สิบสามร้อยปีที่ผ่านมา นารา (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเฮย์จิ - ยู) เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิญี่ปุ่น ในปี 2010 เทศกาลเฉลิมฉลองมากมายถูกจัดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบปีของเมืองโบราณแห่งนี้ “ญี่ปุ่นเก่า" ยังคงหาดูได้ง่าย ณ ที่แห่งนี้ ตั้งแต่วิหารพระพุทธรูปขนาดยักษ์ไปจนถึงโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและสวนอิซุยเอียนอันสงบ นักท่องเที่ยวติดใจพาเดินทัวร์ของนารา โดยเฉพาะในย่านนารามาจิซึ่งเป็นย่านการค้าในประวัติศาสตร์

เป็นที่เลื่องลือด้วยรสชาติของเนื้อวัวที่แสนฉ่ำและกรอบ เหล้าสาเกบริสุทธิ์ ท่าเรือโกเบแห่งประเทศญี่ปุ่นจึงเป็นเมืองที่เจริญอิ่มล้นไปด้วยความรู้สึกแบบนานาชาติ ฤดูกลั่นเหล่าสาเกเริ่ม–ตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนเมษายน และเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการทัวร์คุระ (ภาษาญี่ปุ่นแปลว่าการกลั่นเบียร์) ไปที่พิพิธภัณฑ์โรงกลั่นสาเกที่ชื่อว่าฮากุตซุเระ ซาเก (Hakutsure Sake) ได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ สีสันยามค่ำคืนที่นี่ก็ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ

ศาลเจ้าและวัดในเมืองเกียวโตเป็นเสมือนกาวที่เชื่อมโยงชีวิตอันทันสมัยในเมืองไว้กับอดีตอันเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น เช่น ศาลเจ้าชิโมกาโม่ที่มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 6 และดูเหมือนว่าจะหยุดเวลาเอาไว้ด้วยความสงบร่มรื่นและพลังแห่งจิตวิญญาณที่มีอย่างเปี่ยมล้น สักการะเทพเจ้าโพสพชินโตที่ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ต่อด้วยการเคารพรูปปั้นพระอวโลกิเตศวรพันมือขนาดองค์จริงได้ที่ซัลจูซังเกนโด ชมการแสดงเกอิชาแบบดั้งเดิม จากนั้นดื่มด่ำไปกับมื้ออาหารแบบเงียบๆ ในร้านอาหารที่ให้ทัศนียภาพแม่น้ำกาโม

ปราสาทฮิเมจิ แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามากว่า400ปีแล้ว ด้วยการเอาใจใส่ ทะนุบำรุงอย่างดี จึงทำให้อยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยมอย่างน่าภาคภูมิใจ เรียกได้ว่าแค่มาเยือนเพื่อมาชมความสวยงามของปราสาทอย่างอย่างเดียวก็คุ้มค่าแล้ว อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานี สะดวกมากแก่การแวะตระเวณชมหลายๆจุด และทริปท่องเที่ยวระยะสั้น