เมืองหลวงของเวลช์ (Welsh) อาจเริ่มต้นขึ้นจากการเป็นป้อมปราการของชาวโรมัน แต่วันนี้ได้กลายเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาที่สุดเมืองหนึ่ง สำหรับตำแหน่งที่เคยเป็นป้อมปราการนั้น ได้กลายเป็นปราสาทคาร์ดิฟฟ์ (Cardiff Castle) ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ปราสาทนี้ยังคงเป็นศูนย์กลางของเมือง ซึ่งปัจจุบันนี้เต็มไปไปด้วยถนนศิลปะและดนตรี, ร้านเสื้อผ้านำสมัย, บาร์ที่คึกคัก และโรงแรมสมัยใหม่ ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งใหม่ๆ และน่าตื่นเต้นให้ดูมากมาย แต่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ (National History Museum) ก็ยังคงเป็นสิ่งดึงดูดใจที่มีผู้มาเที่ยวชมมากที่สุดในเวลช์ อย่าเป็นนักท่องเที่ยวเพียงคนเดียวพลาดที่นี่ไป

ที่ "เมืองแห่งยอดแหลมชวนฝัน" วิชาการถือเป็นศูนย์กลางของความสำคัญทั้งหมด ชมความงามของมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงทั่วโลกอย่างอ็อกซ์ฟอร์ดจากยอดหอคอยคาร์แฟ็กซ์ก่อนที่จะมุ่งสู่ถนนคนเดินของเมือง จากนั้นมุ่งหน้าสู่ตลาด Covered Market เพื่อหาซื้อของเตรียมไปปิกนิกที่สวนสาธารณะเฮดดิงตั้้น ฮิลล์ ผสมผสานประวัติศาสตร์เข้ากับความทันสมัยโดยการไปเที่ยวชมโบสถ์ประจำหมู่บ้านในศตวรรษที่ 12 ของอิฟฟลีย์ และร้านค้าหลากสัญชาติและลานดนตรีเก๋ๆ ของถนนคาวลีย์

สำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชม สิ่งที่ดีที่สุดของกัลเวย์ก็คือ คุณสามารถเดินไปที่ไหนก็ได้ในเมืองนี้ เมื่อคุณมาถึงที่นี่ ก็เริ่มความสนุกสนานด้วยการเดินไปตามถนนในเมืองได้ทันที คุณจะพบว่าผับ ร้านค้า และถนนโรยกรวดที่คดเคี้ยวของที่นี่จะอัดแน่นไปด้วยนักศึกษา ศิลปิน นักเขียน และช่างฝีมือมากมาย คุณอาจจะได้ยินคนพูดภาษาแกลิคด้วยก็ได้ ใครจะรู้ สำหรับทริปกลางวัน ลองนั่งเรือเฟอร์รี่ไปเกาะไอริส มอร์ คุณจะกลับมาอย่างสดชื่นหลังจากห่มลมทะเลและชื่นชมทัศนียภาพที่งดงามของไอนิส มอร์มาอย่างเต็มอิ่ม อ้อ อย่าลืมสวมแว่นกันแดดด้วยนะเมื่อคุณอยู่บนเกาะ ไม่ว่าอากาศจะเย็นแค่ไหนก็ตาม (เชื่อเราไว้ก่อนแหละดี)

ลียง เมืองมรดกโลกมีรอยประทับเชิงประวัติศาสตร์บนท้องถนนย้อนกลับไปถึง 2,000 ปี (แน่นอน รอยประทับบนหินปูถนน) เรียนรู้ประวัติศาสตร์ในวีเยอ ลียง (หนึ่งในละแวกเรเนอซองส์ที่กว้างขวางที่สุดในยุโรป) และโรงละครเวทีที่มีบรรยากาศแบบโรมันทั้งสองแห่งของเมืองลียง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตร็อค ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมลียงจึงได้รับความนิยมจากนักเดินทาง ทั้งนี้ก็เพราะที่นี่มีมหาวิทยาลัยที่ก้าวหน้าไม่หยุดนิ่ง แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ ตลาดของเก่า โรงละครที่งดงามและเทศกาลดนตรี และพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจต่างๆ มากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์หุ่นกระบอกนานาชาติ และพิพิธภัณฑ์ของจิ๋วและภาพยนตร์

