วัดมเหยงคณ์
4.5
8:30 น. - 17:00 น.
วันจันทร์
8:30 น. - 17:00 น.
วันอังคาร
8:30 น. - 17:00 น.
วันพุธ
8:30 น. - 17:00 น.
วันพฤหัสบดี
8:30 น. - 17:00 น.
วันศุกร์
8:30 น. - 17:00 น.
วันเสาร์
8:30 น. - 17:00 น.
วันอาทิตย์
8:30 น. - 17:00 น.
ความคิดเห็นของนักท่องเที่ยว
แนะนำให้แก้ไขเพื่อปรับปรุงสิ่งที่เราแสดง
ปรับปรุงข้อมูลสถานที่ให้บริการนี้มุมมองเต็มรูปแบบ
พื้นที่
ที่อยู่
ติดต่อโดยตรง
สถานที่ใกล้เคียงที่ดีที่สุด
ร้านอาหาร
162 ภายใน 5 กม.
สถานที่ท่องเที่ยว
77 ภายใน 10 กม.
มีส่วนร่วม
4.5
68 รีวิว
ดีเยี่ยม
36
ดีมาก
22
ธรรมดา
10
แย่
0
แย่มาก
0
tigerxmen
ไทย54,765 ผลงาน
เม.ย. ค.ศ. 2024 • เพื่อนๆ
วัดแห่งนี้ในอดีตเป็นวัดร้างที่ได้รับการปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ปฏิบัติกรรมฐานชื่อดังอันดับต้นของพระนครศรีอยุธยา โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ ประวัติหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์
หลวงพ่อท่านสามารถสอบได้คะแนนสูงสุดเป็นที่หนึ่งของประเทศในทางธรรม จึงได้รับความไว้วางใจแต่งตั้งให้เป็นครูสอนพระอภิธรรม ซึ่งในขณะนั้นท่านอุปสมบทได้เพียง 3 พรรษาเท่านั้น แต่ต้องเป็นทั้งครูสอน และนักเรียนศึกษาในชั้นสูงต่อไปด้วย
หลวงพ่อได้พบกับพระครูธรรมสุมนต์นนฺทิโก เจ้าอาวาสวัดจากแดง สมุทรปราการ โดยได้ศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ และค้นคว้าศึกษาในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งหาโอกาสออกไปสู่ความวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพร ฝึกฝนปฏิบัติในพระธรรมกรรมฐานอยู่เสมอ เพื่อสั่งสมปัญญาบารมีไว้เป็นปัจจัย ในการเผยแพร่พระศาสนาสืบไป
หลังจากนั้น ท่านได้เปิดสำนักปฏิบัติกรรมฐาน วัดมเหยงคณ์ ขึ้น ซึ่งแต่เดิมเป็นอาณาบริเวณของวัดที่สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือเจ้าสามพระยาได้ทรงสร้างไว้ ซึ่งในปัจจุบันวัดนี้เป็นวัดร้าง ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลหันตรา (ทุ่งทหารกล้า) ได้มีสภาพเสื่อมโทรมลงเป็นอันมาก กรมศิลปากรได้ขึ้นบัญชีไว้เป็นโบราณสถานแห่งชาติและเป็นมรดกโลกที่ล้ำค่าอีกแห่งหนึ่ง
ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ของท่านที่มุ่งหวังจะมีส่วนช่วยในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ผสมผสานกับแรงศรัทธาของพุทธบริษัททั้งหลาย จึงทำให้บริเวณโดยรอบโบราณสถานวัดมเหยงคณ์ ที่เคยเป็นป่าเปลี่ยว รกร้างมานาน ได้กลับกลายเป็นสำนักปฏิบัติกรรมฐานที่สงบร่มรื่นในระยะเวลาไม่กี่ปี
สถานที่สำคัญต่างๆภายในวัดอาทิเช่น
- ถ้ำพระนอนหรือถ้ำพระใหญ่บริเวณด้านหน้าถ้ำเรียกอีกชื่อว่าถ้ำพยญานาค จะตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของสวนป่า ใกล้กับบริเวณก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ สามารถเข้าไปนั่งสมาธิได้ และเค้าจะใช้สถานที่นี้สำหรับลาสิกขาของผู้บวชเนกขัมมะ
