวสวยๆ ได้ จิบค็อกเทลและเพลิดเพลินกับอาหารค่ำใต้แสงดาวบนดาดฟ้าเรือก่อนจะพักผ่อนในห้องสวีทใต้น้ำส่วนตัวของคุณ หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานจะทำให้คุณมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของแนวปะการัง
โรงแรมริมทะเลสาบ
7. Kempinski Hotel Ishtar Dead Sea, อัมมาน, จอร์แดน

ตื่นมาพบกับวิวอันตระการตาของทะเลสาบน้ำเค็มที่มีชื่อเสียงที่ Kempinski Hotel Ishtar Dead Sea ในจอร์แดน รีสอร์ทสปาสุดหรูแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสวนลอยบาบิโลน มีทางเดินตรงไปยังชายหาดส่วนตัวบนชายฝั่งของทะเลเดดซี
แช่ตัวในน้ำที่อุดมด้วยแร่ธาตุของทะเลสาบ สำรวจสระน้ำจืดทั้งเก้าแห่งของรีสอร์ท หรือทำสปาที่ Ishtar Spa ที่ได้รับรางวัลมาแล้ว ซึ่งจะมีเซสชั่นสปาฮัมมัมพร้อมการบำบัดด้วยโคลนและเกลือทะเล
8. Hotel Palafitte, เนอชาแตล, สวิตเซอร์แลนด์

นอนหลับพักผ่อนเหนือทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ที่ Hotel Palafitte ห้องพักที่ทันสมัยและโฉบเฉี่ยวตั้งอยู่บนเสาสูงเหนือทะเลสาบเนอชาแตล โดยล้อมรอบด้วยน้ำนิ่งและวิวเทือกเขาแอลป์ที่สวยงาม ลงเล่นน้ำในทะเลสาบได้ทุกเมื่อ ห้องพักแต่ละหลังจะมีระเบียงส่วนตัวพร้อมบันไดให้เดินลงน้ำได้โดยตรง
ห้องอาหารของโรงแรมอย่าง La Table de Palafitte ยังให้บริการอาหารตามฤดูกาลและเมนูพิเศษประจำวันของเชฟที่ปรุงจากวัตถุดิบที่สดใหม่ที่สุดในภูมิภาคอีกด้วย
9. Grand Hotel Tremezzo, โกโม, อิตาลี

โรงแรมที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัวที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่าง Grand Hotel Tremezzo เป็นผลงานชิ้นเอกสไตล์อาร์ตนูโวที่มีเอกลักษณ์บนทะเลสาบโกโม ซึ่งรายล้อมไปด้วยแมกไม้เขียวขจีในพื้นที่ขนาด 12 เอเคอร์ มีเก้าอี้อาบแดดและโซฟากึ่งเตียงนอนตั้งเรียงรายที่ระเบียงกลางแจ้งของโรงแรม ซึ่งนำไปสู่สระว่ายน้ำลอยน้ำใจกลางทะเลสาบ ขึ้นเรือลีมูซีนของโรงแรมเพื่อทัวร์ทะเลชมสาบแบบส่วนตัวพร้อมจิบแชมเปญสักแก้ว
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเข้าพักที่ Villa Sola Cabiati ได้ ซึ่งเป็นวิลล่าสมัยศตวรรษที่ 16 ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมหลักเพียงไม่กี่นาที ห้องสวีทหกห้องซึ่งรองรับแขกได้ถึง 12 คน ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์โบราณและภาพวาดยุคเรอแนซ็องส์ มีสระว่ายน้ำอุ่นกลางแจ้งและสวนสไตล์อิตาลีแบบส่วนตัว
10. Mirror Lake Inn Resort & Spa, นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา

ห้องพักทั้ง 131 ห้องของรีสอร์ทและสปาแห่งนี้ที่เลกเพลซิดมีทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบกระจก และทิวเขาอดิรอนแดก ห้องพักแสนสบายตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่หรูหราเรียบง่าย และบางห้องยังมีเตาผิงและอ่างน้ำร้อนอีกด้วย
ลองใช้บริการสปาครบวงจร สระว่ายน้ำในร่มและกลางแจ้ง และร้านอาหารสองแห่งในโรงแรมด้วยล่ะ
รีสอร์ทสวนน้ำ
11. Coco Key Resort and Waterpark, ฟลอริดา, สหรัฐอเมริกา

ความสนุกไม่มีหยุดที่ Coco Key Resort and Waterpark ในออร์แลนโด, ฟลอริดา ทั้งครอบครัวจะได้เพลิดเพลินกับสไลเดอร์น้ำกลางแจ้ง สระน้ำอุ่น พื้นที่เล่นน้ำที่เหมาะสำหรับเด็ก และบาร์สไตล์ติกิริมสระ ซึ่งอยู่ห่างจากห้องพักในโรงแรมของคุณเพียงไม่กี่ก้าว นอกจากนี้ คุณยังสามารถรับประทานอาหารได้ที่ร้านอาหารของรีสอร์ทและเยี่ยมชมตู้เกมในร่มที่ทันสมัยได้อีกด้วย
12. Wilderness Resort, วิสคอนซิน, สหรัฐอเมริกา

