ในการเดินทางมาถ้ำกระแซ มาได้ 2วิธี คือ นั่งรถไฟมาซึ่งจะมาเทียบชานชาลาที่ สถานี ถ้ำกระแซ หรือขับรถมา ซึ่งจะประหยัดเวลาในการเดินทางมากกว่ากันเยอะ บรรยากาศและทัศนียภาพระหว่างนั่งรถไฟมาก็จะให้อารมณ์และความคลาสสิคมากกว่า เพราะท่านได้สัมผัสบรรยากาศและชื่นชมธรรมชาติพร้อมเห็นวิถีชีวิตของคนในเขตชุมชนระหว่างทาง ใช้ระยะเวลาในการเดินทางมากกว่า3ชั่วโมง แต่ถ้าท่านขับรถมาเองจากตัวเมืองจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางเพียงแค่ไม่เกิน 45นาที ก็จะถึงจุดหมายปลายทางเดียวกันแล้ว ระหว่างทางเดินสองฝั่งที่จะไปสะพานนี้ เต็มไปด้วยร้านค้า,ร้านอาหารและร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก มีการบริหารจัดการเป็นระเบียบพอสมควร บริเวณสะพานถ้ำกระแซนี้้ จะได้รับการกล่าวขานเรียกว่าเป็นเส้นทางรถไฟสายมรณะ ซึ่งไม่ห่างกันจะเป็นที่ตั้งของถ้ำกระแซ ซึ่งถ้ำนี้เคยเป็น ที่พักของเชลยศึก เมื่อครั้งสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า และภายในถ้ำยังมี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานอยู่ด้วย สถานที่แห่งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ที่สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 ที่สร้างขึ้นโดยหยาดเหงื่อแรงงาน รวมทั้งชีวิตของเชลยศึกพันธมิตรนับหมื่นคน เพื่อให้ได้มาซึ่งทางรถไฟที่มีความยาวถึง 415 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก จังหวัดราชบุรี ไปสู่ปลายทางที่เมืองทันบูซายัค ประเทศเมียนมา สร้างขึ้นเพื่อใช้สำหรับขนส่งอาวุธ และกำลังพลของญี่ปุ่น เพื่อไปโจมตีเมียนมาและอินเดีย เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้มีฐานดินชั้นล่างที่หนาแน่นที่สุด นายทหารช่างชาวญี่ปุ่นจึงเลือกสร้างสะพานบริเวณนี้ ซึ่งการสร้างก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เชลยศึกจำนวนมากเสียชีวิตลงเพราะโรคภัย, ขาดสารอาหารและถูกทารุณอย่างแสนสาหัส จุดที่สร้างยากลำบากมากที่สุดจะอยู่ที่บริเวณโตรกผาบริเวณถ้ำกระแซ ซึ่งเป็นทางโค้งเลียบหน้าผา อีกด้านหนึ่งเป็นแม่น้ำเชี่ยวกราก ซึ่งในอดีตนั้นจะเต็มไปด้วยไข้ป่า สัตว์ร้ายนานาชนิด มีคำกล่าวที่เปรียบเทียบกันว่า "ในการก่อสร้างหนึ่งไม้หมอนของทางรถไฟสายมรณะ เทียบเท่ากับการสละชีวิตของคนหนึ่งชีวิต" ครับ

ทางเข้าไปสถานที่นี้ไม่ยากเย็นมาก แถมห่างอีกสักหน่อยยังมีสถานที่ทีเคยเป็นคุกขังเฉลยสมัยสงครามโลกด้วย ตรงกันข้ามมีสถานที่พักให้เลือกพักผ่อนกับสายน้ำและยังมองเห็นเวลาขบวนรถไฟวิ่งบนรางรถไฟสายนี้ด้วย