กำลังมองหาที่พักในอินเตอร์เลเคนอยู่ใช่ไหม ลองมาดูโรงแรม ลินด์เนอร์ แกรนด์ เบเอารีฟาเกอรีสอร์ทหรูหราที่เป็นประตูสู่สิ่งที่ดีที่สุดของอินเตอร์เลเคน
ห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ทีวีจอแบน และมินิบาร์ และแขกยังสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ด้วยบริการอินเทอร์เน็ตฟรีของรีสอร์ทแห่งนี้
รีสอร์ทแห่งนี้มีรูมเซอร์วิส และเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก สถานที่ให้บริการแห่งนี้ยังมีบริการสระว่ายน้ำ และอาหารเช้าฟรีช่วยให้การเข้าพักของคุณยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก
ข่าวดีสำหรับผู้ที่สนใจเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ระหว่างเยือนอินเตอร์เลเคนเพราะโรงแรม ลินด์เนอร์ แกรนด์ เบเอารีฟาเกอตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Rom.-Katholische Kirchgemeinde (0.2 กม.) และ Schlosskirche (0.3 กม.)
เมื่อคุณมาถึงแล้ว อย่าลืมแวะไปที่ร้านอาหารอิตาลีอย่าง Restaurant & Pizzeria Tenne, Ristorante e Pizzeria Sapori และ Per Bacco - West End ซึ่งต่างก็อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม ลินด์เนอร์ แกรนด์ เบเอารีฟาเกอ
เราเชื่อว่าคุณจะมีความสุขกับการพักที่โรงแรม ลินด์เนอร์ แกรนด์ เบเอารีฟาเกอขณะที่คุณสัมผัสทุกประสบการณ์อันยอดเยี่ยมของอินเตอร์เลเคน
เราเพิ่งใช้วันหยุดห้าวันอันน่าประทับใจของเราไปที่โรงแรมนี้ เมื่อเรามาถึง เราได้รับการแนะนำว่าเรากำลังได้รับการอัพเกรดเป็นห้อง 207 แบบ Junior Suite ซึ่งห้องพักห้องนี้มีขนาดและมีบริเวณนั่งเล่นที่กว้างมาก อีกทั้งมีเครื่องชงกาแฟใช้เราด้วย และมีนมกล่องอยู่ในมินิบาร์เต็มไปหมดเลย เรามาถึงด้วยรถไฟตอน 20.00 น. ซึ่งหมายความว่าเราอยากจะหาอะไรกินกันแล้ว แต่เราไม่ต้องการลงไปกินที่ภัตตาคารแต่อย่างใด ก็เลยมีคนแนะนำให้เราไปที่บาร์ แต่ปรากฏว่าที่บาร์ก็กำลังจะปิดแล้ว เนื่องจากวันรุ่งขึ้นจะมีการจัดปาร์ตี้ของพนักงานนั่นเอง แต่เราสามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มบางอย่างได้บ้าง โดยมีพนักงานต้อนรับนั่นเองที่มาเสิร์ฟให้เรา ฉันก็เลยคิดว่านี่มันแปลกดีนะ สำหรับโรงแรมระดับท็อปขนาดนี้ เราได้รับเมนูมาซึ่งมีพิซซ่าให้เลือกอยู่สี่แบบด้วยกัน เราจึงสั่งไปถาดนึงเพราะกะจะเอามาแบ่งกันกิน แต่ให้ตายเถอะ เมื่อพิซซ่ามาเสิร์ฟเรารู้สึกผิดหวังอย่างแรง ทั้งในแง่ของขนาดและหน้าของพิซซ่า