สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1869 ห้างสรรพสินค้า La Samaritaine ก ็ ขึ ้ นขึ ้ นขึ ้ นขึ ้ นขึ ้ น ในช่วงเวลาหน ้ าน ไปจนกลายมาเป ็ นต ้ องต ้ องต ้ องต ้ องต ้ องต ้ องต ้ องสี่ต ้ องที่เรียกว่า Magasin 1 , 2 , 3 และ 4 ในปี 2001 โรงแรมแห่งนี้ถูกขายให้กับกลุ่ม LVMH (Moët Hennessy Louis Vuitton) และปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2005 ถึง 2021 เพื่อทําการปรับปรุงอย่างละเอียด ดังนั้นจึงถึงเวลาที่ควรไปเที่ยวชมแล้ว เรากําลังมุ่งหน้าไปยัง Magasin 2 ที่ได้รับการตกแต่งใหม่ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเบลเยียมที่เกิดในสไตล์อาร์ต นูโว ระหว่างปี ค.ศ. 1903 และ ค.ศ. 1907 หน้าอาคารที่สวยงามตระการตาได้รับการประดับประดาด้วยกระเบื้องลาวาสีเหลืองสดที่ประดับประดาด้วยดอกไม้และมีชื่อของส่วน (เดิม) เช่น ทํางาน, ไล่ล่า, เครื่องแบบ, อามาโซน, ชาเปา, เคมี, ถุงเท้า เมื่อเข้าไปข้างในแล้ว เราได้ขึ้นบันไดขึ้นไปชั้นบนสุด ที่ซึ่งเราก็กระยิบระยับจากหลังคากระจกเหนือจิตรกรรมฝาผนังสีเหลืองขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้และพาย และโครงสร้างเหล็กหลอมเหล็ก ซึ่งทําให้เรานึกถึงวิคเตอร์ ฮอร์ตา จากด้านบน เราเห็นวิวที่สวยงามบนบันได ระเบียง และระเบียงบนชั้นต่างๆ เพราะเราไม่มีเวลาสําหรับช้อปปิ้งแฟชั่นที่จริงจัง เราได้ดื่มกาแฟและครอสตินี่แสนอร่อยในมุมร้านกาแฟ และดื่มด่ํากับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของสวีเดนและฝรั่งเศสที่ขายอยู่ เราประทับใจอย่างรื่นรมย์กับความเป็นกันเองของพนักงาน อาคารสไตล์ La Samaritaine อื่นๆ ในสไตล์อาร์ตเดโคก็คุ้มค่าที่จะมาเที่ยวชมเช่นกัน แต่อาคารสไตล์อาร์ตโนวัวก็โดดเด่นที่สุด เราจะกลับมาที่นี่อีกครั้งในครั้งต่อไปในการเที่ยวปารีส

ฉันต้องไปที่นี่สักพักแล้วในขณะนี้ และฉันอยากจะแนะนําหากคุณต้องการซื้อน้ําหอมดั้งเดิมในราคาที่ดีที่สุดที่เห็นในร้าน La Samaritaine นี้ ผมขอแนะนําให้คุณลองมาที่คารีน่า เพราะเธอเป็นเจ้าของที่พักที่ยอดเยี่ยม รู้จักกับกลิ่นหอมของเธอและไว้ใจในการตัดสินใจ