ภายในวัดมีการบริหารจัดการสถานที่ได้อย่างลงตัวและมีประสิทธิภาพ พยายามปรับทัศนียภาพของสถานที่ให้เอื้อกับการปฏิบัติธรรม เช่น ลานอัมตะธรรม ร่มรื่น และเย็นสบาย ด้วยป่าปลูกนานาชนิดเพื่อจำลองป่าเสมือนจริง มีสระน้ำขนาดใหญ่ช่วยให้เย็นสบาย สงบและผ่อนคลาย ริมสระน้ำ สามารถเดินจงกรม นั่งสมาธิได้ช่วงแดดร่ม ลมตก หลังสี่โมงเย็นไปแล้ว และมีลานธรรมจักร หน้าพระใหญ่ พระพุทธรูปปางปฐมเทศนาก็ร่มรื่นไปด้วยแมกไม่นานาพันธุ์ อยู่ข้างศาลาเขมรังสีทางทิศใต้ สำหรับเดินจงกรม-นั่งสมาธิ ช่วงกลางวัน และมีการแบ่งเขตอุบาสก-อุบาสิกาอย่างชัดเจน ไม่เปิดโอกาสให้คลุกคลีกันเหมือนที่อื่น
แนวทางปฏิบัติของที่นี่ได้มาตรฐาน คือทางสายกลาง (มัชฌิมา)ไม่หย่อนเกินไป ไม่เคร่งเกินไป มีเวลาให้พักผ่อนตามสมควร เหมาะสำหรับคนที่เริ่มฝึกใหม่ ต้องการสถานที่และบุคลแวดล้อมเป็นตัวกำหนด ภายในบริเวณวัดสะอาดเป็นระเบียบมาก ครับ
หลวงพ่อท่านสามารถสอบได้คะแนนสูงสุดเป็นที่หนึ่งของประเทศในทางธรรม จึงได้รับความไว้วางใจแต่งตั้งให้เป็นครูสอนพระอภิธรรม ซึ่งในขณะนั้นท่านอุปสมบทได้เพียง 3 พรรษาเท่านั้น แต่ต้องเป็นทั้งครูสอน และนักเรียนศึกษาในชั้นสูงต่อไปด้วย
หลวงพ่อได้พบกับพระครูธรรมสุมนต์นนฺทิโก เจ้าอาวาสวัดจากแดง สมุทรปราการ โดยได้ศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ และค้นคว้าศึกษาในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งหาโอกาสออกไปสู่ความวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพร ฝึกฝนปฏิบัติในพระธรรมกรรมฐานอยู่เสมอ เพื่อสั่งสมปัญญาบารมีไว้เป็นปัจจัย ในการเผยแพร่พระศาสนาสืบไป
หลังจากนั้น ท่านได้เปิดสำนักปฏิบัติกรรมฐาน วัดมเหยงคณ์ ขึ้น ซึ่งแต่เดิมเป็นอาณาบริเวณของวัดที่สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือเจ้าสามพระยาได้ทรงสร้างไว้ ซึ่งในปัจจุบันวัดนี้เป็นวัดร้าง ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลหันตรา (ทุ่งทหารกล้า) ได้มีสภาพเสื่อมโทรมลงเป็นอันมาก กรมศิลปากรได้ขึ้นบัญชีไว้เป็นโบราณสถานแห่งชาติและเป็นมรดกโลกที่ล้ำค่าอีกแห่งหนึ่ง
ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ของท่านที่มุ่งหวังจะมีส่วนช่วยในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ผสมผสานกับแรงศรัทธาของพุทธบริษัททั้งหลาย จึงทำให้บริเวณโดยรอบโบราณสถานวัดมเหยงคณ์ ที่เคยเป็นป่าเปลี่ยว รกร้างมานาน ได้กลับกลายเป็นสำนักปฏิบัติกรรมฐานที่สงบร่มรื่นในระยะเวลาไม่กี่ปี
สถานที่สำคัญต่างๆภายในวัดอาทิเช่น
- ถ้ำพระนอนหรือถ้ำพระใหญ่บริเวณด้านหน้าถ้ำเรียกอีกชื่อว่าถ้ำพยญานาค จะตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของสวนป่า ใกล้กับบริเวณก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ สามารถเข้าไปนั่งสมาธิได้ และเค้าจะใช้สถานที่นี้สำหรับลาสิกขาของผู้บวชเนกขัมมะ
ภายในวัดมีการบริหารจัดการสถานที่ได้อย่างลงตัวและมีประสิทธิภาพ พยายามปรับทัศนียภาพของสถานที่ให้เอื้อกับการปฏิบัติธรรม เช่น ลานอัมตะธรรม ร่มรื่น และเย็นสบาย ด้วยป่าปลูกนานาชนิดเพื่อจำลองป่าเสมือนจริง มีสระน้ำขนาดใหญ่ช่วยให้เย็นสบาย สงบและผ่อนคลาย ริมสระน้ำ สามารถเดินจงกรม นั่งสมาธิได้ช่วงแดดร่ม ลมตก หลังสี่โมงเย็นไปแล้ว และมีลานธรรมจักร หน้าพระใหญ่ พระพุทธรูปปางปฐมเทศนาก็ร่มรื่นไปด้วยแมกไม่นานาพันธุ์ อยู่ข้างศาลาเขมรังสีทางทิศใต้ สำหรับเดินจงกรม-นั่งสมาธิ ช่วงกลางวัน และมีการแบ่งเขตอุบาสก-อุบาสิกาอย่างชัดเจน ไม่เปิดโอกาสให้คลุกคลีกันเหมือนที่อื่น
