สวันนาอันทรงเสน่ห์กรุ่นกลิ่นอายยุคก่อนสงคราม เนื่องด้วยสถาปัตยกรรมแบบโบราณและถนนที่เรียงรายไปด้วยต้นโอ็ค จึงไม่น่าแปลกใจหากคุณจะยั้งใจผ่อนคลายบนลานเฉลียงขนาดใหญ่ไม่ได้ พร้อมจิบค็อกเทลมินต์อย่างน่าอิจฉา แต่ไม่ได้หยุดแค่เพียงเท่านี้หรอก เพราะที่นี่มีโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ให้ชมมากเหลือคณา สุสานผีสิงโบนาเวนเจอร์ถือเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง รายล้อมไปด้วยแท่งหินเหลี่ยมปลายแหลมที่สวยงาม ดอกไม้นานาพันธุ์ และห้องใต้ดินประดับงาช้าง ลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่หรือโจ๊กหอมหวานในแบบฉบับโฮมเมดของสวันนาอย่างแท้จริง

ผู้รักธรรมชาติมารวมตัวกันบนเกาะสันดอนแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกห่างออกไปทางใต้ของเมืองชาร์ลสตัน 21 ไมล์ เกาะเคียวาห์เป็นเกาะที่อุดมไปด้วยภาพพรรณไม้เขียวชอุ่มทั่วบริเวณ มีหาดทรายกว้างนับสิบไมล์ มีอุทยานธรรมชาติต่างๆ ซึ่งกินพื้นที่ 123 เอเคอร์ ตลอดจนเส้นทางธรรมชาติและเส้นทางจักรยาน 30 ไมล์ รวมถึงสนามกอล์ฟระดับโลก

หากต้องการสัมผัสความงามที่แท้จริงของเกาะเคียวาห์ ขอให้เดินทางไปที่อุทยานเกาะมาร์ช ซึ่งรางวัลที่คุณจะได้รับคือทัศนียภาพอันสวยงามล้ำเลิศของแม่น้ำเคียวาห์ บึงน้ำเค็ม และหมู่ต้นไม้เนื้อแข็งบนพื้นที่ลาดของเกาะซึ่งมองเห็นได้จากหอสังเกตการณ์เกาะมาร์ช ผู้ที่รักสัตว์ต้องไม่พลาดศูนย์ธรรมชาติเฮรอนพาร์ค ซึ่งคุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรมการท่องเที่ยวและโปรแกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ การเดินชมนก การเดินชมผีเสื้อ และการเดินชมอัลลิเกเตอร์ ผู้ที่ชื่นชอบนกจะต้องชอบ เกรตอีเกรตรุเคอรี เป็นอย่างมาก เนื่องจากที่นี่เป็นพื้นที่ซึ่งตามปกติแล้วคุณจะมองเห็นนกสีขาวที่สง่างามอยู่บนต้นไม้เหนือหนองน้ำเป็นจำนวนมาก หากต้องการพื้นที่ซึ่งเหมาะแก่การปิกนิกเป็นอย่างยิ่ง ให้ไปที่อุทยานธรรมชาติบีชวอล์กเกอร์ ซึ่งมีทางไม้กระดานที่คดเคี้ยวไปตามหมู่ต้นปาล์ม ต้นโอ๊ก และต้นสน การตีกอล์ฟบนเกาะเคียวาห์ไม่ใช่เพียงแค่กิจกรรมนันทนาการที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นวิถีชีวิตของผู้คนเลยทีเดียว เกาะนี้มีสนามกอล์ฟที่ใช้จัดการแข่งขันครั้งสำคัญอยู่ห้าแห่ง โดยสนามที่โดดเด่นคือสนามโอเชียนคอร์สอันเป็นผลงานการออกแบบของ พีต ได ที่ใช้จัดการแข่งขันไรเดอร์คัพเมื่อปี ค.ศ. 1991 และการแข่งขันซีเนียร์พีจีเอแชมเปียนชิพเมื่อปี ค.ศ. 2007 ในปี ค.ศ. 2012 สนามโอเชียนคอร์สที่ เคียวาห์ไอแลนด์กอล์ฟรีสอร์ท เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันพีจีเอแชมเปียนชิพครั้งที่ 94 สนามสำหรับการเล่นกอล์ฟแห่งอื่นๆ ได้แก่ สนามเทอเทิลพอยต์ ซึ่งออกแบบโดย แจ็ก นิกคลอส และ สนามคูการ์พอยต์ ซึ่งออกแบบโดย แกรี เพลเยอร์

