บรากา (Braga) เป็นเมืองโบราณทางตะวันตกเฉียงเหนือของโปรตุเกส ซึ่งบางครั้งเรียกกันว่า "กรุงโรมแบบโปรตุเกส" เนื่องจากมีโบสถ์เป็นจำนวนมาก ประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของเมืองแห่งนี้ผูกพันกับศาสนาคริสต์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 มหาวิหาร Sé ที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งของบรากา ส่วนนอกเมืองเป็นที่ตั้งของวิหาร Bom Jesus de Monte ซึ่งเป็นสถานที่จาริกแสวงบุญชื่อดังที่โดดเด่นด้วยบันไดสไตล์บาโรก ตกค่ำ เมืองอันเงียบสงบจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ด้วยไนท์ไลฟ์และกิจกรรมยามค่ำคืนมากมายที่เต็มไปด้วยนักศึกษามหาวิทยาลัย

โปร์ตูคือเมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากลิสบอน เป็นที่มาของชื่อประเทศโปรตุเกส รวมทั้งพอร์ตไวน์ด้วย เมืองเก่าแก่แห่งนี้ซึ่งบางครั้งก็เรียกว่าโอพอร์โต มีรากฐานมาอย่างยาวนานในด้านอุตสาหกรรมมาจนถึงทุกวันนี้ โปร์ตูตั้งอยู่กึ่งกลาง Ribeira สร้างขึ้นบนเนินเขาที่มองเห็นแม่น้ำโดรู และปัจจุบันยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกอีกด้วย โบสถ์ São Francisco ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 คือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเนื่องจากเป็นห้องเก็บพอร์ตไวน์ใต้ดินของท้องถิ่น ซึ่งโดยส่วนใหญ่้แล้วตั้งอยู่ตามริมแม่น้ำที่ Vila Nova de Gaia

ซาน ตีโอโดโร เป็นเพียงเมืองชายฝั่งสไตล์ซาร์ดิเนียทั่วๆ ไปที่มีชายหาดที่สวยงาม ร้านอาหารเลิศรส และนกฟลามิงโกสีชมพูฝูงใหญ่ อันที่จริง จะพูดแบบนั้นก็คงไม่ถูกนักเพราะฝูงนกฟลามิงโกสีชมพูนี่ออกจะไม่ธรรมดาสักเท่าไหร่... แต่ต้องบอกว่าพิเศษสุดๆ ถึงจะถูก แวะเที่ยวชมทะเลสาบซาน ตีโอโดราระหว่างการเที่ยวหาด และคุณจะได้เห็นนกฟลามิงโกสุดพิเศษนี้พร้อมๆ กับนกหายากอีกมากมายหลายสายพันธุ์

มหานครที่เต็มไปด้วยความทันสมัยแ คนหนุ่มสาว และประชากรที่หลากหลาย มีเพียงเทลอาวีฟเท่านั้นที่คงอายุเก่าแก่ย้อนกลับไปในปี 1909 คลับ บาร์และและชุมชนศิลปะที่เฟื่องฟู ชีวิตที่สดใสร่าเริงและชายหาดต่างๆ เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว นักดนตรี และคนรุ่นใหม่ให้เข้ามายังไปยังสถานที่แห่งความรื่นรมย์ของเทลอาวีฟมากขึ้น สถาปัตยกรรมเบาเฮาส์ได้รับคัดเลือกจากยูเนสโกให้ได้รับรางวัลชนะเลิศในการเป็นเมืองที่มีสมญาว่า "เมืองสีขาว" เดิน ขับรถหรือนั่งแท๊กซี่เที่ยวชมนิทรรศการทางวัฒนธรรมของพิพิธภัณฑ์ฮาเรทซ์ พิพิธภัณฑ์หอแห่งเสรีภาพที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ตลาดคาร์เมล และทางเดินชมเมืองเก่าในเขตโอลด์จัฟฟา