เบอร์ลินเป็นเมืองแห่งความทันสมัย ไล่เรียงตั้งแต่แฟชั่น สถาปัตยกรรม ไปจนถึงประวัติศาสตร์การเมือง กำแพงเบอร์ลินเปรียบเสมือนอนุสรณ์สถานสำหรับรำลึกบรรยากาศหลังสงครามที่ตึงเครียด ทว่าภาพกราฟฟิตี้ที่ถ่ายทอดลงบนซากกำแพงนั้นได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญทางสังคม ลองเยี่ยมชมนาฬิกา Weltzeituhr (เวลาโลก) ตามด้วยโมเดลระบบสุริยะ และย้อนเวลาหาอดีตกันต่อที่ร้านอาหารเก่าแก่สมัยศตวรษที่ 16 อย่าง Zur Letzten Instanz เชื่อไหมล่ะว่าที่นี่เคยเป็นร้านอาหารโปรดของนโปเลียนและบีโธเฟ่นมาแล้ว

มิวนิคเป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แบบบาวาเรียน คอเบียร์ต้องไม่พลาด Hofbräuhaus หรือสวรรค์แห่งเบียร์ฮอพส์ที่ผลิตเบียร์มานานตั้งแต่ยุค ค.ศ. 1589 ยังไม่รวมตำนานแห่งเทศกาลเฉลิมฉลองอย่าง Oktoberfest สำหรับช่วงเวลาแห่งการกินดื่มเบียร์พื้นเมืองและอาหารเยอรมันสุดพิเศษ มาเลียนแบบนักกีฬาระดับโลกกันที่โอลิมเปียพาร์คกันดีกว่า ใส่รองเท้าสเก็ตและร่อนไปรอบลานสเก็ตน้ำแข็งให้เหมือนแชมป์โลกยังไงยังงั้น ถนนเลียบมาเรียนปลาทซ์เหมาะสำหรับการนั่งชมผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาและ Glockenspiele of City Hall

ฮัมบูร์กเป็นเมืองที่มีขนาดและประชากรน้อยกว่าเบอร์ลินเพียงเมืองเดียวเท่านั้น และยังเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปอีกด้วย เดินเล่นไปตามทางเดินริมน้ำและคลองที่มีอยู่มากมาย แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมที่นี่จึงเคยถูกขนานนามว่า "เวนิสทางเหนือ" อย่าพลาดการแวะชมตลาดปลาพื้นเมือง เขตเมอร์เชนท์ ที่รู้จักกันดีจากสถาปัตยกรรมที่ใช้อิฐสีแดง ร้านอาหารริมน้ำชั้นเยี่ยม หรือการเที่ยวกลางคืนในย่านมหาวิทยาลัย เอ ... เราได้เอ่ยถึงย่านโคมแดงไปหรือยังนะ ที่นี่ขึ้นชื่อมากเกี่ยวกับ ... โคมแดง

บริเวณชายฝั่งของแม่น้ำเอลบ์อันน่าอยู่คือที่ตั้งของเมืองเดรสเดนของประเทศเยอรมันที่เขียวชอุ่มและเต็มไปด้วยป่า สวนและสวนสาธารณะ เมืองนี้เปี่มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและศิลปะ นักประพันธ์อุปรากรมือหนึ่งอย่างวิลเฮล์ม แวกเนอร์ได้สร้างผลงานจำนวนมากที่นี่ในช่วงปี 1800 และปัจจุบันบริษัทอุปรากรอิสระยังคงรักษาศิลปะคลาสสิกให้คงความทันสมัยและใหม่ ผู้ชื่นชอบในวัฒนธรรมจะต้องชอบพิพิธภัณฑ์ Gemäldegalerie Alte Meister และพิพิธภัณฑ์ Grünes Gewölbe และผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรมคงต้องน้ำลายหกเมื่อได้มาเห็นสไตล์สถาปัตยกรรมแบบ mélange ที่ปรากฏในตึกระฟ้าของสถานที่แห่งนี้

โคโลญมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 2,000 ปี และนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะได้พบกับทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่หอคอยโรมัน ไปจนถึงโบสถ์แบบโกธิก และสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ชั้นยอด โคโลญมีพิพิธภัณฑ์อยู่มากมายหลายรูปแบบ แต่อย่าลืมแวะชมพิพิธภัณ์ฑศิลปะประยุกต์ พิพิธภัณฑ์ลุดวิก และถ้าคุณชอบของหวานก็ต้องแวะไปพิพิธภัณฑ์ช็อคโกแล็ตด้วย ขอเตือนไว้ก่อนนะ ร้านขายของที่ระลึกที่นั่นจะทำให้แผนลดความอ้วนของคุณพังไม่เป็นท่า

แฟรงก์เฟิร์ตเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งการคมนาคม จึงไม่น่าแปลกที่จะเห็นผู้คนเดินทางเข้าออกเมืองนี้กันว่าเล่น สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากแวะพักและชมเมืองสักพัก บอกได้เลยว่าเมืองเก่าแก่อายุ 2,000 ในประเทศเยอรมันแห่งนี้มีอะไรให้ชมและทำมากมาย วิหารเซนต์บาร์โทโลมัสเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์กอธิคที่อยู่ยั้งยืนยง เนื่องจากเคยถูกทำลายราบมาก่อนและต่อมาได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ในช่วงศตวรรษที่ 14 ชมภาพยนตร์กันต่อที่พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์เยอรมนี เดินชมโถงนิทรรศการในหอศิลป์ที่มีให้เลือกหลากหลายในแฟรงค์เฟิร์ต หรือจะเดินขึ้นไปยังยอด Main Tower เพื่อชมเมืองในมุมสูงแบบ 360 องศา