ชาร์ลสตันอันเก่าแก่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และการต้อนรับแบบทางใต้ เมืองแห่งนี้เหมือนจะหยุดเวลาเอาไว้ นั่นเพราะสถาปัตยกรรมหลังยุคสงครามและภูมิทัศน์ไร่เพาะปลูกโดยรอบ ออกทัวร์นำเที่ยว “ผีสิง” เพื่อสำรวจสุสานผีสิงของชาร์ลสตันและชีวิต (และความตาย) ของโจรสลัดที่เข้ายึดเมืองและถูกแขวนคอในเวลาต่อมา ชมทัศนียภาพที่สวยงามชวนตื่นตะลึงในย่านแบตเตอรี่แอนด์เฟรนช์ในระหว่างที่เดินเล่นในสวนริมชายน้ำ จากนั้นไปชมความสวยงามของสวนในมิดเดิลตัน เพลซ

หาดทรายขาวยาวหลายไมล์และรีสอร์ทบนเกาะที่สุดแสนโรแมนติกรอต้อนรับคุณอยู่จากส่วนที่อยู่ชายขอบของมลรัฐแห่งต้นปาล์มรูปใบพัด (Palmetto State) นักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวต่างมุ่งหน้าไปที่เมียร์เทิลบีช (Myrtle Beach) และแกรนด์สแตนด์ที่ยาว 60 ไมล์ ซึ่งมีสนามกอล์ฟที่ใช้ในการแข่งขันมากกว่า 100 สนาม สนามเทนนิส และไนท์คลับรอคุณอยู่ อาคารที่เป็นมรดกเก่าแก่หลายร้อยแห่งของชาร์เลสตัน และเสน่ห์น่าดึงดูดใจ คือมนต์เสน่ห์ของเมืองนี้ รีสอร์ทริมชายหาดที่เกาะเคียวาห์ เกาะซีบรูคและ เกาะเอดิสโต เป็นที่พักสำหรับการพักผ่อนอันแสนโรแมนติก แอ่งน้ำ ต้นปาล์มที่มีเคราหญ้ามอสเกาะ และต้นโอกโกรฟสร้างบรรยากาศของประเทศที่ลุ่มต่ำที่จะอยู่ในความทรงจำของคุณ

ไอล์ออฟปาล์ม (Isle of Palms) มีลักษณะเป็นเกาะสันดอน ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยชายหาดอันบริสุทธิ์ตลอดจนบึงน้ำและลำธารที่เชื่อมถึงกัน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 โดยการเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้ในอดีตต้องนั่งเรือข้ามฟากมาเท่านั้น สะพานที่สร้างขึ้นในปี 1929 ได้เปิดให้ผู้คนต่างถิ่นหลั่งไหลเข้ามา ปัจจุบัน เกาะดังกล่าวมีทั้งแหล่งตกปลาชั้นเยี่ยม ชายหาดที่สวยงาม และสนามกอล์ฟซึ่งช่วยดึงดูดผู้คนให้มาท่องเที่ยวที่นี่ ด้วยไลฟ์สไตล์แบบรีสอร์ทที่เรียบง่ายสบายๆ ทำให้แฟชั่นยอดนิยมของที่นี่หนีไม่พ้นเสื้อยืดกับรองเท้าแตะ ไอล์ออฟปาล์มเป็นสถานที่ชั้นยอดสำหรับการผ่อนจังหวะชีวิตให้ช้าลงบ้างจากไลฟ์สไตล์ในเมืองที่เร่งรีบ ชายหาดของไอล์ออฟปาล์มที่ทอดยาวตระการตามีทั้่งความสนุกและมุมถ่ายรูปสวยๆ หลังจากกิจกรรมที่พลาดไม่ได้อย่างการอาบแดดและการเดินเล่นริมหาดที่ไอล์ออฟปาล์มเคาน์ทีพาร์กบีช (Isle of Palms County Park Beach) แล้ว มุ่งหน้าต่อไปที่ชาร์ลสตัน (Charleston) ซึ่งอยู่ไม่ไกลด้วยการขับรถไปเพียง 30 นาที ที่นั่นมีพื้นที่เชิงประวัติศาสตร์ สถานที่สำคัญ ย่านช็อปปิ้ง สนามกอล์ฟ และสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว เช่น เซาท์แคโรไลนาอควาเรียม (South Carolina Aquarium) และลานน้ำพุ (Fountain Walk) รวมไปถึงร้านอาหาร สถานบันเทิง และแหล่งช็อปปิ้งในละแวกใกล้เคียง สำหรับนักกอล์ฟแล้ว ไวลด์ดูนส์รีสอร์ท (Wild Dunes Resort) ที่ไอล์ออฟปาล์มมีสนามกอล์ฟ 18 หลุมถึงสองแห่งซึ่งออกแบบโดยทอม ฟาซิโอ และยังมีสนามสวยๆ อีกมากมายบนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงสนามแพทริออตพอยท์ (Patriots Point) และสนามชาร์ลสตันเนชันนัลคันทรีคลับ (Charleston National Country Club)