แนวทางปฏิบัติของที่นี่ได้มาตรฐาน คือทางสายกลาง (มัชฌิมา)ไม่หย่อนเกินไป ไม่เคร่งเกินไป มีเวลาให้พักผ่อนตามสมควร เหมาะสำหรับคนที่เริ่มฝึกใหม่ ต้องการสถานที่และบุคลแวดล้อมเป็นตัวกำหนด ภายในบริเวณวัดสะอาดเป็นระเบียบมาก ครับ
เขียนเมื่อ 6 เมษายน ค.ศ. 2024
รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว
Teerapong Palapol
29 ผลงาน
พ.ค. ค.ศ. 2019
สงบร่มเย็นน่ามาเที่ยวถ่ายรูปเดิมเป็นวัดร้างหลัง สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นสถานที่ ร่มเรื่น ฝุกสมาธิปฏิบัติธรรมและถือศีล
เขียนเมื่อ 19 มีนาคม ค.ศ. 2020
รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว
afuhp
17 ผลงาน
ต.ค. ค.ศ. 2019
มเหยงคณ์นี้ แปลว่าภูเขาเนินดิน เป็นอารามหลวงที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (พระเจ้าสามพระยา) อันเป็นวัดที่สร้างถัดจาก วัดราชบูรณะ 14 ปี ในรัชสมัยเดียวกัน และวัดนี้นอกจากจะมีขนาดใหญ่โตกินบริเวณได้เท่ากับช้างล้อมรอบ 80 เชือกแล้ว หากแต่ยังมีโบสถ์อันโอ่งโถงที่จุพระสงฆ์ได้ราว 1,000 รูป
เขียนเมื่อ 18 มีนาคม ค.ศ. 2020
รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว
hatai t
เมืองพระนครศรีอยุธยา, ไทย48 ผลงาน
ก.พ. ค.ศ. 2019 • เพื่อนๆ
วัดนี้เดิมเป็นวัดร้างหลัง สมัยกรุงศรีอยุธยา มักทีผู้มาปฎิบัติธรรม และถือศีลกันจำนวนมาก ในแต่ละช่วง และเทศกาล วัดปรับปรุงและก่อสร้างอาคารหลายหลัง รวมทั้งพระอุโบสถหลังใหม่ ที่ยิ่งใหญ่อลังการมากๆ
เขียนเมื่อ 12 เมษายน ค.ศ. 2019
รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว
Siriice
กรุงเทพมหานคร (กทม.), ไทย125 ผลงาน
มิ.ย. ค.ศ. 2017 • เพื่อนๆ
เป็นวัดเก่าที่มีพื้นที่กว้างมาก บรรยากาศร่มรื่น สงบเงียบ เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และการมาเจริญสติวิปัสสนา ทางเข้าหาง่าย แต่อาจต้องมีรถส่วนตัว
เขียนเมื่อ 21 มิถุนายน ค.ศ. 2017
รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว
TinyPayForYou
กรุงเทพมหานคร (กทม.), ไทย988 ผลงาน
ธ.ค. ค.ศ. 2016 • เพื่อนๆ
วัดนี้อยู่ไม่ไกล ยังคงร่องรอยความยิ่งใหญ่ เป็นวัดอารามหลวง แสงบ่ายๆ ลอดส่องผ่านประตูวัด สามารถนั่งเล่นภายในลมพัดเย็นสบาย สวยงามไม่แพ้วัดอื่นในอยุธยา ผมว่าที่นี่มีเสน่ห์มาก
เขียนเมื่อ 15 มีนาคม ค.ศ. 2017
รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว
soonthorn01
กรุงเทพมหานคร (กทม.), ไทย1,139 ผลงาน
พ.ค. ค.ศ. 2016 • เพื่อนๆ
ทางเดินเข้าสู่ตัวอาคาร มีความงดงามด้วยผนังอิฐมอญก่อเป็นแนวยาว สูงเทียมศรีษะ สมัยก่อนใช้สำหรับกษัตริย์และขุนนางเท่านั้น เป็นวัดที่มีชื่อแปลกดี จำได้ง่าย สถานที่กว้างใหญ่ โอ่โถง สมัยก่อนคงเป็นวัดที่อยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร
เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017
รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว
ไม่มีการถามคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์นี้
นี่คือข้อมูลสถานที่ให้บริการของคุณบน Tripadvisor ใช่ไหม
คุณเป็นเจ้าของหรือผู้บริหารสถานที่ให้บริการแห่งนี้ใช่ไหม อ้างสิทธิ์รายชื่อธุรกิจของคุณเพื่อตอบรีวิว อัปเดตโปรไฟล์ และอื่นๆ อีกมากมายได้ฟรี
อ้างสิทธิ์ในข้อมูลสถานที่ให้บริการของคุณ