สถานที่ท่องเที่ยว กาฐมาณฑุ
สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดใน กาฐมาณฑุ, เนปาล
สถานที่ท่องเที่ยว กาฐมาณฑุ
ประเภทหมวดหมู่
รางวัล
ผู้ได้รับรางวัล Travellers' Choice (รวมถึงตำแหน่ง “ที่สุดของที่สุด”) เป็นหนึ่งใน 10% แรกของข้อมูลสถานที่ให้บริการบน Tripadvisor ตามรีวิวและความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
คะแนนจากนักท่องเที่ยว
เหมาะสำหรับ
772 ผลลัพธ์ เรียงตาม รายการโปรดของนักท่องเที่ยว
- กิจกรรมน่าสนใจซึ่งจัดอันดับโดยใช้ข้อมูลของ Tripadvisor ที่ประกอบไปด้วยรีวิว การให้คะแนน ยอดการเข้าชมหน้าข้อมูล และตำแหน่งที่ตั้งของผู้ใช้
ศูนย์นักท่องเที่ยว
เปิดอยู่
เส้นทางเดินป่า
เปิดอยู่
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ
โยคะและพีลาทิส
เปิดอยู่
ร้านขายของเฉพาะทางและของขวัญ
เปิดอยู่
โยคะและพีลาทิส • สปา
สปา
เปิดอยู่
ชั้นเรียนสอนทำอาหาร
เปิดอยู่
โยคะและพีลาทิส • สปา
เปิดอยู่
สปา
เปิดอยู่
โยคะและพีลาทิส • สปา
เปิดอยู่
บริการรถโดยสาร • แท็กซี่และรถรับส่ง
เปิดอยู่
โยคะและพีลาทิส • สปา
เปิดอยู่
สปา
เปิดอยู่
แท็กซี่และรถรับส่ง
เปิดอยู่
บริการรถโดยสาร • แท็กซี่และรถรับส่ง
เปิดอยู่
…
แสดงผลลัพธ์ 1-30 จาก 772
ความเห็นของนักท่องเที่ยว
- tigerxmenไทย55,273 ผลงานที่ีนี่คือหนึ่งในได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO โดยประเทศเนปาลมี มรดกโลกขององค์การยูเนสโกทั้งหมด 10 แห่ง และมรดกโลก 7 ใน 10 แห่งของประเทศเนปาลตั้งอยู่ในบริเวณเมืองกาฐมาณฑุ
เจดีย์โพธินารถเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียใต้ สูง 36 เมตร มีโครงสร้างสไตล์มันดาลาสามชั้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นเจดีย์พุทธนิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ความหมายของชื่อมหาเจดีย์โพธินาถ แปลว่า "พระพุทธเจ้าผู้เป็นที่พึ่ง" ในอดีตเจดีย์แห่งนี้ เป็นสถานที่สำคัญในเส้นทางการค้าระหว่างเมืองลาซาและเมืองกาฐมาณฑุ พ่อค้าชาวทิเบตจะสวดภาวนาที่นี่เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยก่อนที่จะเดินทางไปบนเทือกเขาหิมาลัย ยังเป็นที่นับถือของชาวเชอร์ปาซึ่งเป็นลูกหลานของชนเผ่าทิเบต
(เชอร์ปา คือชนเผ่าหนึ่งของประเทศเนปาล ที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือติดกับทิเบต ในเขตอุทยานแห่งชาติ สกามาทา ซึ่งมีภูเขาเอเวอร์เรสอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ด้วย)
ตัวเจดีย์จะล้อมรอบด้วยบ้านเรือนและร้านค้าเป็นชุมชนชาวทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนปาล และมีรินโปเช หลายรูปพำนักอยู่ที่นี่ ทำให้เจดีย์โพธินาถเป็นศูนย์กลางศาสนาพุทธแบบทิเบตซึ่งอยู่นอกเขตทิเบตที่เฟื่องฟูที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
และสถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก ในขณะที่ท่านเดินไปรอบบริเวณจะเห็นว่าอารามจำนวนมากรอบ ๆ เจดีย์หลายแห่ง มีนักเรียนธรรมะชาวตะวันตกจำนวนมากสวมเสื้อคลุมสีแดงมาศึกษาธรรมะกันที่นี่
