เฟื่องฟ้าละลานตา โบสถ์คริสต์เก่าแก่ตั้งตระหง่าน และถนนกว้างพร้อมต้นไม้เขียวชอุ่มสองข้างทางในเมืองปอนดิเชร์รีย์อาจทำให้คุณอดคิดไม่ได้ว่ากำลังอยู่ในฝรั่งเศสตอนใต้จริงๆ แทนที่จะเป็นเพียงอดีตอาณานิคมฝรั่งเศสเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ที่นี่ยังคงเป็นอินเดียไม่ผิดแน่ ด้วยเทศกาลรื่นเริงอันมีสีสัน อนุสาวรีย์มณฑปอายีมันดาปัมอันเลื่องชื่อ และอาศรมศรีออโรบินโท เมืองนี้มีชายหาดเงียบสงบทอดตัวยาวจากเหนือจรดใต้ เหมาะสำหรับการว่ายน้ำและเดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศยามพระอาทิตย์ขึ้น

เขาอบู (Abu) ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาอันเขียวขจี บนยอดสูงสุดของเทือกเขา Aravali เป็นเมืองหลวงฤดูร้อนของรัฐราชสถานแห่งอินเดีย ด้วยสภาพอากาศเย็นและสดชื่น ทำให้สถานที่แห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งแก่การพักผ่อนฟื้นฟูร่างกาย ไปเยี่ยมชมวัดลัทธิเชนมากมาย ซึ่งรวมถึงวัดดิลวรา (Dilwara) ที่มีสถาปัตยกรรมการแกะสลักหินอ่อนสีขาวอันงดงาม หรือจะเลือกไปชมความงามของป้อมอชัลการ์ห (Achalgarh) ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดต่างๆ มากมาย

เมืองพาราณสีหรือเบนาเรสซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอินเดียมีความศักดิ์สิทธิ์ด้วยศาสนาฮินดู พุทธและเชน เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขากังกาอันอุดมสมบูรณ์และบนชายฝั่งของแม่น้ำคงคา พาราณสีเป็นสถานที่แสวงบุญของชาวฮินดูที่มาอาบน้ำในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อเมืองแห่งวิหารและดวงประทีปแห่งวัฒนธรรม พาราณสีได้สร้างนักเขียนที่มีชื่อเสียงขึ้นมามากมาย นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางการทอผ้าไหม จึงต้องซ้อมต่อราคาที่ตลาดอันวุ่นวายแห่งนี้ให้ดีเพื่อหาซื้อของที่ระลึกที่สวยงาม สามล้อเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการใช้เดินทางสัญจรในเมืองแห่งนี้

อดีตเมืองอาณานิคมของอังกฤษนี้เป็นศูนย์รวมของหลักฐานที่แน่ชัดว่ามีผู้คนพักอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มาอย่างต่อเนื่องกว่าสองพันปี ด้วยอาคารบ้านเรือนที่หรูหราและหลากหลายในด้านสถาปัตยกรรม ตั้งแต่ซากปรักหักพังไปจนถึงบ้านแบบวิกตอเรีย ศูนย์กลางของเทศกาลที่คึกคักและชุมชนของศิลปินที่ไม่หยุดนิ่ง ตลาดที่จอแจ และวัดที่มีผู้คนอัดแน่นอยู่ภายในทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่หนาแน่นและเต็มไปด้วยมลพิษ แต่ก็สามารถเติมชีวิตชีวาให้คุณได้อย่างล้นเหลือ

ทั้งพระราชวังทองอร่าม ตลาดน้ำ ยอดแหลมปูกระเบื้องเคลือบของตึกที่สูงตระหง่าน ฟังดูดั่งภาพในเทพนิยายเลยใช่ไหม เกือบใช่เลย ที่นี่คือกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยที่แบ่งการปกครองออกเป็น 50 เขต ขอเชิญช้อปปิ้งให้หนำใจที่ประตูน้ำหรือสยามสแควร์ จากนั้นค่อยผ่อนคลายกายากันที่สวนดุสิตที่ออกแบบในสไตล์ยุโรป ฝั่งธนบุรีเป็นสถานที่ตั้งของวัดอรุณที่งดงาม แต่ถ้าข้ามฝั่งมายังพระนคร คุณจะได้พบกับวัดโพธิ์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระนอนขนาดใหญ่ อร่อยน้ำตาไหลไปกับข้าวเหนียวมะม่วงได้ที่ร้านค้า ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวังที่งดงามด้วยทองอร่ามเรืองรอง

