ไปเล่นว่าวที่เมืองวาเนอมึนเดอ เมืองที่มีลมทะเลพัดแรงออกสู่ทะเลบอลติกเสมอๆ พร้อมด้วยร้านค้าพื้นเมืองมากมายที่ขายว่าวซึ่งประดับด้วยสีสันสดใสให้แก่คุณ ชายหาดอันกว้างใหญ่ที่ปากแม่น้ำวาร์โนว์เชื้อเชิญให้คุณไปนอนอาบแดด ในขณะที่ทะเลก็เหมาะสมมากสำหรับการแล่นเรือใบหรือการล่องเรือเช่ายามบ่าย ถ้าคุณต้องการเห็นมุมมองแบบพาโนรามิคที่ดีที่สุด คุณต้องแวะไปที่ประภาคาร

ทะเลสาบมาจิยอเร (Maggiore) ซึ่งทางใต้ของเทือกเขาแอลป์เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอิตาลี เนื่องจากสภาพอากาศที่อบอุ่นตลอดทั้งปี ทำให้บริเวณนี้เต็มไปด้วยพืชแถบเมดิเตอเรเนียนและต้นไม้แปลกตามากมาย เออเนสท์ แฮมมิงเวย์เคยเขียนถึงทะเลสาบมาจยอเรไว้ในนวนิยายเรื่อง "A Farewell to Arms" เมื่อตัวเอกของเรื่องและคู่รักของเขาจะต้องพายเรือข้ามทะเลสาบเพื่อหนีจากทหารของคาราบิเนียร์ (Carabinieri) ของอิตาลี (คิดว่าเป็นตำรวจในชุดทหารแล้วกัน) หวังว่าคุณคงไม่เจอทหารเหล่านั้นในธรรมชาติอย่างนี้นะ

เชื่อหรือไม่ นิทเช่ (Nietzsche) ก็เคยหยุดพักผ่อนเหมือนกัน และเขาก็มายังเมืองบนทะเลสาบเลค การ์ดา (Lake Garda) ของอิตาลีแห่งนี้ ทุกวันนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจป้อมปราการยุคกลางและศูนย์ประวัติศาสตร์ของเมืองได้ หรือเพียงแค่เดินเล่นสบายๆ ไปตามฝั่งทะเลสาบ และคิดเล่นๆ ไปว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าได้หยุดพักผ่อนร่วมกับนิทเช่

อัลมาตี้ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงเสียดฟ้าที่ซึ่งมีเส้นทางสำหรับการเล่นสกี ที่นี่ผสมผสานขนบประเพณีดั้งเดิมเข้ากับรสนิยมที่ทันสมัยไว้อย่างลงตัว แม้ว่าผู้้คนในท้องถิ่นจะยังคงนิยมมาพบปะเพื่อทำการอบไอน้ำแบบรัสเซีย ทว่าอาหารอร่อยของคาซัคแบบดั้งเดิม และแก้วน้ำชาจำนวนนับไม่ถ้วน ห้างสรรพสินค้ามีแสงสีระยิบระยับภายในเมือง และไนท์คลับที่ครึกครื้นต่างเป็นวัฒนธรรมแห่งสมัยใหม่โดยสิ้นเชิง