ริชชีโอเน (Riccione) เป็นเมืองโบราณในอิตาลีที่ให้บรรยากาศอันทันสมัย กรุ่นกลิ่นอายนานาชาติ และอบอุ่นอาบไล้ไปด้วยแสงแดด จุดหมายปลายทางริมทะเลแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางริเวียราระวันออก (Eastern Riviera) และเหมาะสำหรับการจิบค็อกเทลชิลๆ บนหาดทรายสีทองเรืองอร่าม ในยามค่ำคืน นักท่องราตรีได้เพลิดเพลินสุดเหวี่ยงไปกับดิสโก้กลางแจ้งบนชายหาด เป็นประสบการณ์ปาร์ตี้กลางแจ้งแบบเหนือจริงหน่อยๆ จะไถลลื่นจากสไลเดอร์ในสวนน้ำ ปั่นจักรยานไปกับทัวร์ปั่นนำเที่ยว หรือเยี่ยมชมสนามแข่งรถมิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต (Misano World Circuit) ก็ให้ประสบการณ์อันน่าประทับใจไม่รู้ลืม

ทอดยาวไปตามแนวมหาสมุทรแอตแลนติกคือเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดของกานา ไม่ว่าจะเป็นหาดทรายเจิดจ้า อนุสรณ์สถาน พิพิธภัณฑ์ หอสมุด แกลเลอรี ตลาดพื้นบ้าน และชีวิตยามค่ำคืนที่มีสีสัน สถาปัตยกรรมของเมืองอัคครา (Accra) สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของชาติอาณานิคม ซึ่งจะเห็นได้จากปราสาทในยุคศตวรรษที่ 17 ไปจนถึงตึกระฟ้าทันสมัย แหล่งของวัฒนธรรมหลากหลายที่ผสมผสานกัน เขตธุรกิจและแหล่งเลือกซื้อสินค้าของเมืองที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับพื้นที่อยู่อาศัยแถบชานเมืองที่ด้อยความมั่งคั่งกว่า

หาดทรายกว้างรับลมทะเล เนินทราย ประภาคารส่องแสงระยับ และวิถีชีวิตพื้นเมืองที่น่าหลงใหลรอคุณอยู่ที่เกาะขนาด 50 ตารางไมล์นี้ ป้จจุบันท่าเรือล่าปลาวาฬในอดีตถูกกำหนดให้เป็นย่านประวัติศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ลงจากรถแล้วลองนั่งรถบัสหรือขี่จักรยานชมทิวทัศน์ ทั้งบ้านพักตากอากาศริมทะเล กัปตันเรือล่าปลาวาฬโบราณ และท่าเรือเก่าแก่ โรงแรมขนาดเล็ก ร้านค้าบูติก ร้านซุปทะเลและอาหารชั้นเลิศ หรือจะว่ายน้ำ เล่นกระดานโต้คลื่น หรือขนอุปกรณ์ไปตกปลาสไตรเปอร์ บลูฟิช และโบนิโตชั้นยอดที่ร้านแนนทักเก็ต

ปุนตาคานา (Punta Cana) เป็นเมืองแห่งการพักผ่อนหย่อนใจขนานแท้ พรั่งพร้อมด้วยสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สนามหลายแห่งได้รับการออกแบบโดยนักกอล์ฟมืออาชีพ เหมาะสำหรับการท้าดวลออกรอบในช่วงเวลาพักผ่อนของคุณ ไม่เพียงเท่านี้ ชายหาดที่นี่ยังไร้ที่ติ มีผืนน้ำทะเลเงียบสงบและอบอุ่น คลื่นสาดกระทบฝั่งเบาๆ ไปตามผืนทรายนุ่มละเอียดอีกด้วย เพิ่มความตื่นเต้นด้วยการผจญภัยโรยตัว ปรบมือเข้าจังหวะดนตรีโดมินิกันขนานแท้ในการแสดงวัฒนธรรม หรือสำรวจลากูนสวยน่าอัศจรรย์ที่อุทยานนิเวศวิทยา Indigenous Eyes Ecological Park