กรุงมะนิลา (Metropolitan Manila) ประกอบด้วยเมืองใหญ่ 6 เมืองและเมืองเล็ก 12 เมือง เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์แห่งนี้ ตั้งอยู่บนอ่าวมะนิลาในทะเลจีนใต้ และผ่ากลางด้วยแม่น้ำปาสิก (Pasig) มีทั้งความเก่าแก่และความทันสมัย ความร่ำรวยและความยากจน สถานที่ยอดนิยมคือบริเวณที่มีกำแพงล้อมที่เรียกว่าอินทรามูรอส (Intramuros) ซึ่งเป็นเมืองหลวงในสมัยที่อยู่ใต้อาณานิคมของสเปน อินทรามูรอสยังคงรักษาคุกใต้ดินและห้องเก็บดินปืนเก่าแก่เอาไว้ นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มหอศิลป์และโรงละครอีกด้วย เมืองนี้มีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า สวนสาธารณะและโบสถ์ต่างๆ มากมาย แถมยังท่องราตรีได้ถึงเช้าอีกด้วย

เมืองตาไกไตยังคงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุดในฟิลิปปินส์ด้วยตำแหน่งที่ตั้งเหนือปล่องภูเขาไฟตาอัลที่ยังคุกรุ่นอยู่ ทิวทัศน์ของทะเลสาบปล่องภูเขาไฟและภูมิอากาศที่เย็นสดชื่นทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหล ซึ่งคงไม่ต้องพูดถึงสวนในเมือง People's Park in the Sky ที่สร้างไม่เสร็จอันโด่งดัง

เราเดาว่าคงไม่มีปัญหาเรื่องมนุษย์หมาป่าบนเกาะพงัน เนื่องจากในวันพระจันทร์เต็มดวงของทุกเดือน ผู้คนหลายพันคนจะเข้าร่วมฉลองปาร์ตี้พระจันทร์เต็มดวง (Full Moon Party) ที่จะจัดกันตลอดทั้งคืน พร้อมด้วยการเล่นดนตรีบนชายหาด ในเวลากลางวัน คุณจะหลงใหลไปกับเกาะที่เต็มไปด้วยต้นมะพร้าวและหาดทรายขาวสะอาดมากมาย ถ้าคุณชอบดำน้ำ ให้ไปที่หินใบ (Sailrock) เพื่อลองการดำน้ำบนหินที่น่าตื่นเต้น

นักท่องราตรีต่างหลั่งไหลกันมาชุมนุมที่หาดป่าตองที่กว้างขวางและไม่เหมือนใคร หาดแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากความคึกคักจอแจของไนต์คลับ บาร์ และผับต่าง ๆ และชายหาดของที่นี่ก็เหมาะสำหรับการอาบแดด เล่นเจ็ทสกี พายเรือคายัค และร่อนร่มเสียเหลือเกิน วันสบาย ๆ แบบเกียจคร้าน มาใช้เวลาอาบแดดบนเตียงผ้าใบใต้ร่มสีสันฉูดฉาด แล้วเรียกพ่อค้าแม่ขายริมชายหาดขอซื้อกุ้งหอยปูปลาสด ๆ ก็ช่างเป็นวันที่ดีเสียนี่กระไร

บาหลี (Bali) เป็นภาพโปสการ์ดที่มีชีวิต ซึ่งเป็นสรวงสวรรค์ของชาวอินโดนีเซียที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกจินตนาการ อาบแดดให้ฉ่ำใจบนชายหาดเม็ดทรายขาวละเอียดหรือแหวกว่ายไปกับสัตว์น้ำเขตร้อนริมแนวปะการังหรือซากเรือรบสีสันสดใสสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ป่าเขียวขจีบนชายฝั่งปกคลุมให้ร่มเงาวัดหินและลิงจ๋อแสนซน “เมืองหลวงแห่งศิลป์” อย่างอูบุด (Ubud) เหมาะสำหรับการชมการแสดงนาฏศิลป์ เรียนทำผ้าบาติกหรือเครื่องเงิน หรือปลุกพลังกายและใจในชั้นเรียนโยคะ

เป็นที่เลื่องลือด้วยรสชาติของเนื้อวัวที่แสนฉ่ำและกรอบ เหล้าสาเกบริสุทธิ์ ท่าเรือโกเบแห่งประเทศญี่ปุ่นจึงเป็นเมืองที่เจริญอิ่มล้นไปด้วยความรู้สึกแบบนานาชาติ ฤดูกลั่นเหล่าสาเกเริ่ม–ตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนเมษายน และเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการทัวร์คุระ (ภาษาญี่ปุ่นแปลว่าการกลั่นเบียร์) ไปที่พิพิธภัณฑ์โรงกลั่นสาเกที่ชื่อว่าฮากุตซุเระ ซาเก (Hakutsure Sake) ได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ สีสันยามค่ำคืนที่นี่ก็ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