จากร้านอาหารที่คึกคัก สถานที่เดินเล่นรอบโรงแรม จนถึงสถานที่ที่อยู่ใกล้กับเนินทรายที่มีเสียงแผ่วเบาแห่งสวนธรรมชาติ S’Alfubera ปลายาเดมูโรหยิบยื่นทุกสิ่งดังใจหวังสำหรับทุกคน ด้วยการตั้งชื่อตามเมืองมูโรซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนบก ชายฝั่งที่ทอดยาวแห่งนี้ในปัจจุบันคือรีสอร์ทที่มีสิทธิ์ปกครองตนเองและยังคงรักษาบรรยากาศที่สบายๆ

พัลมาเป็นศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของมาเจอร์ก้าและเป็นจุดตั้งต้นที่น่าประทับใจสำหรับการสำรวจชายหาดสีขาวและชายหาดสีทองของเกาะแห่งนี้ เมืองเก่าของพัลมาซึ่งเคยเป็นคาสบาห์ (เมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ) ของแขกมัวร์ โดดเด่นด้วยถนนแคบๆ ที่ไขว้สลับไปมาซึ่งคุณสามารถเดินสำรวจได้อย่างสนุกสนาน กระโดดขึ้นรถไฟสายโซลเลอร์เพื่อชมทัศนียภาพที่สวยงามจากทริประยะทาง 17 ไมล์ จากนั้นแวะชมปราสาทเบลเวอร์สมัยศตวรรษที่ 14 และพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย แล้วต่อด้วยการแวะเที่ยวไนท์ไลฟ์และกิจกรรมยามค่ำคืนของเมืองนี้

คุณจะเห็นอาคารสไตล์อิตาลีที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 และวิหารเก่าแก่ที่น่าสนใจที่นี่ อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาที่ซิอูดาเดลล่า (Ciudadela) ก็เพื่อการเที่ยวกลางคืนและเทศกาลอาหารต่างๆ เช่น Processo dels Tres Tocs ในวันที่ 17 มกราคม และงานเฉลิมฉลองนักบุญเซนต์โจแอนซึ่งเป็นนักบุญผู้ปกป้องคุ้มครองเมืองนี้ในวันที่ 23-24 มิถุนายน งานเทศกาลเหล่านี้จะมีการเต้นรำ, ขบวนพาเหรด และโพมาดา (เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมระหว่างเหล้ายินและมะนาว)

มินอร์คาเป็นเมืองแรกที่จะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นในสเปน จึงเปรียบเสมือนตัวแทนอรุณเบิกฟ้าของประเทศ ชายหาดของที่นี่ทั้งสวยงามและไร้ความพลุกพล่าน น้ำทะเลประกายระยับดุจอัญมณีของเกาะเป็นเสมือนแม่เหล็กดึงดูดนักสกีน้ำ นักวินด์เซิร์ฟ และนักเล่นเรือใบให้มาที่นี่ หาดพลาย่า เดอบินิกอสเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัว ส่วนคาลา มิทจานาเหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการบรรยากาศโรแมนติก มุ่งหน้าไปยังเมืองอลาออร์เพื่อลิ้มลองชีสพื้นเมืองสดใหม่หรือย้อนเวลาหาอดีตที่หมู่บ้านชาวประมงฟอร์เนลส์ที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์

เป็นภาษาสเปนแปลว่า "ปาร์ตี้กันจนตายไปข้างหนึ่ง" อาจจะไม่ใช่แค่คำเปรียบเปรยเฉยๆ แต่ที่นี่เนี่ยแหละที่เป็นสนามเด็กเล่นยามค่ำคืนของยุโรป อิบิซามีความยาวกว่า 100 ไมล์ติดชายฝั่ง มีชายหาดมากกว่า 50 ชายหาด บวกกับภัตตาคารมากมาย บาร์และกีฬาทางน้ำ และมีคลับสโมสรต่างๆ แน่นอนว่าไปศึกษาวัฒนธรรมได้ที่เมืองเก่าที่ได้รับการจัดอันดับโดยองค์การยูเนสโกอย่างอิบิซา

คุณจะได้พบกับความงามที่ไม่มีการปรุงแต่งและจังหวะชีวิตที่เนิบนาบในชิงเคว เทอร์เร (Cinque Terre) ด้วยชื่อที่มาจากเมืองทั้งห้าแห่ง นั่นคือ มอนเตรอสโซ (Monterosso), เวรนาซซา (Vernazza), คอร์นิจิเลีย (Corniglia), มานาโรลา (Manarola) และริโอมาจยอเร (Riomaggiore) บริเวณส่วนนี้ของอิตาเลียน ริเวียร่า (Italian Riviera) เป็นมรดกโลกขององค์การ UNESCO อีกแห่งหนึ่ง ที่นี่ไม่อนุญาตให้ใช้รถยนต์ คุณต้องขึ้นรถไฟท้องถิ่นหรือเรือเฟอร์รี่เพื่อเดินทางระหว่างเมืองแต่ละเมือง หรือเดินไปตามเส้นทางเดินทางไกลที่สวยงามซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองต่างๆ

โกโซ่เป็นหนึ่งในหมู่เกาะมอลตา และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในบรรดาเกาะทั้งเจ็ด โดยอยู่นอกชายฝั่งเกาะซิซีลีในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เกาะแห่งนี้อาจดูบ้านๆ กว่าเกาะอื่นๆ ในหมู่เกาะ และมีประชากรอยู่ราว 31,000 คน ที่นี่มีสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อย่างวัดแกนติจาที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีชายหาดทรายสีส้มอมแดงที่โดดเด่นและน้ำทะเลที่เหมาะกับการดำน้ำตื้นที่อ่าวรัมลา รถประจำทางของที่นี่ค่อนข้างเก่าแก่ เมื่อแล่นไปตามถนนของเกาะก็อาจจะทำให้การเดินทางของคุณเพิ่มความผจญภัยได้อีกระดับ