Wilderness Resort เป็นรีสอร์ทสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาครอบคลุมพื้นที่กว่า 600 เอเคอร์ในวิสคอนซินเดลส์ มีสวนน้ำในร่มสี่แห่งและสวนน้ำกลางแจ้งสี่แห่งที่เหมาะสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก เครื่องเล่นสุดหวาดเสียว บาร์ริมสระ คาบาน่าริมสระ และอีกมากมาย
เลือกจากตัวเลือกที่พักที่หลากหลาย ทั้งห้องพักในโรงแรม วิลล่า คอนโดมิเนียม และเคบินริมทะเลสาบ เคบิน River Ridge แบบสี่ห้องนอนเหมาะสำหรับกลุ่มใหญ่ มีห้องครัวเต็มรูปแบบ ระเบียงกลางแจ้งขนาดใหญ่พร้อมเตาย่างแบบใช้แก๊ส และสามารถเดินทางเข้าถึงแม่น้ำวิสคอนซินได้อย่างง่ายดาย
13. Shinhwa Jeju Shinhwa World Hotels & Resorts, เชจู, เกาหลีใต้

พักผ่อนช่วงฤดูร้อนของคุณที่เกาะเชจู โดยพักผ่อนยามค่ำคืนที่ Shinhwa Jeju Shinhwa World Hotels & Resorts ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Jeju Shinhwa Resort ที่ครบวงจรและใหญ่กว่า การเข้าพักของคุณจะรวมค่าบัตรเข้า Shinhwa Waterpark ซึ่งเป็นสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเชจูเข้าไปด้วย ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับสไลเดอร์น้ำมากมายและสปาเพื่อการผ่อนคลายได้
ปิดท้ายวันของคุณด้วยการชมพระอาทิตย์ตกที่เกาะเชจูที่สระ Sky Pool ที่มีระบบทำความร้อนตลอดทั้งปีของโรงแรม พร้อมเครื่องดื่มค็อกเทลที่เติมได้ไม่จำกัดและการแสดงสุดพิเศษจากดีเจ
สถานที่พักผ่อนริมหน้าผา
14. Grace Hotel, Auberge Resorts Collection, ซานโตรินี, กรีซ

สถานที่พักผ่อนบนยอดผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Imerovigliในซานโตรินี ประเทศกรีซ Grace Hotel, Auberge Resorts Collection ประกอบด้วยห้องสวีท 21 ห้องที่ตั้งอยู่บนแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาดที่มีชื่อเสียง มองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลอีเจียน ห้องสวีทมีความงามที่ทันสมัยและเรียบง่าย มีการตกแต่งภายนอกด้วยสีขาวสะอาดตาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของซานโตรินี
มุ่งหน้าไปยังสระว่ายน้ำไร้ขอบของโรงแรมหรือ 363 Champagne Lounge เพื่อชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ดีที่สุดของทะเลอีเจียน
15. Bulgari Resort, บาหลี, อินโดนีเซีย

เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของมหาสมุทรอินเดียจากความสูง 492 ฟุตที่ Bulgari Resort ในบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย รีสอร์ทให้บรรยากาศและความรู้สึกแบบบาหลีดั้งเดิม โดยมีวิลล่าหลังคามุงจาก กำแพงหินภูเขาไฟที่ก่อด้วยมือจากคนในท้องถิ่น และโบราณวัตถุแบบบาหลีที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณ รวมถึงกลิ่นอายแบบอิตาลีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ขึ้นลิฟต์แบบลาดเอียงของรีสอร์ทจากด้านบนของหน้าผาลงไปยังชายหาดส่วนตัวที่ทอดยาว ซึ่งคุณสามารถอาบแดด เดินเล่นริมชายฝั่ง หรือรับประทานอาหารกลางวันได้ที่ La Spiaggia
16. Le Sirenuse Hotel, โปซีตาโน, อิตาลี

Le Sirenuse Hotel ที่อยู่ในใจกลางโปซีตาโน ตั้งอยู่ในวิลล่าสมัยศตวรรษที่ 18 ที่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม โดยตั้งอยู่บนหน้าผาที่มองเห็นทิวทัศน์ของชายฝั่งอมาลฟีและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่ Le Sirenuse จะไม่มีห้องใดตกแต่งเหมือนกัน ห้องพักทั้ง 58 ห้องแต่ละห้องตกแต่งด้วยพื้นกระเบื้องทำมือ เฟอร์นิเจอร์โบราณ และผ้าเนื้อดี
ยังไม่หมดแค่นั้น คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมฟรีได้ เช่น การชิมไวน์ การเล่นพิลาทิส ชั้นเรียนการผสมค็อกเทล หรือแม้แต่การล่องเรือเที่ยวชายฝั่งในแต่ละวันในช่วงฤดูร้อน
เรือบ้าน
17. WelcomHeritage Gurkha Houseboats, ศรีนาการ์, อินเดีย

เคยอยากพักบนเรือบ้านบ้างไหม คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์นั้นได้ที่ WelcomHeritage Gurkha Houseboats ซึ่งจอดอยู่ที่ริมทะเลสาบนีจีนใน ศรีนาการ์ และมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของเทือกเขาหิมาลัยได้จากระเบียงส่วนตัว เรือบ้านแห่งนี้ได้รับการออกแบบในสไตล์แคชเมียร์ดั้งเดิม ตกแต่งด้วยงานแกะสลักไม้ที่วิจิตรบรรจงและพรมทอมือ
ในขณะที่คุณพักอยู่ที่นั่น คุณสามารถนั่งเรือ Shikara ไปรอบๆ ทะเลสาบดาลเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบที่ตัดกับทิวเขาที่สวยงามราวกับภาพวาด และแวะพักที่ตลาดน้ำแบบดั้งเดิมได้