องค์เจดีย์จะมีลักษณะเป็นรูปโดมสีขาว มีรูปเพ้นท์ลายดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธเจ้า (wisdom Eyes) ทั้งสี่ทิศอันเป็นรูปธรรมนิมิตตามคติพุทธศาสนาวัชรยาน เชื่อกันว่าเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ต่างๆในขณะรู้แจ้ง อันเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คนทำดี ตามหลัก มัณฑลา(Mandala) รอบฐานมีพระพุทธรูป 108 องค์ ซึ่งหมายถึงชื่อของพระพุทธเจ้าในชาติต่างๆ,มี ซุ้มกงล้อภาวนา 147 คูหา , เสารอบเจดีย์จะแขวนธงมนตราหรือเรียกกันว่าธงภาวนา เป็นธงที่เรียบง่ายหลากสีสันแต่แฝงด้วยคติธรรม ซึ่งจะได้รับการเปลี่ยนใหม่และสวดเสกด้วยธูปหอมซึ่งทำจากต้นสน
ธงมนตราคืออะไร?? ธงมนตราคือธงที่ทำจากผืนผ้าไหมผืนบางๆ จารึก บทสวดมนต์ไว้บนธง ธงมนตราจะมีทั้งหมด 5 สี สีน้ำเงินแทนธาตุน้ำ,สีขาว แทนธาตุเหล็ก ,สีแดง แทนธาตุไฟ, สีเขียวแทนธาตุลม,สีเหลือง แทนธาตุดิน ธงมนตรา มักจะผูกไว้กับไม้ หรือต้นไม้สูง หรือเนินเขาต่างๆที่มีลมพัดผ่าน เพื่อให้สายลม พัดพาความเป็นสิริมงคลมาพร้อม ความเป็นมงคลต่างๆ ผ่านตัวอักขระที่ลงจารึกไว้บนธง
หรือในอีกนัยยะหนึ่งก็เสมือน มีเสียงสวดมนต์ภาวนาอยู่ตลอดเวลา จึงนำพาแต่ความดีงามและความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่สถานที่นั้นๆ
จุดกำเนิดของธงมนตรา มาจากประเทศทิเบต และในตอนกลางคืนของช่วงวันพระจันทร์เต็มดวงจะมีการจุดตะเกียงน้ำมันเนยนับพันรอบๆเจดีย์งดงามและเต็มเปี่ยมไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และมนต์ขลัง
ในการเดินทางมาเที่ยวประเทศเนปาลแบบเจาะลึก เพื่อซึมซับศิลปะและอารยธรรมอันหลากหลายที่รวบรวมผู้คนที่แตกต่างทั้งในด้านภาษาและเผ่าพันธุ์แบบเข้าถึงวิถีท้องถิ่นอันเต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหลครั้งนี้
ไม่ว่าจะเป็นทัวร์เมืองกาฐมาณฑุ รวมไปถึงเส้นทางเดินเทรค Langtang Velley ข้าพเจ้าใช้บริการทัวร์ของ เพจ Heaven On Nepal ซึ่งเป็นของทีมงานคุณอาบิน เป็นชาวเนปาลที่สื่อสารภาษาไทยได้ ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของข้าพเจ้าได้อย่างครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุด
ซึ่งต้องบอกว่าประทับใจในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นงานบริการหรือการอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้รู้สึกอบอุ่นเสมือนมาเที่ยวกับเพื่อนสนิทที่คอยดูแลต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าที่ต้องเดินทางมาเที่ยวประเทศเนปาลอีก จะต้องใช้บริการของบริษัทนี้อีกอย่างแน่นอนครับรีวิวของ: สถูปโพธานาฑเขียนเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว - ch_neuกรุงเทพมหานคร (กทม.), ไทย258 ผลงานสถานที่น่าสนใจ ได้เห็นวิถีชีวิตของคนท้องถื่น ระวังไกด์เถื่อน แต่งตัวดี อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทำเป็นพานำเที่ยวและอธิบาย สุดท้ายจะขอเงินรีวิวของ: วัดปศุปฏินาถเขียนเมื่อ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว
