เรคยาวิก (Reykjavik) รับตำแหน่งของการเป็นเมืองหลวงที่อยู่ในตำแหน่งเหนือสุดของโลก และสำหรับทักท่องเที่ยวที่มายังไอซ์แลนด์ ที่นี่ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยที่หฤโหดแต่สะใจอีกด้วย เติมพลังงานของคุณหลังจากกิจกรรมกลางแจ้งด้วยบ่อน้ำพุร้อนจากใต้พื้นโลกที่มีอยู่มากมาย หรือสปาในร่มที่หรูหรา เรานับถือในความใจกว้างและไม่หยุดนิ่งของเรคยาวิกที่ได้เปิดรับดนตรีและงานศิลปะที่ทันสมัยและเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ รวมไปถึงอาหารชั้นเยี่ยม และสถานที่เที่ยวกลางคืนที่ "น่าสนใจ" อีกด้วย

แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่ชาวอังกฤษแต่เดิมสร้างขึ้นเป็น “แกสทาวน์” จากความหลงใหลในเบียร์และการเล่าเรื่องราว ทุกวันนี้ แกสทาวน์เป็นย่านเก่าแก่ของเมืองหลักในประเทศแคนาดาแห่งนี้ แม้แต่ผับที่คึกคักยังสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะดั้งเดิมของพื้นที่ นั่นคือศูนย์กลางแห่งการดื่มกินของชุมชน ป่า สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และสะพานแขวนที่ตระการตาของเมืองเหมาะสำหรับการสำรวจอย่างยิ่ง รวมไปถึงร้านค้าและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ของเมืองอีกด้วย กลับไปสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อปี ค.ศ. 2010 ได้ที่สถานที่จัดการแข่งขันและโอลิมปิก คัลดรอน

ที่นี่ยังคงเป็นเมืองที่มีความเป็นอังกฤษมากที่สุดในอเมริกาเหนือ แต่ค่อนไปทางบ้านเรือนแบบวิกตอเรียมากกว่าร้านน้ำชา ร้านขายโบราณวัตถุ และห้องแสดงศิลปะ (ซึ่งก็มีอยู่มากมายเช่นกัน) เมืองที่ขับเคลื่อนด้วยคนรุ่นใหม่นี้มีร้านค้าเท่ๆ คอฟฟี่บาร์ขนานแท้ และร้านอาหารแบบโบราณเพิ่มขึ้นมากมายหลายร้าน และยังมีเส้นทางขี่จักรยานมากกว่าเมืองใดๆ ในแคนาดา ทำให้การขี่จักรยานเป็นวิธีการสำรวจจุดที่สวยงามต่างๆ (และหลีกเลี่ยงบ่ายแห่งการช้อปปิ้งของโบราณ) ที่ดีเยี่ยมวิธีหนึ่ง

ถ้าคุณเรียกเกาะแวนคูเวอร์ว่าเป็นเกาะวิคตอเรีย คุณคงจะโดนชาวเมืองหลายคนกลอกตาใส่แน่ๆ ใช่ วิคตอเรียเป็นเมืองสำคัญบนเกาะนี้ แต่ก็มีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะหลายอย่างในเรื่องการตัดไม้และการทำประมง ผู้ที่คลั่งไคล้ในอาหารและไวน์ต่างพากันไปที่เขตทำฟาร์มของหุบเขาโคมอกซ์ วัลเลย์ (Comox Valley) ในขณะที่ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งก็ออกไปตามชายหาดและป่าที่อยู่ห่างไกลของเกาะนอร์ทแวนคูเวอร์ (North Vancouver Island) เที่ยวชมเขตสงวนชีวมณฑลของ UNESCO ที่คลาโยโคท์ ซาวนด์ (Clayoquot Sound) และคุณจะกลับไปพร้อมกับเรื่องราวที่สามารถนำไปเล่าในงานค็อกเทลได้ทั้งปี

เมืองตูลงเป็นเมืองที่มีทั้งความพลุกพล่านของผู้คนในท่าเรือที่สำคัญของฝรั่งเศสและสภาพอากาศที่มีลมพัดเย็นสบายของเมืองรีสอร์ทแห่งเมดิเตอเรเนียน ท่ามกลางทัศนียภาพเบื้องหลังของภูเขามงต์ฟาฮอง ที่นี่มีชายหาดและทางเดินที่มีร้านกาแฟเรียงรายอยู่ทั่วริมท่าเรือที่มีเรือนาวิกโยธินที่มีประวัติศาสตร์ เรือยอชท์ที่หรูหรา และเรือประมงสีสันสดใสเทียบท่าตลอดทั้งฝั่ง

ฟยอร์ดและเทือกเขาของทรอมโซช่างดูอัศจรรย์ดั่งมีเวทมนตร์ แสงเหนือพาดผ่านที่นี่และส่องประกายบนน่านฟ้าสีคราม อันเกิดจากแสงสว่างจากพระอาทิตย์เที่ยงคืน คุณจะต้องหลงใหลไปกับหมู่บ้านชาวประมงอันเปี่ยมเสน่ห์ สวนพฤกษศาสตร์ที่ส่งกลิ่นหอม และน้ำตกที่ไหลเป็นสายราวคริสตัลของทรอมโซ ดนตรีถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของวัฒนธรรมแบบทรอมโซ โดยเฉพาะดนตรีเทคโนและอิเล็กทรอนิกซึ่งเพิ่มท่วงทำนองเร้าใจให้กับเมืองนี้ในช่วงเทศกาลอินซอมเนียที่จัดขึ้นทุกปี

ฟลอเรนซ์เป็นดั่งความฝันของนักประวัติศาสตร์ศิลป์ แกลเลอเรีย เดล อาคาเดเมียเปี่ยมไปด้วยผลงานศิลปะของไมเคิลแองเจโล่ที่นอนสงบนิ่งอยู่ในมหาวิหารบาซิลิกา ดี ซานต้า โครเช่ประดับผนังปูนเปียก เหล่านักถ่ายภาพจะได้ชื่นฉ่ำไปกับภาพสวยๆ ของสะพานพอนเต้ เวคิโอ ส่วนขาช้อปฮาร์ดคอร์จะสนุกไปกับการเข้าออกชมสินค้าในร้านรวงที่ปิอาซซ่า ซานโต้ สปิริโต้ในยามบ่ายอันคึกคัก ดื่มด่ำไปกับอาหารแบบทัสคันขนานแท้ จุ่มขนมปังกรอบนอกนุ่มในลงในน้ำมันมะกอก แล้วความสุขจะมาเยือนจากปลายลิ้น

เฮลซิงกิเป็นนครหลวงอันทันสมัยหลากวัฒนธรรมซึ่งตั้งอยู่ติดกับทะเลบอลติก โดยเป็นเมืองหลวงแห่งการออกแบบประจำปี 2012 ความงามของธรรมชาติที่รายล้อมผสมผสานอย่างลงตัวกับเทคโนโลยีชั้นสูงและเทรนด์ร่วมสมัย การเดินเที่ยวใจกลางเมืองแสดงให้เห็นประวัติศาสตร์ซับซ้อน ขณะที่สถาปัตยกรรมสมัยใหม่และการออกแบบล้ำยุคสะท้อนอนาคตของเมือง เลือกเที่ยวเฮลซิงกิในช่วงฤดูร้อนที่กลางวันยาวนานไม่สิ้นสุด หรือผจญภัยในค่ำคืนฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะ

เนเปิลส์ เมืองแห่งความโรแมนติกที่อยู่ห่างไปทางใต้ของโรม โดยใช้เวลาเดินทางเพียงสองชั่วโมงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของอิตาลี ที่นี่มีโรงอุปรากรและโรงละครบางแห่งซึ่งถือว่าดีที่สุดในโลก โดยเนเปิลส์มักได้รับการขนานนามว่าเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เนื่องจากมีประติมากรรมและอนุสรณ์สถานเก่าแก่อยู่เป็นจำนวนมาก พาครอบครัวเดินเล่นชมพระอาทิตย์ตกที่อ่าวเนเปิลส์ สำรวจซากเมืองปอมเปอีและเฮอร์คิวเลเนียมที่ถูกทำลายจากภูเขาไฟวิซุเวียสในปี ค.ศ. 79 ณ พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ (Museo Archeologico Nazionale) หรือเพลิดเพลินไปกับศิลปะและสถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์โบสถ์ซานเซเวโร (Museo Cappella Sansevero) ที่สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 16