สำหรับท่านที่มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวหรือมาพักที่ บ้านนาต้นจั่น และอยากได้ผ้าหมักโคลน ซึ่งนับว่าเป็นผ้าท้องถิ่นชื่อดัง เป็นผ้าที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่น จัดว่าเป็นความลงตัวของดินและผ้า ที่ผสานกันได้อย่างลงตัวแบบน่าทึ่ง ท่านสามารถเดินทางมาที่นี่เลือกซื้อสินค้าต่างๆที่ทำเป็นสินค้าที่ระลึกในแบบหลากหลายได้มากมาย และบริเวณด้านข้างศูนย์จำหน่ายผ้ามีอาหารไทยพื้นบ้านจำหน่ายด้วย ผ้าหมักโคลน ถือว่าเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาพื้นบ้าน ที่ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนานจากรุ่นสู่รุ่นของชาวบ้านในชุมชนบ้านนาต้นจั่น อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาเรียบง่ายที่กลายมาเป็นความมหัศจรรย์ของการผสมผสานระหว่างดินและผ้า จนกลายมาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ได้รับความสนใจและเลือกซื้อกันอย่างมากจากผู้ที่มาเที่ยวที่หมู่บ้านแห่งนี้ จุดเริ่มต้นของภูมิปัญญาที่น่าทึ่งนี้ เริ่มขึ้นจากการสังเกตของชาวบ้าน ที่ถูกเล่าต่อๆ กันมาจากรุ่นสู่รุ่นว่า ในช่วงที่ออกไปทำนา เสื้อผ้าส่วนล่างที่ใส่ไปนั้น ก็จะเปื้อนโคลนทุกๆ ครั้ง หลังจากกลับบ้านมาซักผ้าเพื่อทำความสะอาดแล้ว จึงสังเกตว่าผ้าในส่วนล่างที่เปื้อนโคลนนั้น มีความนิ่มกว่าผ้าส่วนบนที่ไม่เปื้อนโคลน กรรมวิธีการทำผ้าหมักโคลน จึงถือกำเนิดขึ้น ขั้นตอนในการทำผ้าหมักโคลนนั้นไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนมากนัก เริ่มจากการย้อมเส้นฝ้ายสีขาวด้วยคราม ซึ่งจะใช้เวลานานนับชั่วโมงกว่าสีจะติดตามต้องการ แล้วนำเส้นฝ้ายไปผึ่งแดดให้แห้งและซักน้ำครามออก นำกลับไปผึ่งแดดอีกครั้งหนึ่ง จึงนำมาทอตามลวดลายที่กำหนดตามเอกลักษณ์ของผ้าทอบ้านนาต้นจั่น ซึ่งลวดลายส่วนใหญ่ลอกเลียนแบบจากธรรมชาติ เช่น ลายผักแว่น ลายดอกพิกุล ฯลฯ หลังจากนั้นแล้วก็นำผ้าที่ทอได้เป็นผืนมาหมักในโคลน ซึ่งโคลนที่ได้นั้น ก็เก็บตามท้องนาของหมู่บ้าน ซึ่งจะต้องนำมาคัดเศษผงที่เจือปนออก ก่อนนำไปผสมกับน้ำตามสัดส่วน หลังจากนั้นนำผ้ามาหมักไว้ และทิ้งไว้ 1 คืน ซึ่งห้ามทิ้งไว้เกินกว่านั้นเพราะจะทำให้ผ้าเปื่อย เมื่อเสร็จสิ้นจากการหมักแล้วก็จะนำมาซักให้สะอาด แล้วนำไปแช่น้ำทิ้งให้ผ้าซับน้ำจนอิ่มตัว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในขั้นตอนนี้ จากนั้นก็จะเป็นการย้อมสีให้กับผ้านุ่มๆ ผืนนี้ เป็นขั้นตอนสุดท้าย การยอมสีผ้าของชาวบ้านบ้านนาต้นจั่นนั้น จะเป็นการย้อมผ้าที่ใช้สีธรรมชาติ ซึ่งแต่ละสีก็จะได้มาจากเปลือกไม้ ใบไม้หรือดอกไม้ อาทิเช่น ต้นมะกอก, ต้นหว้า ให้สีเขียวครีม ใบสะเดาให้สีเขียว แก่นขนุนให้สีเหลืองอมเขียว ฯลฯ ในขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง และจะต้องใส่เกลือลงไปเพื่อไม่ให้สีตก และใส่ผงซักฟอกเพื่อไม่ให้ผ้าหดตัว เมื่อสีสันของผ้าเริ่มได้ตามที่ต้องการแล้ว ก็จะนำผ้าขึ้นมาซักกับน้ำ โดยซักจนกว่าน้ำที่ซักจะใส เพื่อเป็นการยืนยันว่าสีไม่ตก และนำไปผึ่งให้แห้ง เสร็จสิ้นกระบวนการนี้ก็จะได้ผ้าฝ้ายสีสันสดใสและนุ่มน่าสัมผัส ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับของชาวบ้านแห่งนี้ จัดว่าเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านอันน่าทึ่งจริงๆ ถึงได้เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านบ้านนาต้นจั่นอีกทางหนึ่งครับ