ศตวรรษที่ 13 จนถึงศตวรรษที่ 21 หนึ่งวันใน Naha ปราสาทชูริซึ่งเป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่ใจกลางแห่งราชอาณาจักรได้รับการบูรณะและเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเมือง ในขณะที่โคคุไซ โดริ (ถนนระหว่างประเทศ) ยังคงสภาพบรรยากาศร้านอาหารท้องถิ่นและสถานที่ท่องเที่ยวโดยไม่เปลี่ยนเป็นบาร์หรือไนท์คลับ

ล่องลอยอย่างแน่นิ่งอยู่ในอ่าวไทย เกาะเต่าที่มีต้นปาล์มรายล้อมได้ชื่อดังกล่าวเพราะมีเต่าทะเลจำนวนมากอาศัยอยู่ตามชายฝั่ง หาดทรายขาวหลายแห่งขนาบด้วยเขาสูงชัน บางแห่งเข้าถึงได้ด้วยรถโฟร์วีลเท่านั้น แสงแดดที่มีเกือบตลอดปีเชิญชวนให้คุณออกไปเดินเล่นหรือเอกเขนกระหว่างยามบ่ายอันยาวนาน

นิวเดลีเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความจอแจ ซับซ้อน ทว่าเงียบสงบในคราวเดียวกัน คุณอาจได้เห็นภาพวัวเดินเอื่อยบนถนนที่เรียงรายไปด้วยเพิงกระต๊อบ ป้อมแดงที่สร้างในสมัยศตวรรษที่ 17 ประดับหลังคาโดมและหอคอยขนาดใหญ่ ส่วนชานด์นี่ ชอว์คเป็นแหล่งฝึกปรือทักษะการต่อรองแบบย่อมๆ จันตาร์ มันตาร์จัดแสดงนาฬิกาแดดขนาดใหญ่ยักษ์และอุปกรณ์ดาราศาสตร์ที่ยังใช้เพื่อการพยากรณ์อากาศในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวและคนในท้องที่ต่างหลั่งไหลมายังประตูอินเดีย ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติที่เชิดชูเกียรติเหล่าทหารกล้าที่สละชีวิตในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามแอฟกันครั้งที่ 3

เนินเขาที่มีหมอกหนา, ป่าไม้สักและไม้จันทร์ที่อุดมสมบูรณ์ และไร่ชาและกาแฟที่กว้างขวางของโคดากู (Kodagu) นั้น ... น่าทึ่ง เมืองนี้รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าคูร์จ (Coorg) และได้รับการขนานนามว่า "สก็อตแลนด์แห่งอินเดีย" โคดากูเป็นเขตที่สวยงามด้วยหมู่บ้านเล็กๆ ที่กระจายอยู่มากมาย และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของเสน่ห์แห่งโลกในยุคเก่า โคดากูยังเป็นแหล่งกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเดินป่า, การตกปลา และการล่องแก่งน้ำเชี่ยว และยังมีเทศกาลสำคัญๆ อย่าง Keil Poldu (การบูชาอาวุธ), Cauvery Shankaramana (การกลับมาของเทพเจ้าแห่งน้ำ) และเทศกาล Huttari (การเก็บเกี่ยว) ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่นี่เป็นจำนวนมาก

สวมชุดสุดหรูแล้วทานอาหารระดับ 5 ดาวในพอร์ท ดักลาส สวรรค์แห่งอาหารของควีนสแลนด์ หรือจิบค็อกเทลบนเก้าอี้พักผ่อนแสนสบาย ดั่งจุดตั้งต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจแนวประการังเกรท แบริเออร์ รีฟ ป่าฝนที่เดนทรี และชายหาดที่แหลมทริบูเลชั่น เมืองของควีนสแลนด์เมืองนี้มีทุกอย่างที่คุณคาดไม่ถึง อาบแดดบนทรายสีทองของชายหาดโฟร์ไมล์ แล้วผ่อนคลายในสปากลางวันที่สวยงามของพอร์ต ดักลาส

เมืองที่ผ่านการสู้รับมายาวนานในช่วงสงครามจักรวรรดิ เมืองเยเรวาน (Yerevan) รอดพ้นจากการยึดครองของต่างชาติมาเป็นเวลาหลายร้อยปี และท้ายสุดได้ประกาศเอกราชหลังจากการการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เมืองหลวงซึ่งเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมอาร์เมเนียแห่งนี้เฉลิมฉองอิสรภาพด้วยสิ่งปลูกสร้างที่มีชีวิตชีวาและประชากรที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น แม้ว่าสิ่งนี้จะผลักดันให้เกิดความเจริญ แต่ประวัติศาสตร์ยังคงหลงเหลือให้เห็นในเมืองเยเรวาน อาทิเช่น สถาบันเก็บรวบรวมเอาสารโบราณที่เขียนด้วยลายมือรวมถึงหนังสือต้นฉบับเดิมในหลายภาษา (The Institute of Ancient Manuscripts) ซึ่งย้อนหลังไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 และซากของป้อมเอเรบูนี (Erebuni Fortress) ซึ่งสร้างเมื่อ 782 ปีก่อนคริสตกาล และยังคงตั้งตระหง่านอยู่