เม็กซิโกซิตี้เป็นเมืองที่สร้างขึ้นบนซากปรักหักพังของเมืองเตนอชตีตลัน เมืองหลวงแห่งอาณาจักรแอซเท็กโบราณ เป็นเมืองที่ผสมผสานความร่วมสมัยในแบบที่ไม่เหมือนใครและคงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์อันงดงาม พิพิธภัณฑ์ระดับโลก ร้านอาหารเรียงราย และสวนพักผ่อนเอนกายไปกับวัฒนธรรมมากมายที่ยังมีให้เห็นทั่วไป สนุกไปกับสถานบันเทิงยามค่ำคืน ช้อปปิ้งให้หนำใจ และประวัติศาสตร์ที่คุณต้องทึ่งกับเมืองนี้ ไม่เกี่ยวกับว่าคุณจะท่องเที่ยวแบบไหนก็ตาม

สูงขึ้นไปบนเขาที่เย็นสบาย อัญมณีแห่งยุคล่าอาณานิคมที่เต็มไปด้วยถนนโรยกรวดและโบสถ์ที่สวยงามแห่งนี้ได้เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ศิลปินมากมายด้วยแสง, สี และลักษณะเฉพาะตัว การผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมแบบบาโรค, นีโอคลาสิก และนีโอโกธิคของสิ่งก่อสร้างภายในเมืองนี้ สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนจากโบสถ์หินสีชมพูจากศตวรรษที่ 18 บนพลาซ่า พรินซิเพิล (Plaza Principal) เมืองนี้สร้างขึ้นในปี 1542 โดยเป็นเมืองที่มีการผสมผสานระหว่างอิทธิพลของสเปน (Hispanic) และเมโสโปเตเมีย (Mesoamerican)

รัฐปวยบลาตั้งอยู่ใต้ร่มเงาของภูเขาไฟโปโปคาเตเปตล์ ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามน่าทึ่งไปจนถึงโปรแกรมการท่องเที่ยวเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ในเม็กซิโก ด้วยลักษณะพิเศษของอาคารที่ปลูกสร้างสไตล์ตาลาเบราที่มีสีสันและได้รับการขนานนามว่าเป็นต้นกำเนิดของอาหารประจำชาติของเม็กซิโกอย่าง mole poblano ปวยบลาจึงถือเป็นจุดเด่นที่ดีที่สุดของเม็กซิโก

แม้ว่าจะไม่มีบรรยากาศที่สดชื่นในเมืองรีสอร์ทเม็กซิกันส่วนใหญ่ แต่รัฐเบรากรุซก็ได้ทำให้สามารถชมวิถีชีวิตบนอ่าว การผสมผสานของกลิ่นอายแอฟริกัน-แคริบเบียนกับสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลในทาวน์พลาซ่าที่มีชีวิตชีวา ในขณะที่ทางเดินริมทะเล Malecon ก็เหยียดยาวเลียบหนึ่งในท่าเรือที่คึกคักที่สุดในเม็กซิโก

กัวนาจัวโต (Guanajuato) เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของเทศกาลคาร์วานติโน่ (Cervantino) หรือเทศกาลศิลปะที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งยังเป็นมรดกโลก เมืองเก่ามีอายุย้อนกลับไปถึงในศตวรรษที่ 16 และคุณสามารถไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางศาสนาและศิลปะของเม็กซิโกมากมาย กัวนาจัวโตยังเป็นถิ่นที่ตั้งของการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อเอกราชเม็กซิโกและกบฏต่อต้านอาณานิคมที่ล้มเหลวครั้งแรกอีกด้วย