อย่างไรก็ตาม มันก็ถือว่าเพียงพอสำหรับพวกเราแล้วในตอนนั้น สำหรับอาหารเช้าในวันรุ่งขึ้น เราเลือกบุฟเฟต์เพื่อให้สามารถเลือกกินกันได้เองตามใจชอบ แต่ตรงส่วนนี้ก็ต้องยอมรับว่าฉันยังไม่พบว่ามันขาดอะไรไปเลย หลังจากออกไปกินอะไรข้างนอกในวันต่อมาที่ภัตตาคาร Des Alpes ซึ่งต้องออกมาประมาณ 5 นาที เรามาที่นี่ตามคำโฆษณาของพนักงานนั่นเอง ในครั้งนี้เราสั่งพิซซ่าแบบเดียวกับที่สั่งในคืนแรกที่มาถึง และเมื่อพิซซ่ามาเสิร์ฟ ปรากฏว่ามันมีขนาดใหญ่มากเลย เราเลยกินกันได้เต็มที่คนละถาดเท่านั้นเอง มันช่างเทียบไม่ได้เลยกับพิซซ่าที่เรากินในคืนแรก ซึ่งเราได้เล่าให้พนักงานของโรงแรมฟัง และดูเหมือนเขาก็ค่อนข้างแปลกใจกับเรื่องที่เราเล่าอยู่เหมือนกัน เราสั่งพิซซ่ากลับที่พักแล้วเก็บเอาไว้ในตู้เย็นสำหรับกินในวันต่อไปด้วย และเนื่องจากบังเอิญในวันต่อมาฝนได้ตกลงมาอย่างหนักเลย เราก็เลยเอาพิซซ่าลงมาอุ่นแล้วนั่งกินกันในบาร์ จริงๆ แล้วมันรสชาติอร่อยมากเลยนะ ขอบอก! จากนั้นเราก็ไปเล่นน้ำกันที่สระว่ายน้ำในร่ม ซึ่งนับว่าเป็นอะไรที่ดีมากเลย เพราะน้ำมันไม่เย็นหรือร้อนเกินไปนั่นเอง ในช่วงสองวันสุดท้ายเราทานอาหารกันที่ภัตตาคาร ซึ่งภรรยาของฉันไม่อยากกินอาหารในเมนู และฉันเองก็ไม่ได้อยากกินอาหารที่อยู่ในสิ่งที่เรียกว่าเมนู Snack เหมือนกัน ฉันถามพนักงานต้อนรับหน้าร้านว่ามีอะไรอย่างอื่นให้กินบ้าง แต่พวกเธอกลับตอบมาว่าไม่ทราบ แต่เดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง อย่างไรก็ตาม อาหารในตอนค่ำที่เราทานในมื้อนั้นรสชาติมันก็อร่อยมากเลย ปัญหาเรื่องเดียวก็คือในคืนสุดท้าย เราได้รับการบอกกล่าวว่าพนักงานของโรงแรมไม่พอทำงาน เพราะลาป่วยไปสองคน ดังนั้นเราสามารถทานอาหารได้เฉพาะช่วง 18.00 น. หรือ 21.00 น. เท่านั้น ฉันก็เลยบอกพนักงานต้อนรับไปว่านี่มันฟังดูตลกดีนะ และเนื่องจากเหตุผลทางการแพทย์ ภรรยาของฉันจะต้องทานอาหารให้ตรงเวลา 19.00 น. ซึ่งในที่สุดพวกเขาก็ยอมรับข้อเรียกร้องของฉันหลังจากที่ได้คุยโทรศัพท์กับผู้จัดการภัตตาคารไปหลายรอบแล้ว และก็เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในคืนแรกนั่นเอง พวกเรานั่งกันอยู่ในภัตตาคาร แล้วก็มองออกไปที่แม่น้ำ โดยที่แทบจะไม่มีลูกค้าคนอื่นๆ อยู่ด้วยเลย ยกเว้นสามีภรรยาคู่นึงที่เข้ามาขณะที่เรากำลังจะออกจากภัตตาคารไปในช่วง 20.00 น. เราทำเรื่องเช็คเอาต์ออกจากที่นั่นในตอนเย็น เนื่องจากเที่ยวบินขาออกของเราในวันรุ่งขึ้นนั้นมันเช้ามาก