โปร์ตูคือเมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากลิสบอน เป็นที่มาของชื่อประเทศโปรตุเกส รวมทั้งพอร์ตไวน์ด้วย เมืองเก่าแก่แห่งนี้ซึ่งบางครั้งก็เรียกว่าโอพอร์โต มีรากฐานมาอย่างยาวนานในด้านอุตสาหกรรมมาจนถึงทุกวันนี้ โปร์ตูตั้งอยู่กึ่งกลาง Ribeira สร้างขึ้นบนเนินเขาที่มองเห็นแม่น้ำโดรู และปัจจุบันยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกอีกด้วย โบสถ์ São Francisco ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 คือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเนื่องจากเป็นห้องเก็บพอร์ตไวน์ใต้ดินของท้องถิ่น ซึ่งโดยส่วนใหญ่้แล้วตั้งอยู่ตามริมแม่น้ำที่ Vila Nova de Gaia

อุตสาหกรรมได้ผสมผสานกับวัฒนธรรมในเมืองชายฝั่งบีโฆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือตกปลาที่กว้างใหญ่และซากปรักหักพังแห่งเมืองโรมันโบราณ โบสถ์สไตล์นีโอคลาสสิก และย่านเก่าแก่ของแคว้นกาลิเซียขนานแท้ นอกเหนือจากชายหาดในเมือง เกาะ Cíes และบริเวณน้ำกร่อย Rías Baixas ตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก

เมือง Altea ซึ่งเป็นฉายาของ "แซนโตรินีแห่งสเปน" ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวแบบสบายๆ มายัง Costa Blanca ด้วยเมืองเก่าบนยอดเขาและหาดหิน สถานที่สำคัญซึ่งมีโดมสีน้ำเงินเข้มและกำแพงสีขาวโพลนสร้างความโดดเด่นตัดกับท้องฟ้าในบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในขณะที่ท่าจอดเรือเล็กสามแห่งมีกิจกรรมนอกฝั่งอีกมากมาย

เล มานส์ (Le Mans) มีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นสถานที่จัด 24 Hours of Le Mans ซึ่งเป็นการแข่งรถแบบต่อเนื่องที่ทรหด แต่ที่นี่ยังเป็นเมืองโบราณอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีกำแพงโรมัน, วิหารที่สวยงาม และพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง ผู้ที่คลั่งไคล้ในรถยนต์จะชื่นชอบ Musée Automobile de la Sarthe ที่แสดงรถยนต์ชั้นยอดมากมาย

นักท่องเที่ยวเดินทางมายังมาร์แซย์ (Marseille) ซึ่งเป็นเมืองท่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของฝรั่งเศส เพื่อสัมผัสสไตล์และประวัติศาสตร์ที่ผสานกันอย่างเหมาะเจาะ อ่าวของที่นี่ขนาบด้วยป้อมเซนต์ นิโคลาส (Fort Saint-Nicolas) และป้อมเซนต์ ฌอง (Fort Saint-Jean Fort Saint-Jean) และเป็นที่ตั้งของปราสาทอีฟจากนวนิยายก้องโลกเรื่อง Count of Monte Cristo พื้นที่เดินเท้าและแหล่งช้อปปิ้งของเมือง (รวมทั้งย่านเฟรนช์-แอฟริกันที่คึกคัก) อยู่ภายใต้เงาของมหาวิหารน็อทร์-ดาม-เดอ-ลา-การ์ด (Notre-Dame-de-la-Garde) และกลมกลืนไปกับโบราณสถานได้อย่างดี ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสนุกสนานต่างเดินทางไปยังสวนสนุกโอเค คอร์รัล (OK Corral) ซึ่งจัดไว้ในแนวคาวบอย

มิวนิคเป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แบบบาวาเรียน คอเบียร์ต้องไม่พลาด Hofbräuhaus หรือสวรรค์แห่งเบียร์ฮอพส์ที่ผลิตเบียร์มานานตั้งแต่ยุค ค.ศ. 1589 ยังไม่รวมตำนานแห่งเทศกาลเฉลิมฉลองอย่าง Oktoberfest สำหรับช่วงเวลาแห่งการกินดื่มเบียร์พื้นเมืองและอาหารเยอรมันสุดพิเศษ มาเลียนแบบนักกีฬาระดับโลกกันที่โอลิมเปียพาร์คกันดีกว่า ใส่รองเท้าสเก็ตและร่อนไปรอบลานสเก็ตน้ำแข็งให้เหมือนแชมป์โลกยังไงยังงั้น ถนนเลียบมาเรียนปลาทซ์เหมาะสำหรับการนั่งชมผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาและ Glockenspiele of City Hall

นูแรมเบิร์กเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศบาวาเรียมีจำนวนประชารอาศัยกว่าครึ่งล้านคน แม้จะมีประวัตศาสตร์อันเก่าแก่_ยาวนานนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 แต่นูแรมเบิร์กมักจะถูกกล่าวถึงกับเรื่องราวในศตวรรษที่ 20 มากกว่า (โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง) ก่อนหน้านี้ที่นี่เคยเป็นสถานที่ซ้อมรบของนาซีและเกือบถูกทำลายราบโดยระเบิดจากกลุ่มสัมพันธมิตร อีกทั้งยังเป็นที่ตัดสินคดีหลังสงครามนูแรมเบิร์กสิ้นสุดอีกด้วย เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมากย ทั้งปราสาทนูแรมเบิร์กที่สร้างขึ้นใหม่และขนมปังขิงที่มีชื่อเสียงก้องโลก ณ ตลาดฮ็อบมาร์ท ฮันเซลกับเกรเทลจะต้องหลงรักที่นี่อย่างแน่นอน

ไปเล่นว่าวที่เมืองวาเนอมึนเดอ เมืองที่มีลมทะเลพัดแรงออกสู่ทะเลบอลติกเสมอๆ พร้อมด้วยร้านค้าพื้นเมืองมากมายที่ขายว่าวซึ่งประดับด้วยสีสันสดใสให้แก่คุณ ชายหาดอันกว้างใหญ่ที่ปากแม่น้ำวาร์โนว์เชื้อเชิญให้คุณไปนอนอาบแดด ในขณะที่ทะเลก็เหมาะสมมากสำหรับการแล่นเรือใบหรือการล่องเรือเช่ายามบ่าย ถ้าคุณต้องการเห็นมุมมองแบบพาโนรามิคที่ดีที่สุด คุณต้องแวะไปที่ประภาคาร