ลืมรองเท้านำแฟชั่นของคุณไปก่อน เฉพาะรองเท้าที่ใส่สบายเท่านั้นนะจึงจะเหมาะสำหรับคิลลาร์นีย์ เมืองนี้เป็นเมืองสำหรับการเดินเท้า และแต่ละเส้นทางก็คือบทเรียนประวัติศาสตร์อีกบทหนึ่ง เดินไปตามอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอร์แลนด์ซึ่งมีพื้นที่ถึง 26,000 เอเคอร์ที่ประกอบไปด้วยป่าไม้ ภูเขาหินทราย และทะเลสาบระดับต่ำ เมื่อเท้าคุณเริ่มรู้สึกเมื่อยล้า คุณสามารถขึ้นเรือจากปราสาทรอสเพื่อเข้าชมอุทยานแห่งชาติคิลลาร์นีย์ได้ และเนื่องจากคิลลาร์นีย์มีโรงแรมมากกว่าเมืองอื่นๆ ในไอร์แลนด์ (ยกเว้นดับลิน) คุณก็สามารถหาที่สำหรับเอนหลัง (และพักขา) ของคุณได้อย่างไม่ยากเย็น

ครั้งหนึ่งเมืองแห่งนี้เคยเป็นของประเทศไอร์แลนด์... คุณอาจนึกถึงบทกลอนที่ตลกขบขัน เมื่อคุณได้ยินคำว่า "ลิเมอริก" แต่ที่จริงแล้ว เมืองนี้ยังมีอีกหลากหลายสิ่งนอกเหนือจากเรื่องขบขัน ปราสาทและโบสถ์ยุคกลางทำให้บรรยากาศในเมืองเต็มไปด้วยความโออ่าน่าเกรงขาม ส่วนผับต่างๆ ก็เนืองแน่นไปด้วยคนพื้นเมืองและนักเรียนที่ล้วนกระหายอยากดื่มเบียร์กินเนสกันอีกสักขวด พิพิธภัณฑ์ฮันท์ได้รวบรวมชิ้นส่วนประวัติศาสตร์ของศิลปินคนสำคัญและทรงอิทธิพลมากที่สุดเอาไว้ที่นี่ ส่วนพิพิธภัณฑ์เรือบินฟอยเนสจะทำให้นักท่องเที่ยวทุกวัยต้องทึ่งกับเครื่องบินรูปร่างแปลกตา

วันไหนว่าง ๆ ลองเข้าไปสังสรรค์ในผับของทราลีดู แล้วจะต้องตื่นใจไปกับการแสดงดนตรีพื้นเมืองสดที่สร้างความคึกคัก กระทบไหล่นักไวโอลิน นักกีตาร์ และพ่อหนุ่มหนวดยาวจิบเบียร์กรึ่มและเทใจให้กับเสียงดนตรีพาเพลิน สาวๆ ควรยั้งมือกับการดื่มเบียร์เอาไว้บ้าง เพราะคุณคงอยากให้ตัวเองอยู่ในสภาพที่น่ารักอ่อนหวานที่สุดสำหรับเทศกาลโรสออฟทราลีประจำปีซึ่งจะมอบมงกุฎให้กับหญิงสาวที่น่ารัก แล้วเจ้าของมงกุฎต้องทำหน้าที่อะไรน่ะหรือ ก็แค่ทำให้โลกได้รู้จักไอร์แลนด์เท่านั้นเอง ไม่ค่อยกดดันกันเท่าไหร่หรอก

เมืองคิลเคนนีย์มีอายุกว่า 400 ปี แต่กลับไม่วี่แววของความเก่าแก่ให้เห็น จริงอยู่ที่เมืองคิลเคนนีย์นั้นแออัดไปด้วยโบสถ์ยุคกลาง ปราสาท วัด และอาคารหินขนาดมหึมาอื่นๆ อีกมากมาย แต่เมืองแห่งนี้ก็ชื่นชอบการปาร์ตี้สังสรรค์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน บรรดางานเทศกาลศิลปะเฉลิมฉลองการละคร ละครตลก บทเพลงคันทรี่ และการเต้นรำได้เพิ่มสีสัน ความครึกครื้นสนุกสนาน และรสชาติความเป็นสากลให้กับเมืองนี้อย่างไม่หยุดหย่อน