อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วแห่งนี้ เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 11 ของประเทศไทย เดิมใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติเขาสระบาป ตั้งอยู่ในเขตของเทือกเขาสระบาป อ.แหลมสิงห์ ไม่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 14 ก.ม. ใช้ระยะเวลาในการเดินทางไม่นานก็ถึง ที่นี่เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวหลักสำคัญอันดับต้นของจังหวัด ชื่อของน้ำตกพลิ้ว มาจากคำว่า "พลิ้ว" ซึ่งเป็นภาษาชอง(ภาษาถิ่น)แปลว่า ทรายหรือหาดทราย บ้างก็ว่าชื่อของน้ำตกพลิ้วมาจากต้นพลิ้ว ซึ่งเป็นไม้เถาที่ชอบขึ้นในดินปนทราย มีดอกเป็นช่อมีผลขนาดเล็กประมาณลูกเกด จะมีสีเหลืองอมแดง พบมากบริเวณน้ำตกแห่งนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนประกอบไปด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์มีความหลากหลายทางชีวภาพของพันธุ์พืชสภาพเป็นป่าดิบเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หายากหลายชนิด ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าจึงทำให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่มีลำห้วยเล็ก ๆ หลายสาขา ที่มีน้ำไหลตลอดปี เช่น คลองนารายณ์, คลองพลิ้ว ,คลองตรอกนอง, คลองขลุง ฯลฯ กระจายอยู่รอบพื้นที่ตอนกลางของพื้นที่เป็นสันเขาสูงชัน น้ำตกพลิ้ว ประกอบด้วยสายธาร 2 สายสายหนึ่งไหลลดหลั่นผ่านซอกหินผา อีกสายหนึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร โดยสายน้ำทั้งสองสายจะไหลลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ชั้นล่างสุด ซึ่งแอ่งน้ำสีเขียวมรกตใสสะอาด ทำให้สามารถมองเห็นพื้นล่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทราย พร้อมด้วยฝูงปลาน้อยใหญ่หลากหลายชนิด ท่านสามารถลงเล่นน้ำได้ในจุดที่เค้ากำหนด อีกทั้งยังมีเส้นทางเดินชมและศึกษาธรรมชาติ รวมถึงมีจุดตั้งเต้นท์พักแรมด้วยสำหรับท่านที่อยากค้างคืนภายในเขตอุทยานน้ำตกพลิ้ว ในการเที่ยวชมที่นี่จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเงินค่าเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วบริเวณด้านหน้าทางเข้า และเมื่อเข้าไปยังบริเวณด้านในจะมีรถกอล์ฟให้บริการรับส่งไปยังพื้นที่ส่วนต่างๆเสียค่าบริการท่านละ10บาท แต่ท่านที่สุขภาพแข็งแรงหรืออยากเดินชมความร่มรื่นและสวยงามของบริเวณโดยรอบก็สามารถเดินเข้าไปได้ไม่ไกลมากนัก ที่น้ำตกนี้จะมีปลาพลวงหินให้ชมจำนวนมาก สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมได้เป็นอย่างยิ่ง จัดว่าเป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่ห้ามพลาดคือการมาชมฝูงปลาพลวงหินที่แหวกว่ายทวนกระแสน้ำตก หนึ่งใน UNSEEN ที่ต้องมาสัมผัสและร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก นอกเหนือจากความงดงามของตัวน้ำตกพลิ้ว สถานที่แห่งนี้ยังมีความเชื่อมโยงด้านประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงเสด็จประพาสมาที่นี่มากถึง 12 ครั้ง และทรงโปรดให้สร้าง พีระมิดแห่งความรัก เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอีกด้วย โดยภายในสถูปนั้น ก็จะบรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าฯ คนท้องถิ่นจะเรียกกันว่า พีระมิดพระนางเรือล่ม อีกหนึ่งพื้นที่ห้ามพลาดที่แนะนำว่า ท่านควรจะไปชม ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากพีระมิดแห่งความรัก ก็คือ"จุลศิรจมพฏเจดีย์"( อลังกรณ์เจดีย์) รัชกาลที่5 สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วพร้อมสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีและเพื่อเป็นที่นมัสการของผู้คนทั่วไป ช่างสุดแสนจะน่าทึ่งงดงามเป็นอย่างยิ่งเนื่องด้วยองค์เจดีย์ปกคลุมไปด้วยมอส,เฟิร์นและไลเค็นที่มาโอบล้อมองค์เจดีย์ตามธรามชาติ โดยองค์เจดีย์นี้จะอยู่ด้านข้างเยื้องจากพีระมิดขึ้นมาด้านบน และด้วยตำนานความรักที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงมีให้แก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ทำให้เกิดเป็นเรื่องเล่าว่าหากคู่รักคู่ใดได้มากราบไหว้สักการะพีระมิดแห่งรักนี้ ก็จะสมหวังและมีความรักที่มั่นคงนั่นเอง ทำให้มีนักท่องเที่ยวมากมายเดินทางมาเพื่ออธิษฐานกัน รวมไปถึงมาชมความสวยงามของน้ำตกพลิ้วด้วยครับ

ชอบที่เดินไม่ไกลครับ บรรยกากาศเป็นธรรมชาติ ปลาพลวงก็เยอะมาก การดูแลความปลอดภัยดีมาก และเล่นน้ำได้เต็มที่มากครับ