แต่พวกเขาก็ทำบัญชีของเราไม่ถูกซะอีก เพราะจริงๆ เราได้จ่ายล่วงหน้าผ่านบริษัทรับจองไปแล้ว แต่พวกเขาจะคิดเงินเราอีก ในที่สุดเขาก็บอกว่าเราต้องจ่ายภาษีห้องพัก! ซึ่งสุดท้ายก็ตกลงจำนวนเงินกันได้ เป็นไปตามที่ฉันประมาณเอาไว้คร่าวๆ ตั้งแต่แรกนั่นแหละ ในเช้าวันต่อมาเราได้รับอาหารเช้าที่เราสั่งล่วงหน้าเอาไว้ แล้วเขาก็มีหม้อชาให้เราใบนึง เอาไว้จิบไปพรางๆ ขณะนั่งรอรถ Shuttle Bus เพื่อไปยังสถานีรถไฟต่อไป ฉันขอแนะนำโรงแรมนี้ให้กับทุกๆ คน เพราะทุกๆ ที่ที่เราได้สัมผัส รวมถึงการแต่งตัวของพนักงานนั้นจะดูเรียบร้อยมาก น่าประทับใจ เป็นมิตร และพูดภาษาอังกฤษได้เสมอ โดยที่บางคนสามารถพูดได้ดีมากๆ เลยเมื่อเทียบกันคนอื่นๆ แต่ฉันขอแนะนำว่าควรจะมีเมนูสำหรับรูมเซอร์วิสเอาไว้ในห้องด้วย เช่นเดียวกันที่มีในบาร์และภัตตาคาร…
เมื่อเห็นในตอนออนไลน์ ฉันและเพื่อนชอบรูปลักษณ์ภายนอกของโรงแรมนี้มาก เพราะมันดูเหมือนจะเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่บนภูเขายังไงยังงั้นเลย แต่จริงๆ แล้วมันต้องอยู่บนถนนเมนสตรีทของ อินเตอร์ลาเคน นี่เอง แต่ว่ามีฉากหลังเป็นภูเขาและตั้งอยู่ในหมู่บ้านเท่านั้นเอง โรงแรมนี้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟมาก ดังนั้นจึงมีทางเดินไปยังสถานีรถไฟได้ ซึ่งมันเป็นสถานีที่ใหญ่และมีรถประจำทางที่วิ่งอยู่ในตัวเมืองผ่านหลายสาย เมือง อินเตอร์ลาเคน นี่สวยงามมาก แต่ว่าเงียบเอามากๆ เหมือนกัน ฉันไม่คิดว่ามันจะเงียบขนาดนี้ แต่การพักของเราที่นี่ก็น่าประทับใจมาก สำหรับโรงแรมระดับ 5 ดาวแล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าฉงนมากที่ไม่มี WIFI ให้ใช้ภายในห้องพัก เราก็เลยต้องลงไปที่ล็อบบี้ตลอดถ้าต้องการใช้ internet หรือ wifi ฟรี ฉันคิดว่าราคาในระดับที่จ่ายในการพักที่นี่ควรจะมี wifi ให้ใช้แบบฟรีๆ ทุกห้องเลยด้วยซ้ำไป เพราะรายการทางโทรทัศน์ก็แทบไม่มีอะไรให้ดูเลย และเมื่อมาทำความสะอาดห้อง พวกเขาก็ไม่ทำความสะอาดให้มันถูกต้องเรียบร้อยจริงๆ เพราะยังมีแก้วชาและกาแฟที่เราใช้เมื่อคืนที่แล้ววางอยู่ตรงที่เดิมอยู่เลย พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำความสะอาดห้องคุณให้สะอาดจริงๆ และไม่เคยคิดจะเปลี่ยนข้าวของอะไรให้ใหม่ จนฉันต้องบอกให้พนักงานต้อนรับช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ที อีกทั้งห้องพักที่เราพักก็ไม่มีแอร์ให้อีกด้วย