- tigerxmenไทย55,273 ผลงานวัดสวะยัมภูนาถ(Swoyambhunath) หรือเรียกอีกชื่อว่า วัดลิง (Monkey Temple) ศาสนสถานแห่งนี้มีความเก่าแก่มากที่สุดของเนปาลผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานถึง 2,000 ปี สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้ามานะเทวะ
ที่ีนี่คือหนึ่งในได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO โดยประเทศเนปาลมี มรดกโลกขององค์การยูเนสโกทั้งหมด 10 แห่ง และมรดกโลก 7 ใน 10 แห่งของประเทศเนปาลตั้งอยู่ในบริเวณเมืองกาฐมาณฑุ
เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งของประเทศเนปาล เหมาะกับการมาเยี่ยมชมในช่วงพระอาทิตย์ตก เรียกอีกอย่างว่าวัดลิงเนื่องจากมีลิงจำนวนมากอยู่รอบบริเวณวัด
ซึ่งสถานที่นี้มีสถาปัตยกรรมการผสมผสานกันระหว่างศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืนและลงตัวมีรูปทรงคล้ายโอคว่ำขนาดใหญ่สีขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธนิกายมหายานหรือวัชรยานแบบทิเบต
ด้านบนก่อนถึงยอดสถูปสร้างเป็นสี่เหลี่ยม มีภาพวาดเป็นรูปดวงตาไว้ทั้ง 4 ด้าน มีความหมายว่า ดวงตาเเห่งธรรมของพระพุทธเจ้า และในอีกความหมายหนึ่ง คือ ดวงตาแห่งปัญญาทั้งสี่ทิศหมายถึง พระพุทธเจ้าดูแลทุกข์, สุข และ บันทึกการกระทำทั้งในด้านความดีและความชั่วของมนุษย์ไว้ทั้งสี่ทิศ
โดยรอบๆบริเวณวัดและเจดีย์จะมีธงมนตราซึ่งจารึกบทสวดมนต์ไว้ปลิวไสวอยู่ตลอดเวลาเค้ามีความศรัทธาและเชื่อว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมายังสถานที่แห่งนี้ด้วย ที่วัดนี้ยังเป็นวัดที่มีเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่อันดับต้นเเห่งหนึ่งของโลกและได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกอีกด้วย วัดแห่งนี้จะตั้งอยู่บนยอดเขาในหุบเขากาฐมาณฑุ
วัดนี้มีบันไดที่สร้างจากหิน 365 ขั้น ที่ท่านต้องเดินเท้าขึ้นไปด้านบนเพื่อกราบสักการะและชมความงดงามของเจดีย์ด้านบนโดยประมาณ ที่ระดับความสูง77 เมตร ระหว่างทางเดินขึ้นบันไดจะมีม้านั่งให้พักเหนื่อยเป็นระยะๆ และตามราวบันไดมีคนท้องถิ่นนั่งขายของที่ระลึกจำหน่ายให้นักท่องเที่ยว อาทิเช่นงานทองเหลือง ,งานฝีมือ ฯลฯ ชื่อของวัดแปลความหมายจากภาษาทิเบต หมายถึง"ต้นไม้อันประเสริฐ" คนท้องถิ่นและคนส่วนใหญ่จะเรียกกันว่า"วัดลิง"เพราะบริเวณวัดจะเต็มไปด้วยลิงจำนวนมาก
ในการเดินทางมาเที่ยวประเทศเนปาลแบบเจาะลึก เพื่อซึมซับศิลปะและอารยธรรมอันหลากหลายที่รวบรวมผู้คนที่แตกต่างทั้งในด้านภาษาและเผ่าพันธุ์แบบเข้าถึงวิถีท้องถิ่นอันเต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหลครั้งนี้
ไม่ว่าจะเป็นทัวร์เมืองกาฐมาณฑุ รวมไปถึงเส้นทางเดินเทรค Langtang Velley ข้าพเจ้าใช้บริการทัวร์ของ เพจ Heaven On Nepal ซึ่งเป็นของทีมงานคุณอาบิน เป็นชาวเนปาลที่สื่อสารภาษาไทยได้ ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของข้าพเจ้าได้อย่างครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุด
ซึ่งต้องบอกว่าประทับใจในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นงานบริการหรือการอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้รู้สึกอบอุ่นเสมือนมาเที่ยวกับเพื่อนสนิทที่คอยดูแลต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าที่ต้องเดินทางมาเที่ยวประเทศเนปาลอีก จะต้องใช้บริการของบริษัทนี้อีกอย่างแน่นอนครับรีวิวของ: วัดสวะยัมภูนาถเขียนเมื่อ 12 มกราคม ค.ศ. 2024รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว - tigerxmenไทย55,273 ผลงานตลาดแห่งนี้จัดได้ว่าเป็นย่านการค้าคึกคักมากที่สุดในเมืองกาฐมาณฑุ เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมานานกว่า 4 ทศวรรษ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมมาซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเดินเทรคกิ้ง,นักปีนเขาทุกประเภทของเส้นทางหิมาลัย ซึ่งมีให้ท่านได้เลือกหลากหลายเส้นทางความยากและง่ายในการเดินพิชิตแตกต่างกัน
ดังนั้นถ้าท่านขาดสิ่งใดเกี่ยวกับอุปกรณ์และทุกๆสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเดินเทรคกิ้งที่นี่มีขายและยังมีบริการให้เช่ายืมด้วย ถือได้ว่าเป็นตลาดศูนย์กลางความเจริญของกรุงกาฐมาณฑุในประเทศเนปาล เพราะจะมีเงินสะพัดจากต่างชาติหลั่งไหลเข้ามายังตลาดแห่งนี้ค่อนข้างมาก
ซึ่งตลอดสองข้างทางในย่านนี้จะเต็มไปด้วยบริษัททัวร์ต่าง ๆ พร้อมทั้งมีโรงแรมและสถานที่พักหรูๆ หรือแม้กระทั่งสถานที่พักราคาถูกหลากสไตล์ให้เลือกตามความเหมาะสมของนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย
อีกทั้งยังมีร้านอาหารนานาชาติ, ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก,สินค้าทำด้วยผ้าขนสัตว์ ,เสื้อผ้า พร้อมทั้งร้านจำหน่ายโทรศัพท์,ซิมการ์ดอินเตอร์เน็ต อีกทั้งที่นี่ยังมีสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง,เครื่องประดับที่ทำจากหินชนิดต่างๆ ฯลฯ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางสู่ประเทศเนปาล จะต้องทำการมุ่งหน้ามายังตลาดทาเมลกันเป็นจำนวนมาก
เปรียบเสมือนสถานที่แห่งนี้ได้รวบรวมทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการซื้อไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ย่านธาเมลกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่อเรียกได้ว่าเป็นย่านการค้าเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ ทุกอย่างถูกรวบรวมมาไว้ยังสถานที่แห่งนี้แบบครบวงจร แต่จำหน่ายในราคานักท่องเที่ยวดังนั้นสินค้าส่วนใหญ่จะค่อนข้างราคาสูงแนะนำให้ต่อรองราคาและสำรวจราคาหลายๆร้านก่อนตัดสินใจซื้อในกรณีท่านมีเวลา หรือถ้าไปกับไกด์ท้องถิ่นเค้าจะพาไปยังร้านที่ขายสินค้าในราคาสมเหตุสมผลก็สามารถที่จะซื้อได้เลย
ในการเดินทางมาเที่ยวประเทศเนปาลแบบเจาะลึก เพื่อซึมซับศิลปะและอารยธรรมอันหลากหลายที่รวบรวมผู้คนที่แตกต่างทั้งในด้านภาษาและเผ่าพันธุ์แบบเข้าถึงวิถีท้องถิ่นอันเต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหลครั้งนี้
ไม่ว่าจะเป็นทัวร์เมืองกาฐมาณฑุ รวมไปถึงเส้นทางเดินเทรค Langtang Velley ข้าพเจ้าใช้บริการทัวร์ของ เพจ Heaven On Nepal ซึ่งเป็นของทีมงานคุณอาบิน เป็นชาวเนปาลที่สื่อสารภาษาไทยได้ ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของข้าพเจ้าได้อย่างครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุด
ซึ่งต้องบอกว่าประทับใจในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นงานบริการหรือการอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้รู้สึกอบอุ่นเสมือนมาเที่ยวกับเพื่อนสนิทที่คอยดูแลต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าที่ต้องเดินทางมาเที่ยวประเทศเนปาลอีก จะต้องใช้บริการของบริษัทนี้อีกอย่างแน่นอนครับรีวิวของ: ธาเมลเขียนเมื่อ 25 มกราคม ค.ศ. 2024รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว - jajacmchiangmai412 ผลงานสถานที่ที่เงียบสงบนอกเมือง ทิวทัศน์สวยงาม เหมาะแก่การไปเที่ยว มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของหุบเขาได้ สวยงามรีวิวของ: อารามโกปานเขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2016รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว
- ch_neuกรุงเทพมหานคร (กทม.), ไทย258 ผลงานผ่านมา 4 ปีหลังแผ่นดินไหว Maju Deval ก็ยังไม่ได้รับการบูรณะ หลายอาคาร มีการค้ำยัน ทำให้ความสวยงามหายไปเยอะ ก่อนแผ่นดินไหว สวยงามกว่านี้มากรีวิวของ: จัตุรัสดูร์บาร์ - กาฐมาณฑุเขียนเมื่อ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว
- Tuy Tuyกรุงเทพมหานคร (กทม.), ไทย1 ผลงานสวนร่มรื่นเล็ก มีนำ้พุเล็ก สวยงามดอกไม้นานาพันธุ์
เดินไม่ไกลจากโรงแรม และThamel
เหมาะสำหรับทุกคน มีร้านอาหารบริการข้างใน ต้องซื้อตั๋วเข้ารีวิวของ: Garden of Dreamsเขียนเมื่อ 11 มิถุนายน ค.ศ. 2024รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว - jajacmchiangmai412 ผลงานห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปประมาณ 8 กิโลเมตร ฐานของเขาศิวะปุรี (Shivapuri Hill) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปสลักหินของพระวิษณุ (Lord Vishnu) ในท่านอนที่เต็มไปด้วยงูกลางเกษียรสมุทร จัดได้ว่าเป็นงานแกะสลักหินฝีมือเยี่ยมรีวิวของ: พุทธนิลกัณฐะเขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2016รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว
- tigerxmenไทย55,273 ผลงานประเทศเนปาลมี มรดกโลกขององค์การยูเนสโกทั้งหมด 10 แห่ง และมรดกโลก 7 ใน 10 แห่งของประเทศเนปาลตั้งอยู่ในบริเวณเมืองกาฐมาณฑุ
จตุรัสกาฐมาณฑุ ดูร์บาร์ (Kathmandu Durbar Square)หรือที่รู้จักกันในชื่อจตุรัสหนุมานโธคา (Hanuman Dhoka Square) ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขากาฐมาณฑุ เป็น 1 ใน 3 อาณาจักรในยุคกลางของหุบเขากาฐมาณฑุ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกปกครองโดยกษัตริย์เนวารีมัลละ (Newari Malla) ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17
ด้านในของจัตุรัสดูร์บาร์จะประกอบด้วยวัด, พระราชวัง, ลานกว้างขนาดใหญ่ใช้สำหรับประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาและพิธีมงคลต่างๆ และมีรูปปั้นต่างๆมากมาย โดยลานนั้นชื่อว่า “หนุมานโธคา” (Hanuman Dhoka) และหนุมานธฺวคา) ตั้งชื่อตามรูปปั้นหนุมานที่อยู่ตรงทางเข้าวังรูปปั้นเทพเจ้าลิง จะตั้งอยู่บนเขื่อนหินสูงประมาณ 2 เมตร ทางด้านซ้ายของประตูพระราชวัง มีผ้าคลุมด้วยผ้าฝ้ายสีแดงทองแดงที่หน้าประตู มียามคอยดูแล
ในอดีตสถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นพระราชวังต้องห้ามของเนปาล จะมีขนาดใหญ่ที่สุดและรวบรวมงานศิลปะอันทรงคุณค่าไว้อย่างมากมาย ตลอดทางเดิน2ฝั่งของพระราชวังจะแสดงภาพและประวัติความเป็นมาของกษัตริย์รุ่นต่างๆ มีพระราชวังหลายหลังรวมอยู่ในอาณาบริเวณ เช่น สังดารีช่อค ลานโมฮันชอค พระราชวังนาโซ ฯลฯโดยพระราชวังนาซาล CHOWK มีความสำคัญอันดับต้นเพราะเป็นสถานที่จัดงานพระราชพิธีพระราชทานต่างๆจากตรงนี้เมื่อท่านมองขึ้นไปจะเห็น หอคอยบาสตาปูตร์เก้าชั้นของกษัตริย์
ราชวงศ์มัลละเป็นราชวงศ์โบราณดั้งเดิมของหุบเขากาฐมาณฑุแห่งประเทศเนปาลโดยสืบเชื้อสายมาจากชาวเนวาร์หรือจะเรียกว่าชาวเนวารี
อาณาจักรเนปาลมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากถึง 2,000 ปี โดยชนเผ่า Kirates เข้ามาตัั้งถิ่นฐานก่อนลำดับแรกในเขตหุบเขากาฐมาณฑุ ต่อมาตระกูลลิจฉวี ได้เข้ามายึดและปกครองดินแดนแถบนี้ โดยได้นำเอาศาสนาฮินดูและพุทธจากอินเดียมาเผยแพร่ที่นี่อย่างกว้างขวาง
จากนั้น ราชวงค์มัลละ ได้เข้ามาปกครองพื้นที่ทางตะวันตกของเนปาลและหุบเขากาฐมาณฑุทั้งหมด ต่อมาราชอาณาจักรของราชวงค์มัลละถูกแบ่งออกเป็น3 อาณาจักรคือ กาฐมาณฑุ, ภักตะปุร์ ละลิตปุร์(ปะฏัน) และกีรติปุร์ (ราชอาณาจักร Bhadgaon และราชอาณาจักร Patan)
กษัตริย์แห่งราชวงศ์มัลละผู้ปกครองกรุงกาฐมาณฑุได้ให้การสนับสนุนในด้านศิลปะและ วัฒนธรรมอย่างเต็มที่จึงทำให้มีวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมากมาย กษัตริย์ปฤถวีนารายัณ ชาห์ มหาราชาพระองค์ทรงเป็นต้นราชวงศ์ชาห์ได้สถาปณาราชอาณาจักร Gorkha โดย รวบรวมอาณาจักรทั้งหมดของเนปาลเป็นอาณาจักรเดียว
เนปาลเคยถูกรุกรานและพยายามเข้ายึดครองจากต่างชาติภายหลังได้รับชัยชนะในการทำสงครามได้แก่ อังกฤษที่มาจากด้านอินเดีย และจีนมาจากทางด้านทิเบต ในช่วงนี้เนปาลปกครองโดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหารประเทศโดยตระกูล Shamsher ประมาณ 100ปี ช่วงดังกล่าวกษัตริย์เป็นประมุขแต่เพียงในนามเท่านั้น
ภายหลังอำนาจในการบริหารประเทศได้กลับคืนมาสู่กษัตริย์อีกครั้งซึ่งในขณะนั้นคือ สมเด็จพระราชาธิบดีตรีภูวัน (Tribhuvan) ทำให้กษัตริย์แห่งราชวงศ์ชาห์ได้ขึ้นครองราชย์ปกครองประเทศต่อจากราชวงศ์มัลละแทน ในปี พ.ศ. 2551 รัฐบาลเนปาลประกาศยกเลิกระบอบกษัตริย์เข้าสู่ระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐแบบเต็มรูปแบบ
ประเทศเนปาล เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความแตกต่างและความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม และมีภาษามากถึง 70ภาษา เนื่องจากประเทศเนปาลเป็นแหล่งรวมผู้คนหลายเชื้อชาติและหลายชนเผ่าที่มีภาษาพูดและภาษาท้องถิ่นและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันแต่สามารถปรับตัวให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
ในการเดินทางมาเที่ยวประเทศเนปาลแบบเจาะลึก เพื่อซึมซับศิลปะและอารยธรรมอันหลากหลายที่รวบรวมผู้คนที่แตกต่างทั้งในด้านภาษาและเผ่าพันธุ์แบบเข้าถึงวิถีท้องถิ่นอันเต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหลครั้งนี้
