โอบล้อมด้วยโบสถ์ขนาดใหญ่จากยุคศตวรรษที่ 13 และตั้งอยู่ใกล้กับอนุสรณ์สถานยุทธการที่แม่น้ำซอม เมืองอาเมียงจึงเป็นที่ที่รวบรวมอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์และเมืองวิทยาลัยของคนรุ่นใหม่เข้าไว้ด้วยกัน สวนลอยน้ำ Les Hortillonnages d'Amiens, บ้านพักของจูลส์ เวิร์น และบาร์และร้านอาหารใน Quartier St-Leu ยิ่งส่งเสริมให้เมืองมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น

อะไรที่ทำให้มารน์-ลา-วัลเล (Marne-la-Vallée) เป็นหนึ่งในรายชื่อของเรา เหตุผลง่ายๆ: ดิสนีย์แลนด์ปาร์คปารีส ครอบครัวจำนวนมากได้พากันมาที่นี่ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการในปี 1992 ส่วนสิ่งดึงดูดใจอื่นๆ ของดิสนีย์ได้แก่วอล์ทดิสนีย์สตูดิโอปาร์ค และกอล์ฟดิสนีย์แลนด์ ถ้าคุณต้องการพักจากมินนี่และมิคกี้ คุณสามารถแวะชมศูนย์ชีวิตสัตว์ทะเล (Sea Life Centre) หรือศูนย์การค้าวัล ดูโรป (Val d'Europe) ได้

ด้วยบ้านเรือนที่ทำจากหินตั้งเด่นใต้แสงแดดอบอุ่น จตุรัสที่ก่อสร้างจากหินใหญ่ และซากเมืองโรมันเก่าแก่ของเมืองอาร์ล จึงเข้าใจได้ไม่ยากเลยว่าเหตุใดวินเซนต์ แวน โก๊ะจึงดูมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ด้วยที่ตั้งริมแม่น้ำโรน ตัวเมืองจึงมีทัศนียภาพที่สวยงามเหมือนศิลปะร่วมสมัยที่โดดเด่น

เพียงสองชั่วโมงจากทางตอนเหนือของกรุงลอนดอนโดยรถไฟคุณก็จะมาถึงเมืองยอร์ค (York) ซึ่งเป็นเมืองที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ด้วยกำแพงเก่าแก่ของเมืองนี้ที่มีอายุถึง 1,900 ปี ชาวโรมันสร้างเมืองแห่งนี้ขึ้นใน 71 AD และชาวไวกิ้งเข้ายึดเมืองแห่งนี้ได้ในปี 866 AD หยุดแวะชมพิพิธภัณฑ์และสวนยอร์คเชียร์ (Yorkshire Museum and Gardens) เพื่อดูสิ่งที่ชาวโรมันและชาวไวกิ้งทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์ให้ชนรุ่นหลัง (คงทิ้งของไว้มากมายก่อนจากไป) จากนั้นค่อยไปต่อที่พิพิธภัณฑ์ปราสาทแห่งเมืองยอร์ค (York Castle Museum) เพื่อชมภาพโดยรวมของเมืองแห่งนี้ในช่วง 400 ปีที่ผ่านมา

เอดินบะระ (Edinburgh) เป็นเมืองหลวงของสกอตแลนด์ ขึ้นชื่อในเรื่องของมรดก วัฒนธรรม และเทศกาลต่างๆ เดินชมรอบใจกลางเมืองเพื่อสำรวจแหล่งมรดกโลกของเมืองเก่าและเมืองใหม่ รวมถึงพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ทั้งหมดรอบบริเวณ จากนั้นพักรับประทานอาหารมื้ออร่อยซึ่งทำจากผลผลิตของชาวสกอตแลนด์ที่สดใหม่ก่อนจะออกไปตะลุยหนึ่งในกิจกรรมอันหลากหลายของเอดินบะระ ซึ่งประกอบไปด้วย เทศกาลทางวัฒนธรรมช่วงฤดูร้อน หรือเทศกาลดนตรีในฤดูหนาว แสงสีและงานรื่นเริงที่มีการร้องเพลงและเรื่องราว

แบร์เกน (Bergen) เป็นเมืองที่คึกคักในประเทศนอร์เวย์ และยังเป็นเสมือนประตูสู่ฟยอร์ดที่ตั้งตระหง่านสวยงาม ท่าเรือบริกเกน ฮันเซียติก (Bryggen Hanseatic Wharf) ให้บรรยากาศแห่งวัฒนธรรมพื้นเมืองขนานแท้ ลองเดินเล่นถ่ายรูปเย็นใจไปกับอาคารพาณิชย์แบบฮันเซียติกดู มองเผินๆ เหมือนฉากในกองถ่ายหนังยังไงยังงั้น ถ้าคุณได้เยี่ยมชมตลาดปลากลางแจ้ง อย่าเผลอสูดลมหายใจลึกเกินไปเชียว ตลาดปลาแห่งนี้เป็นดั่งอนุสรณ์ที่แสดงให้เห็นถึงบทบาทอันสำคัญในการค้าปลายุคบุกเบิกของเมือง นั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟยอร์ดไปยังลีซอง (Lysøen) แล้วเยี่ยมชมวิลล่าโบราณยุคศตวรรษที่ 19 ของนักประพันธ์เพลงโอเล่ บูล ที่นี่จะทำให้คุณหลงเสน่ห์กลิ่นอายแบบเทพนิยายเข้าอย่างจัง

เมืองเคมบริดจ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสองมหาวิทยาลัยที่มีเกียรติที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกามีความแปลกใหม่อย่างสร้างสรรค์ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัด การผสมผสานของเรื่องราวประวัติศาสตร์ สถานที่ที่นักศึกษาพบปะกัน ศิลปะทางเลือกใหม่และสถานที่แห่งวัฒนธรรม ร้านค้าขายเสื้อผ้าสไตล์ย้อนยุค ร้านหนังสือและร้านอาหารพื้นเมือง เมืองนี้เป็นเมืองที่เจ๋งจริงๆ แม้ว่าเมืองเคมบริดจ์จะอยู่ตรงข้ามกับบอสตันโดยมีเพียงแม่น้ำชาร์ลส์กั้น แต่เคมบริดจ์ก็มีกลิ่นอายที่แตกต่างที่สามารถสังเกตเห็นได้โดยทันที เริ่มจากจัตุรัสฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นศูนย์รวมของกิจกรรมต่างