ความโรแมนติกนั้นคือสายเลือดของอันซี (Annecy) ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งในเขตโรห์น-อัลป์ (Rhone-Alpes) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส เมืองนี้เต็มไปด้วยปราสาท, วิหาร และสถาปัตยกรรมที่โค้งเว้าอย่างนิ่มนวล เดินควงคนรักของคุณข้ามปอง เดอ อามอร์ (สะพานของคู่รัก) ก่อนที่จะเข้าชมราชวังหลวง (Imperial Palace) และวิหารแห่งเซนต์ ปิแอร์ (Cathedral of Saint-Pierre) ซึ่งเป็นวิหารในแบบบาโรค แล้วเดินต่อไปยังถนนรอยัล (Rue Royale) เพื่อช้อปปิ้ง, ทานอาหาร และดูผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณน้ำพุเซนต์ ฌอง (Saint Jean)

เมืองเล็กๆ สบายๆ แนวศิลป์แห่งนี้ เป็นที่ตั้งของชากัลล์ (Chagall) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะชั้นเยี่ยมอย่างแมกต์ (Maeght) และพิพิธภัณฑ์เซนต์พอลนั้นตั้งอยู่ในเมืองหรือเพียงแค่ด้านนอก Chapelle des Pénitents Blancs เป็นหนึ่งในคณะกรรมการงานที่ทำขึ้นโดยโฟลอน ศิลปินชาวเบลเยียม เดินเที่ยวไปตามกำแพงเมืองโบราณเพื่อชื่นชมความงดงาม และอย่าลืมเอาสมุดสเก็ตภาพของคุณไปด้วย เพราะอาจเกิดแรงบันดาลใจอะไรใหม่ๆ ก็ได้

เนเปิลส์ เมืองแห่งความโรแมนติกที่อยู่ห่างไปทางใต้ของโรม โดยใช้เวลาเดินทางเพียงสองชั่วโมงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของอิตาลี ที่นี่มีโรงอุปรากรและโรงละครบางแห่งซึ่งถือว่าดีที่สุดในโลก โดยเนเปิลส์มักได้รับการขนานนามว่าเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เนื่องจากมีประติมากรรมและอนุสรณ์สถานเก่าแก่อยู่เป็นจำนวนมาก พาครอบครัวเดินเล่นชมพระอาทิตย์ตกที่อ่าวเนเปิลส์ สำรวจซากเมืองปอมเปอีและเฮอร์คิวเลเนียมที่ถูกทำลายจากภูเขาไฟวิซุเวียสในปี ค.ศ. 79 ณ พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ (Museo Archeologico Nazionale) หรือเพลิดเพลินไปกับศิลปะและสถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์โบสถ์ซานเซเวโร (Museo Cappella Sansevero) ที่สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 16

เปอร์โต อีกัวซูตั้งอยู่บนเตรส ฟรอนเตรัส หรือจุดบรรจบกันของประเทศบราซิล ปารากวัย และอาร์เจนติน่า และยังมีสะพานทานเครโด เนเวสที่เชื่อมต่อกับประเทศบราซิลอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ภาพป่า พิพิธภัณฑ์เอ็มโบโร ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์นก และอุทยานแห่งชาติอีกัวซูที่โด่งดัง อุทยานแห่งชาตินี้มีน้ำตก 275 แห่ง รวมไปถึงน้ำตกอิกัวซูที่โด่งดังก้องโลกและไหลจากระดับความสูง 270 ฟุต สภาพอากาศใกล้เขตร้อนของที่นี่ทำให้อากาศอบอุ่นในฤดูหนาวและอากาศร้อนในฤดูร้อน โดยอุณหภูมิอาจสูงถึง 104 องศาฟาเรนไฮต์