นูแรมเบิร์กเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศบาวาเรียมีจำนวนประชารอาศัยกว่าครึ่งล้านคน แม้จะมีประวัตศาสตร์อันเก่าแก่_ยาวนานนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 แต่นูแรมเบิร์กมักจะถูกกล่าวถึงกับเรื่องราวในศตวรรษที่ 20 มากกว่า (โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง) ก่อนหน้านี้ที่นี่เคยเป็นสถานที่ซ้อมรบของนาซีและเกือบถูกทำลายราบโดยระเบิดจากกลุ่มสัมพันธมิตร อีกทั้งยังเป็นที่ตัดสินคดีหลังสงครามนูแรมเบิร์กสิ้นสุดอีกด้วย เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมากย ทั้งปราสาทนูแรมเบิร์กที่สร้างขึ้นใหม่และขนมปังขิงที่มีชื่อเสียงก้องโลก ณ ตลาดฮ็อบมาร์ท ฮันเซลกับเกรเทลจะต้องหลงรักที่นี่อย่างแน่นอน

ดีสเซลดอร์ฟเป็นเมืองหลวงของนอร์ท ไรน์ เวสท์ฟาเลนและเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่แข็งแกร่งของเขตพื้นที่นี้ โดยตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำไรน์ อัลสแตดท์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เมืองเก่าที่น่าหลงใหลของดีสเซลดอร์ฟเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งสถานที่เที่ยวกลางคืนที่มีเบียร์ดำประจำชาติอย่าง "Altbier" ให้บริการอย่างไม่อั้น ชาวดีสเซลดอร์ฟให้ความสำคัญกับเบียร์ของตนมาก "โคนิงเซลเล" (หรือที่ชาวท้องถิ่นเรียกสั้นๆ ว่า "โค") เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงของดีสเซลดอร์ฟที่มีร้านค้าของผลิตภัณฑ์ชั้นนำมากมาย และพิพิธภัณฑ์คุนส์ท พลาสท์ก็เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีคอลเลกชันงานศิลปะชั้นเยี่ยมแห่งหนึ่งของลุ่มน้ำไรน์

ซุคสปิตซ์ (Zugspitze) เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี โดยอยู่ทางทิศใต้ของการ์มิชและพาร์เทนเคอร์เช่น (Garmisch-Partenkirchen) ที่บริเวณชายแดนติดกับประเทศออสเตรีย ยอดเขาที่นี้สูงถึงเกือบ 10,000 ฟุต และเป็นจุดเล่นสกีบนธารน้ำแข็งที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง การ์มิชและพาร์เทนเคอร์เช่นเคยเป็นเมืองสองเมืองที่แยกออกจากกัน แต่ก็ได้รวมเข้าเป็นเมืองเดียวเพื่อจัดกีฬาโอลิมปืคฤดูหนาวในปี 1936 นอกจากเส้นทางสกีลงเขาที่ยาวเกือบ 75 ไมล์ในระดับความยากต่างๆ แล้ว ซุคสปิตซ์ยังมีเส้นทางสกีแบบครอสคันทรี่ที่ยาวกว่า 68 ไมล์, ลานลอนหิมะต่างระดับ และเนินแบบฮาล์ฟไปป์ขนาดใหญ่แห่งแรกของเยอรมนีอีกด้วย ถ้าคุณบอกใครว่าคุณได้ไปเล่นสกีที่การ์มิช เขาจะต้องทึ่งในตัวคุณ เพราะฉะนั้นอย่าลืมกระจายข่าวทันทีที่คุณกลับจากการ์มิช

สตุ๊ตการ์ท เมืองที่รายล้อมด้วยไร่องุ่นที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี นับเป็นเมืองที่น่าสนใจสำหรับผู้ชื่นชอบศิลปวัฒนธรรม เนื่องจากมีทั้งคณะบัลเล่ต์ อุปรากร และคณะประสานเสียงที่ได้รับการยอมรับ ในขณะเดียวกัน ผู้ที่คลั่งไคล้รถยนต์ก็จะได้เต็มอิ่มกับพิพิธภัณฑ์ของเมอร์เซดีซ์-เบนซ์ เมืองวิลเฮมม่ามีพื้นที่สีเขียวมากกว่าเขตพื้นที่เมือง และเป็นเมืองที่เหมาะกับงานเทศกาลเฉลิมฉลอง รวมทั้งเป็นที่ตั้งของสวนสัตว์และสวนพฤษชาติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป WŸrttembergisches Landesmuseum คือสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง เป็นที่ที่เหมาะกับการศึกษาประวัติศาสตร์ยุคหิน มีรถประจำทางและรถไฟฟ้าใต้ดินที่ทำให้เดินทางสะดวก