เมืองชาร์ลอตต์ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น Queen City ตั้งอยู่ในย่านใกล้เคียงที่มีความผสมผสานที่มาจากฝั่งแม่น้ำคาทาวบ้าและมีขนาดพื้นที่ 300 ตารางไมล์ (482 ตารางกิโลเมตร) จากย่านศิลปะที่เต็มไปด้วยโรงเบียร์จนถึงทางเดินประวัติศาสตร์ที่มีกลิ่นอายของความมีเสนห์ เมืองชาร์ลอตต์ได้รับการพิจารณาให้เป็นเมืองแห่งการมอบความสุขแก่ผู้คน

ฮิวสตัน (Houston) เปี่ยมไปด้วยความคึกคักและจิตวิญญาณแห่งอิสรภาพอยู่ในตัว เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางในตอนใต้ที่โดดเด่นเรื่องวัฒนธรรมและอาหารการกิน โดยมีร้านอาหารกว่า 11,000 ร้าน และมีอาหารหลากหลายประเภทจากกว่า 70 ประเทศ วงการศิลปะอันเฟื่องฟูประกอบด้วยคณะโอเปรา บัลเลต์ ซิมโฟนี และคณะละครมากมายประจำเมือง เขตมิวเซียมดิสทริก (Museum District) มีพิพิธภัณฑ์ 19 แห่งที่สามารถเดินเยี่ยมชมทั่วถึงกันได้ อย่าพลาดชมศูนย์อวกาศฮิวสตัน (Space Center Houston) ที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับศูนย์ควบคุมภารกิจในประวัติศาสตร์ (Historic Mission Control) ขององค์การนาซาที่ศูนย์อวกาศจอห์นสัน (Johnson Space Center)

ถ้าคุณชอบชายหาดที่ไม่มีสิ่งปลูกเพื่อการค้า Isla de Vieques สถานที่ในฝันของคุณ ด้วยชายหาดมากกว่า 40 หาดและไม่สัญญาณไฟจราจรแม้แต่หนึ่งอัน ลองไปเที่ยวที่มอสกิโต้เบย์ในคืนที่แสงจันทร์สลัวเพื่อดูน้ำสะท้อนแสงที่เลื่องชื่อ (สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กส่องแสงสะท้อนกับผิวน้ำ)

ซุกตัวอยู่ระหว่างเนินเขาที่ปกคลุมด้วยไม้พุ่มเตี้ยของเทือกเขาซานตาอีเนสและชายฝั่งทะเลสีฟ้าใสของมหาสมุทรแปซิฟิก ซานตาบาร์บารา (Santa Barbara) นับว่าเป็นเมืองที่ดีที่สุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย โบสถ์มิชชั่น ซานตาบาร์บารา (Mission Santa Barbara) เป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมทางศาสนาของศตวรรษที่ 18 ที่มีอาณาบริเวณสวยงามและการตกแต่งภายในที่เก็บรายละเอียดได้อย่างยอดเยี่ยม เดินเล่นเรียกน้ำย่อยผ่านสวนสาธารณะชอร์ไลน์ (Shorline Park) แล้วนั่งรับประทานอาหารเหนือผืนน้ำบนท่าเรือ Stearns Wharf ต้นมะเดื่อ อุทยาน น้ำตก และสวนพฤกษศาสตร์ ทำให้ความงดงามทางธรรมชาติของซานตาบาร์บาราสมบูรณ์แบบ

เคโลว์นา (Kelowna) ตั้งอยู่ที่ทะเลสาปโอคานากัน (Okanagan) ที่เชื่อว่ารักษาได้ทุกโรค ใช้เวลาเล่นกอล์ฟในวันหยุดสุดสัปดาห์ พักผ่อนตามชายหาดหรือสำรวจเส้นทางสายธรรมชาติ หุบเขาโอคานากันเต็มไปด้วยสวนผลไม้ในขณะที่สวนองุ่นท้องถิ่นหลายที่มีทัวร์ไร่องุ่นและไวน์ให้ชิมฟรี ศึกษาประวัติศาสตร์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เกี่ยวกับเคโลว์นาและภารกิจของหลวงพ่อพันโดซี แล้วก็วางแผนล่องเรือในทะเลสาบชมดวงจันทร์ก่อนจะสิ้นสุดวันของคุณ

กำแพงสมัยศตวรรษที่ 14 ของลากอส (Lagos) มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและสวยงามอยู่ภายใน ตั้งแต่ป้อมปราการไปจนถึงโบสถ์ที่งดงามอย่างเช่นเซา โจเอา เฮอร์มิงเตจ (São João Hermitage) จากยุคกลาง และเซา เซบาสทีโอ (São Sebastião) จากศตวรรษที่ 17 แต่นี่เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น ผู้คนเดินทางมาที่นี่เพื่อเที่ยวชมแนวชายฝั่งที่มีชายหาดสวยงามมากกว่า 6 หาด อ่าวทรายที่เงียบสงบถูกขนาบข้างด้วยหน้าผาที่งดงาม แอ่งมีอา ไพรอา (Meia Praia) มีหาดทรายยาวถึง 2.5 ไมล์สำหรับกีฬาทางน้ำทุกรูปแบบ และเมื่อคุณโลดโผนจนเต็มอิ่มแล้ว คุณสามารถผ่อนคลายด้วยสถานที่เที่ยวกลางคืนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเขตอัลการ์ฟ