เกาะเซนต์ไซมอนส์ (Saint Simons Island) ล้อมรอบด้วยชายหาดที่กว้างใหญ่ ต้นโอ๊กที่มีมอสห้อยระย้า และที่ลุ่มน้ำเค็ม ถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวเกาะโกลเดนไอล์ (Golden Isles) ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองบรันสวิก (Brunswick) เกาะแห่งนี้มีเนื้อที่เกือบ 18 ตารางไมล์ ครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยนาข้าวและไร้ฝ้าย ในปัจจุบัน ที่นี่เป็นดินแดนมหัศจรรย์สำหรับกิจกรรมนันทนาการต่างๆ ทั้งสนามกอล์ฟแชมเปียนชิปที่ดีเลิศ เส้นทางจักรยานระยะทางหลายไมล์ พื้นที่ตกปลาที่ยอดเยี่ยม สถานที่ทางประวัติศาสตร์ และร้านอาหารชั้นนำ หากคุณชื่นชอบกอล์ฟ คุณจะต้องหลงรักเกาะเซนต์ไซมอนส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามคิงแอนด์ปรินซ์กอล์ฟคอร์ส (King and Prince Golf Course) ขนาด 18 หลุม และสนามซีปาล์มกอล์ฟแอนด์เทนนิสรีสอร์ท (Sea Palms Golf and Tennis Resort) ขนาด 27 หลุม บริเวณใกล้เคียงยังมีสนามอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมอีกรวม 234 หลุม เช่น สนามเจคิลล์ไอแลนด์คลับ (Jekyll Island Golf Club) ขนาด 63 หลุม และสนามซีไอแลนด์กอล์ฟคลับ (Sea Island Golf Club) ขนาด 36 หลุม นักตกปลามีโอกาสมากมายในการตกปลาที่แม่น้ำ ลำธาร ทะเล และมหาสมุทรแอตแลนติก คุณสามารถเช่าเรือพร้อมมัคคุเทศก์ที่ท่าเรือโกลเดนไอล์ (Golden Isles Marina) ตกปลาบริเวณท่าเรือเกาะเซนต์ไซมอนส์ (St. Simons Island Pier) และเล่นกระดานโต้คลื่นตามแนวชายฝั่งที่ทอดยาวทางตอนเหนือสุดของเกาะได้อีกด้วย แม้เกาะแห่งนี้จะมีขนาดเล็ก แต่เซนต์ไซมอนส์ก็เต็มไปด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์ อย่าพลาดชมประภาคารเซนต์ไซมอนส์ (Saint Simons Lighthouse) ซึ่งคุณสามารถเดินขึ้นบันได 129 ขั้นไปด้านบนเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะได้ อนุสรณ์สถานแห่งชาติป้อมเฟรเดริกา (Fort Frederica National Monument) ซึ่งมีซากป้อมที่อังกฤษได้สร้างขึ้นในปี 1700 และสมรภูมิบึงโลหิต (Bloody Marsh Battle Site) ที่สเปนเอาชนะอังกฤษได้ในปี 1742

