เมืองประมงตาวิราผสมผสานส่วนสำคัญสองส่วนแห่งทะเลเมดิเตอเรเนียนเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งก็คือสถาปัตยกรรมมัวร์และชายหาดสีทอง ที่นี่มีถนนลาดหินที่คดเคี้ยวผ่านบ้านเรือนที่ปลูกสร้างในแบบสไตล์โปรตุเกส และวิถีชีวิตที่นี่ก็ดำเนินไปอย่างราบเรียบเหมือนแม่น้ำจิลาโอ

อัลบูเฟรา (Albufeira) มีชายหาดมากมายหลายแบบ คุณสามารถเลือกจากชายหาดทั้งหมดกว่า 20 หาด ซึ่งไม่ว่าเป็นหาดใดก็ทำให้คุณสดชื่นได้เช่นกัน ติดกับชายฝั่งทะเลในเขตอัลการ์ฟ (Algarve) ทางตอนใต้ของโปรตุเกสก็คือจุดสำคัญที่รวมบ้านสีขาวเป็นประกายในสไตล์แขกมัวร์, หน้าผาหลากสีสันที่จะทำให้คุณแทบหยุดหายใจ และซากป้อมปราการที่ผสมผสานความเป็นอยู่สมัยใหม่เข้ากับมนต์เสนห์แห่งประวัติศาสตร์ได้อย่างลงตัว

เมืองการ์วอยโรที่เคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงมาก่อน ขนาบข้างด้วยหน้าผาริมทะเลที่มีหินทรายซึ่งบ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะของโปรตุเกสใต้ อ่าวรูปเกือกม้าของเมืองได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในชายหาดที่ดีที่สุดของอัลการ์ฟ มีหาดทรายสีทองหน้าหมู่บ้านสไตล์เมดิเตอเรเนียนที่ทาให้เป็นสีขาว

พอร์ติเมาเป็นจุดที่นักเล่นเรือใบชื่นชอบเพราะคลื่นลมสงบและกินบริเวณที่สวยงาม ที่นี่จัดการแข่งขันรายการนานาชาติอันทรงเกียรติมากมาย แต่คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักกีฬามืออาชีพ ก็สามารถออกเรือใบได้เช่นกัน กิจกรรมที่บรรดาครอบครัวชอบทำกันที่นี่คือการล่องเรือเลียบชายฝั่งบนเรือโจรสลัด 2 กระโดงอย่างซานต้า เบอร์นาร์ดา หรือจะทำกิจกรรมบนบกอย่างการเดินชมพื้นที่อัลวอร์ริมทะเลที่สวยงาม ลิ้มลองอาหารทะเลฉ่ำลิ้น หรือผจญภัยไปกับการเล่นโกคาร์ทที่ออโต้โดรโม อินเทอร์เนชั่นแนล โด อัลการ์ฟ

กำแพงสมัยศตวรรษที่ 14 ของลากอส (Lagos) มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและสวยงามอยู่ภายใน ตั้งแต่ป้อมปราการไปจนถึงโบสถ์ที่งดงามอย่างเช่นเซา โจเอา เฮอร์มิงเตจ (São João Hermitage) จากยุคกลาง และเซา เซบาสทีโอ (São Sebastião) จากศตวรรษที่ 17 แต่นี่เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น ผู้คนเดินทางมาที่นี่เพื่อเที่ยวชมแนวชายฝั่งที่มีชายหาดสวยงามมากกว่า 6 หาด อ่าวทรายที่เงียบสงบถูกขนาบข้างด้วยหน้าผาที่งดงาม แอ่งมีอา ไพรอา (Meia Praia) มีหาดทรายยาวถึง 2.5 ไมล์สำหรับกีฬาทางน้ำทุกรูปแบบ และเมื่อคุณโลดโผนจนเต็มอิ่มแล้ว คุณสามารถผ่อนคลายด้วยสถานที่เที่ยวกลางคืนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเขตอัลการ์ฟ