เมืองใหญ่ที่สุดอันคับคั่งคึกคักของเวียดนามแห่งนี้เป็นตัวกำหนดทิศทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของประเทศ เมืองไซ่ง่อนเก่าอวดโฉมสถาปัตยกรรมอาณานิคมฝรั่งเศสอันมีเสน่ห์ และถนนหนทางอันกว้างขวางที่มักจะมีการจราจรแน่นขนัดไม่ขยับเขยื้อน แท็กซี่เป็นทางเลือกในการชมเมืองที่กำลังขยายตัวกว้างใหญ่ พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) แสดงให้เห็นสงครามเวียดนามผ่านสายตาของชาวเวียดนาม ห้ามพลาดพระเจดีย์จักรพรรดิหยก (Jade Emperor Pagoda) สวยงามน่าประทับใจ ไปที่ตลาดเบ็นถั่น (Ben Thanh) อันจอแจเพื่อเลือกซื้ออาหาร ดอกไม้ หรือกบ เที่ยวล่องท่องไปให้ทั่วปากแม่น้ำโขงผ่านนาข้าวและเรือนแพ

ภูมิทัศน์เมืองของประเทศสิงคโปร์มองดูเหมือนฉากหนึ่งในหนังสือการ์ตูนแนวไซไฟ หากคุณกระหายที่จะสัมผัสประสบการณ์แบบสิงคโปร์อย่างแท้จริง ลองลิ้มชิมรสชาติอาหารริมถนนหรือลงเรียนทำอาหารดูสิ สวนพฤกษศาสตร์และการ์เดนส์บายเดอะเบย์เป็นดั่งสวรรค์ของพืชสวน และลานดูดาวจากแซนด์ส สกายพาร์คจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนลอยอยู่ท่ามกลางปุยเมฆ ริมฝั่งแม่น้ำและทางเดินเลียบแม่น้ำสิงคโปร์คึกคักไปด้วยกิจกรรมในท้องถิ่น

ทุกวัน จะมีน้ำมากกว่า 15 ล้านแกลลอนไหลลงไปในน้ำพุและหลุมธรรมชาติ 118 แห่งของของบูดาเปสต์ เมืองแห่งสปาแห่งนี้มีสถานที่อาบน้ำแร่อยู่มากมายจนน่าประหลาดใจ ตั้งแต่เจลเลิร์ต บาธที่หรูหราฟู่ฟ่า ไปจนถึงเซเชนยีสปาแบบนีโอบาโรกในปี 1913 ที่กว้างขวาง และรูดาส สปา สระแบบตุรกีจากศตวรรษที่ 16 ที่มีสถาปัตยกรรมแบบออตโตแมนแบบดั้งเดิม เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า "ราชินีแห่งแม่น้ำดานูบ" แห่งนี้ยังมีความงดงามทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติอีกมากมาย เตรียมกล้องคุณไว้ให้พร้อมสำหรับซากพิพิธภัณฑ์อาควินคัมของชาวโรมัน ฮีโรสแควร์ และสเตตูพาร์ค รวมไปถึงโดมของมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่นที่สูงถึง 300 ฟุต

เรือกอนโดลา ลำคลอง ร้านอาหารน่าประทับใจ และบรรยากาศโรแมนติกที่ลืมไม่ลงทำให้เวนิส (Venice) เป็นเมืองที่ใครๆ อยากไปสักครั้งในชีวิตอย่างแน่นอน คฤหาสน์ริมน้ำ ปราสาท และโบสถ์ต่างๆ ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ล่องเรือผ่านภาพวาดในคลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) แต่ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์แบบเวนิสขนานแท้ ขอแนะนำให้เข้าชมโอเปราหรือการแสดงดนตรีคลาสสิก รับประทานพาสต้าสดและขนมอบใหม่ หรือชมงานศิลปะในหอศิลป์ ผู้ที่ชื่นชอบแบรนด์เนมจะดื่มด่ำไปกับการช้อปปิ้งสินค้าสุดหรูต่างๆ ในจัตุรัสปิอาซซ่า ซาน มาร์โก (Piazza San Marco)

เบอร์ลินเป็นเมืองแห่งความทันสมัย ไล่เรียงตั้งแต่แฟชั่น สถาปัตยกรรม ไปจนถึงประวัติศาสตร์การเมือง กำแพงเบอร์ลินเปรียบเสมือนอนุสรณ์สถานสำหรับรำลึกบรรยากาศหลังสงครามที่ตึงเครียด ทว่าภาพกราฟฟิตี้ที่ถ่ายทอดลงบนซากกำแพงนั้นได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญทางสังคม ลองเยี่ยมชมนาฬิกา Weltzeituhr (เวลาโลก) ตามด้วยโมเดลระบบสุริยะ และย้อนเวลาหาอดีตกันต่อที่ร้านอาหารเก่าแก่สมัยศตวรษที่ 16 อย่าง Zur Letzten Instanz เชื่อไหมล่ะว่าที่นี่เคยเป็นร้านอาหารโปรดของนโปเลียนและบีโธเฟ่นมาแล้ว