ความรู้สึกที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครของเกาะแอนนามาเรีย (Anna Maria Island) ทำให้กลายเป็นสถานที่อันสมบูรณ์แบบที่เหมาะกับการรับประทานแซนด์วิชและพายเรือคายัคชมโลมา ขณะที่คุณอยู่ที่นี่เยี่ยมชมชายหาดบีนพอยท์ (Bean Point Beach) หลบไปพักผ่อนที่สุดขอบเกาะทางทิศเหนือ สวรรค์อันแสนอบอุ่นที่ให้ความรู้สึกเหมือนหาดฟลอริดาเก่า (Old Florida) จากนั้นโดยสารรถข้ามมาเยี่ยมชมสวนแอนนามาเรีย เบย์ฟรอนท์ (Anna Maria Bayfront Park) ซึ่งสามารถชื่นชมทั้งทัศนียภาพของอ่าวแทมปา (Tampa Bay) และสะพานซันไชน์สกายเวย์ (Sunshine Skyway) อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ชายหาด ร้านอาหาร และกิจกรรมต่างๆ มากมายช่วยให้เกาะแอนนามาเรีย (Anna Maria Island) กลายเป็นจุดพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบสำหรับวันหยุดพักผ่อนครั้งต่อไปของคุณ

คาร์ทาจีน่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่งดงามบนชายฝั่งทะเลคาริเบียนของประเทศโคลอมเบีย มีชายหาดที่สวยงามหลายหาด และยังมีเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน (ที่สามารถเดินชมได้ทั้งเมือง) รวมถึงสถาปัตยกรรมยุคล่าอาณานิคมที่สวยงาม และยังเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่าที่นี่จึงเป็นท่าจอดเรือสำราญที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่ง ต้องการพักจากการสำรวจถนนลาดหินอย่างนั้นหรือ แวะร้านกาแฟกลางแจ้งสักร้านเพื่อชิมขนมอบและนั่งดูผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา

รู้จักกันในนามของ “ดินแดนที่มีความสุขที่สุดในโลก” อนาไฮม์ (Anaheim) ยังคงมีอะไรให้ค้นหามากกว่าการเป็นแค่สวนสนุกที่น่าหวาดเสียว เตรียมท้องให้ว่างมาที่ Anaheim Packing District และ Center Street Promenade เพื่อเต็มอิ่มกับเมนูอาหารจากภัตตาคารที่ดีที่สุดคัดสรรมาจากแหล่งต่างๆ และร้านคราฟท์เบียร์ที่ได้รับรางวัล สำรวจงานนิทรรศการล่าสุดที่พิพิธภัณฑ์และศูนย์วัฒนธรรม Muzeo เพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีสดที่ House of Blues ใหม่ตอนนี้ได้ที่ Anaheim GardenWalk

เมืองเบนด์ (Bend) สามารถเป็นเหมือนสนามเด็กเล่นตามธรรมชาติที่เหมาะสำหรับครอบครัวและบรรดานักท่องเที่ยวผู้รักการผจญภัย ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสนามบิน RDM เพียง 21 ไมล์ กิจกรรมยอดนิยมในเมืองนี้ ได้แก่ การเดินเขาและการตกปลาริมแม่น้ำ Deschutes การปั่นจักรยานขึ้นเขาและการเล่นสกีที่ Mt. Bachelor เป็นต้น อิ่มอร่อยกับร้านอาหารที่ได้รับรางวัลหรือเลือกเที่ยวโรงเบียร์และผับสักแห่งจากเกือบ 30 แห่งก็ได้ ด้วยสภาพอากาศที่แจ่มใสและมีแดดออกจึงทำให้มีการจัดเทศกาลและคอนเสิร์ตระดับโลกมากมาย นอกจากนี้ เมืองเบนด์ (Bend) ยังเป็นเมืองที่มอบความสนุกสนานให้กับครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ High Desert Museum หรือพื้นที่เล่นสกีที่ไม่คิดค่าบริการสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

ที่นี่ยังคงเป็นเมืองที่มีความเป็นอังกฤษมากที่สุดในอเมริกาเหนือ แต่ค่อนไปทางบ้านเรือนแบบวิกตอเรียมากกว่าร้านน้ำชา ร้านขายโบราณวัตถุ และห้องแสดงศิลปะ (ซึ่งก็มีอยู่มากมายเช่นกัน) เมืองที่ขับเคลื่อนด้วยคนรุ่นใหม่นี้มีร้านค้าเท่ๆ คอฟฟี่บาร์ขนานแท้ และร้านอาหารแบบโบราณเพิ่มขึ้นมากมายหลายร้าน และยังมีเส้นทางขี่จักรยานมากกว่าเมืองใดๆ ในแคนาดา ทำให้การขี่จักรยานเป็นวิธีการสำรวจจุดที่สวยงามต่างๆ (และหลีกเลี่ยงบ่ายแห่งการช้อปปิ้งของโบราณ) ที่ดีเยี่ยมวิธีหนึ่ง