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาบิลเบา (Bilbao) เพื่อชมกักเกนเฮม (Guggenheim) - สถานที่แสดงงานศิลปะ แต่นักท่องเที่ยวไม่น้อยที่มาที่แห่งนี้เพื่อชมอาคารสิ่งปลูกสร้างอันสวยงามน่าอัศจรรย์ พิพิธภัณฑ์จิตรกรรมและพิพิธภัณฑ์บาสก์อาจไม่ได้รับการออกแบบโดยแฟรงก์ เกย์รีย์ (Frank Gehry) แต่ควรค่าแก่การเข้าชม และคุณอาจได้กระทบไหล่ดาราระดับโลกที่ปาลาซีโอ เอสกัลดูน่า (Palacio Euskalduna)

โอลเบีย (ซึ่งในภาษากรีกแปลว่า “ความสุข”) เป็นจุดเริ่มต้นยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการไปเยือนหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ใน Costa Smeralda แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเดินเล่นในเมืองชายฝั่งจะได้ค้นพบศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางโบราณคดี ลานสาธารณะที่ล้อมรอบด้วยบาร์ไวน์ และร้านอาหารขนานแท้

อาคารจำนวนมากที่เป็นบ้านเก่าแก่และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มีความเป็นมาตั้งแต่ต้นยุคกลาง ยูเทรชต์เป็นเมืองที่มีความสำคัญที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ จนถึงช่วงที่อัมสเตอร์ดัมเข้าชิงตำแหน่งนี้ในยุคทองของชาวดัชต์ เมืองนี้เป็นที่พำนักของพระสังฆราชแห่งยูเทรชต์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นผู้นำนิกายคาทอลิกที่สำคัญที่สุดในเนเธอร์แลนด์ มหาวิทยาลัยยูเทรชต์เป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ คุณสมบัติเด่นที่ไม่เหมือนใครอย่างหนึ่งของเมืองแห่งนี้คือระบบท่าเทียบเรือในคลองชั้นในของเมือง ก่อนที่จะมีการขุดคลองอย่างเต็มที่ บางส่วนของแม่น้ำไรน์เคยไหลผ่านใจกลางเมือง อาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุดคือมหาวิหารแบบโกธิกของเซนต์มาร์ติน ซึ่งใช้เวลาการก่อสร้างเกือบ 200 ปี โดยเริ่มต้นก่อสร้างปี 1254

ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันหรือกลางคืน เมืองรีสอร์ทสลีมาก็มีกิจกรรมให้ทำมากมาย มีโบสถ์ทางประวัติศาสตร์ หอสังเกตการณ์ และป้อมปราการเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณ ขณะที่ริมน้ำก็มีร้านค้าในท้องถิ่น ร้านอาหาร บาร์ หรือจะลองเดินเล่นไปเรื่อยๆ เพื่อชมวิวทะเลเมดิเตอเรเนียนที่สวยงามระยิบระยับ

เกาะแม็คคิแน็ค (Mackinac Island) อันเปี่ยมเสน่ห์เป็นเหมือนที่ตากอากาศสบายๆ แบบย้อนยุค ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านในตัวเมืองที่ตกแต่งสีสันลูกกวาดไปจนถึงลานด้านหน้าของโรงแรมแกรนด์สมัยวิกตอเรียที่ดูน่าทึ่ง (และทำสถิติใหม่อีกด้วย) เกาะแม็คคิแน็คฟัดจ์โฮมเมดที่ดังก้องโลก มีให้เลือกหลากรสชาติเท่าที่จินตนาการจะพาไป สลัดน้ำตาลออกจากร่างด้วยการออกรอบเล่นกอล์ฟสักหน่อย ขี่จักรยานริมเส้นทางริมทะเลก็ได้ หรือจะสำรวจผาหินปูนที่อุทยานแห่งชาติเกาะแม็คคิแน็คก็แสนเปรมอุรา