ทำให้ปากเราแห้งมากในตอนเช้า จริงๆ แล้วพนักงานที่นี่ก็ถือว่าบริการใช้ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วเราจะต้องหาทางเองก่อนแทบทุกเรื่องเลย พวกเขาไม่ค่อยบอกอะไรล่วงหน้าหรอก แต่มันก็เป็นการพักที่เราเพลิดเพลินดีเหมือนกัน เพียงแต่ทางโรงแรมอาจจะต้องใส่ใจกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ให้มากกว่านี้เท่านั้น โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีทีเดียว…
เราประหลาดใจว่าสุนัขของเราไม่สามารถไปที่เลานจ์อาหารเช้าได้เมื่อโรงแรมแจ้งว่าเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง เราผิดหวังเมื่อเช็คเอาท์ไม่มีพนักงานไปเก็บรถของเราจากที่จอดรถไปยังทางเข้าหลัก โดยปกติจะไม่เป็นปัญหา แต่เส้นทางระหว่างโรงแรมและที่จอดรถที่ทำจากหินสวนเล็ก ๆ ทำให้กระเป๋าของเราไม่สามารถม้วนได้อย่างถูกต้อง เราต้องขนกระเป๋าทั้งหมดของเราตลอดทางจนถึงที่จอดรถ สำหรับโรงแรม 5 ดาวฉันคาดหวังมากกว่านี้
โรงแรมนี้อยู่ไกลไม่ตรงตามมาตรฐาน 5 * คุณภาพมันมี แต่น่าเสียดายที่ไม่ตรงกับราคาและเป็นเช่นนั้นราคาแพงเกินไป สำหรับสิ่งที่คุณได้รับคุณจ่ายมากเกินไป พื้นที่เพื่อสุขภาพแทบจะไม่ได้รับการจัดประเภทว่าเป็นสุขภาพเพราะมันไม่มีสระน้ำอุ่นหรือจากุซซี่ มีสระว่ายน้ำเพียงแห่งเดียวสำหรับการว่ายน้ำและห้องซาวน่าสองห้องสำหรับ 4 คนไม่ต้องพูดถึงการขาดเตียงอาบแดดรอบสระว่ายน้ำ เมื่อเรามาเราไม่ได้มีที่สำหรับวาง (สังเกตว่ามีเพียง 6 คนในเวลาเดียวกัน) บริการอาหารเย็นอาหารตามสั่งช้ามาก = อาหารค่ำสามคอร์สใช้เวลา 3 ชั่วโมงโดยเริ่มจากหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่เรามาถึง
ที่นี่เป็นโรงแรมที่ดีเยี่ยมสะดวกในการไปยังร้านค้าและสถานีพร้อมห้องอาหารที่ดีและพนักงานที่เป็นมิตร ปัญหาคือว่าบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าแบบร้อนไม่สามารถตอบสนองรสนิยมชาวยุโรปหรืออเมริกาเหนือได้ ลองนึกภาพฉันพักสัปดาห์และเบคอนถั่วอบปรากฏเพียงสองครั้ง แขกหลายคนแสดงความคิดเห็นกับฉันว่าพวกเขาต้องการเพียงผู้เข้าชมจากเอเชียหรือตะวันออกกลางและเพลิดเพลินกับไข่เบคอนและการตัดแต่งไม่ควรเป็นคำสั่งพิเศษ โรงแรมที่ควรหลีกเลี่ยงหากคุณต้องการเบคอนไส้กรอกและไข่สำหรับมื้อเช้า
คุณเป็นเจ้าของหรือผู้บริหารสถานที่ให้บริการแห่งนี้ใช่ไหม อ้างสิทธิ์รายชื่อธุรกิจของคุณเพื่อตอบรีวิว อัปเดตโปรไฟล์ และอื่นๆ อีกมากมายได้ฟรี
อ้างสิทธิ์รายชื่อธุรกิจของคุณ