ไม่ว่าจะเป็นทัวร์เมืองกาฐมาณฑุ รวมไปถึงเส้นทางเดินเทรค Langtang Velley ข้าพเจ้าใช้บริการทัวร์ของ เพจ Heaven On Nepal ซึ่งเป็นของทีมงานคุณอาบิน เป็นชาวเนปาลที่สื่อสารภาษาไทยได้ ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของข้าพเจ้าได้อย่างครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุด
ซึ่งต้องบอกว่าประทับใจในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นงานบริการหรือการอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้รู้สึกอบอุ่นเสมือนมาเที่ยวกับเพื่อนสนิทที่คอยดูแลต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าที่ต้องเดินทางมาเที่ยวประเทศเนปาลอีก จะต้องใช้บริการของบริษัทนี้อีกอย่างแน่นอนครับรีวิวของ: จัตุรัสหนุมานโธกาเขียนเมื่อ 16 มกราคม ค.ศ. 2024รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว - Dawisiya P338 ผลงานตลาดท้องถิ่น ไม่ไกลจากทาเมล มีสินค้าพวกเสื้อผ้า ของใช้ อุปโภค บริโภค ลูกค้าส่วนมากจะเป็นคนท้องถิ่น ฝุ่นจะค่อนข้างเยอะ แนะนำให้เอา หน้ากากกันฝุ่นไปด้วย
ในตลาดสินค้าที่ขาย ดูแปลกตารีวิวของ: Asanเขียนเมื่อ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2017รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว - tigerxmenไทย55,273 ผลงานความเชื่อเรื่องกุมารีนั้นมีมานานมากกว่า 300 ปีแล้ว กุมารีเป็นคำภาษาเนปาลที่มีความหมายตามตัวอักษรว่า “เทพธิดาบริสุทธิ์” เป็นเทพีที่มีชีวิตที่ชาวฮินดูและชาวพุทธบูชา เชื่อกันว่ากุมารีเป็นร่างที่สถิตย์ของเทพธิดาทาเลจู(เทวีทุรคา) มีพลังแห่งความสุขุม ประทานพรให้คนที่ไปกราบขอพรหายป่วยและช่วยให้สิ่งที่ไปขอพรจะสมความปรารถนาอีกทั้งยังช่วยปกป้องคุ้มครองให้ปลอดภัย และประทานพรให้มีความมั่งคั่ง
กุมารีจะแต้มติกะ (tika) สีแดงบนหน้าผากเรียกว่า “ภริคุ (bhrigu)” เป็นรูปดวงตาที่เปรียบเสมือน "ดวงตาที่ 3" ซึ่งเป็นตัวแทนของพลังจักรวาลของโลก ติกะที่สว่างและเปล่งประกายที่สุดนี้เป็นเครื่องหมายแห่งความเจริญรุ่งเรืองและอนาคตที่สดใสของประเทศ กุมารีจะต้องไม่เหยียบพื้นดินด้วยเท้าเปล่าเด็ดขาด เพราะงั้นเวลาจะไปไหนมาไหนจะต้องมีคนคอยอุ้มตลอดเวลา ไม่เว้นแม้กระทั่งในบ้านของตัวเอง
มีกุมารีในประะเทศเนปาลจะมีอยู่ทั้งหมด 11 องค์ ซึ่งถูกเลือกตามเมืองต่างๆ เพื่อปกป้องเมืองจากพลังความชั่วร้าย โดยองค์กุมารีที่สำคัญที่สุดจะมีอยู่ 3 องค์อยู่ที่เมือง Kathmandu จะเรียกว่ากุมารีหลวง, กุมารีเมืองPatan, กุมารีเมืองBhaktapur กุมารีจะได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพธิดาที่มีชีวิต โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต้องเด็กสาวที่ร่างกายไม่มีตำหนิเป็นผู้นับถือศาสนาพุทธ มาจากวรรณะศากยะ (ระบบวรรณะเฉพาะถิ่นในเนปาล) ในชุมชนชาวเนวาร์ (Newar) ซึ่งเชื่อกันว่าสืบเชื้อสายมาจากตระกูลศากยะเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า ผู้เข้าคัดเลือกจะต้องเป็นเด็กหญิงที่มีความกล้าหาญและไม่เกรงกลัวต่อสิ่งต่างๆ เช่น การฆ่าสัตว์เพื่อถวายบูชาเทพ และเด็กหญิงคนนั้นจะต้องไม่เคยเสียเลือดมาก่อน และดวงชะตาของเธอจะต้องตรงกับกษัตริย์ด้วย มีการเสี่ยงทายคัดเลือกอย่างละเอียดในอีกหลายขั้นตอนกว่าจะได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของเทพธิดากุมารีในฐานะร่างอวตารของเทพธิดาทาเลจู
เทพธิดาที่มีชีวิตที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการบูชาด้วยความเคารพอย่างสูงและแม้แต่ราชาก็ปฏิบัติตามประเพณีการรับ tika และพรจากองค์กุมารี
กุมารีไม่ควรสูญเสียเลือดสักหยดจากร่างกายและอยู่ในช่วงก่อนมีการเจริญวัย เชื่อว่าถ้ามีการเสียเลือดหรือหลั่งโลหิตออกมาจะเกิดภัยพิบัติหรือสิ่งไม่ดีร้ายแรงแก่บ้านเมืองโดยหลังจากที่กุมารีเข้าสู่วัยรุ่นและเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกการค้นหากุมารีองค์ใหม่จะเริ่มต้นขึ้นมาแทน
กุมารีหลวงจะอาศัยอยู่ในวิหารที่ทำจากไม้และกระเบื้อง 3 ชั้นอันงดงาม เรียกว่า Kumari Chhen หรือ Kumari Ghar ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมในแต่ละวัน วิหารนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของ Basantapur Durbar Square ซึ่งเป็นจุดที่นิยมของนักท่องเที่ยว ในทุกๆวันจะเห็นชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมที่นี่มากมาย แต่ไม่สามารถเข้าพบกุมารีเพื่อขอพรหรือถ่ายภาพร่วมเป็นที่ระลึกได้ท่านจะเห็นกุมารีหลวงได้จากหน้าต่างด้านบนของวิหารเท่านั้นยกเว้นในพระราชพิธีสำคัญเพียงไม่กี่ครั้งใน1ปี ที่กุมารีหลวงจะออกมาพบประชาชนทั่วไป ถ้าเป็นคนเนปาลสามารถเข้าพบและกราบขอพรกุมารีหลวงได้ถึงพื้นที่ด้านในที่พัก โดยวังของกุมารีหลวงจะอยู่ใกล้ๆกับ Kathmandu Durbar Square
กุมารีเมืองPatan, กุมารีเมืองBhaktapur ในกรณีที่เป็นต่างชาติสามารถเข้าพบ,ถ่ายรูปร่วมได้ โดยท่านสามารถทำบุญนำเงินไปวางไว้ที่พานด้านหน้าของกุมารีก่อนพร้อมอธิฐานขอพรต่างๆแล้วขออนุญาตถ่ายภาพร่วมเป็นที่ระลึกได้ ในระหว่างเข้าพบห้ามชวนกุมารีพูดคุยหรือสนทนาใดๆเด็ดขาดหรือห้ามแตะต้องโดนตัวกุมารี
กุมารีจะถูกเลือกตั้งแต่อายุยังน้อยจน 3 ขวบ และต้องออกจากบ้านพ่อแม่จนกว่าจะมีกุมารีอื่นมาแทนที่เธอ ถ้าเป็นกุมารีหลวงเด็กหญิงจะอยู่โดยไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย และยิ่งไปกว่านั้นพ่อแม่ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปเยี่ยมลูกสาวของพวกเขา และจะได้เห็นก็ต่อเมื่อกุมารีปรากฏตัวในโอกาสพิเศษประมาณ 13 ครั้งต่อปี แต่ถ้าเป็นกุมารีเมืองPatan, กุมารีเมืองBhaktapur อนุญาตให้พ่อ,แม่อยู่ร่วมด้วยกันได้
ปัจจุบันบ้านกุมารีมีครูสอนพิเศษส่วนตัวและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษา กุมารีที่ออกจากตำแหน่งไปแล้วจะมีเงินเดือนให้เดือนละประมาณ 3,000 รูปี หรือประมาณ 1,593 บาทเป็นค่าส่งเสริมการศึกษาให้กับกุมารีคนเก่าๆ ที่ออกจากตำแหน่งไปแล้ว และหากใครแต่งงานก็จะได้รับเงิน 50,000 รูปี หรือประมาณ 26,556 เป็นค่าสนับสนุนการแต่งงานครับรีวิวของ: พระราชวังของกุมารีเขียนเมื่อ 22 มกราคม ค.ศ. 2024รีวิวนี้เป็นความเห็นหรือทัศนะของสมาชิก Tripadvisor และไม่ใช่ของ Tripadvisor LLC Tripadvisor ทำการตรวจสอบรีวิว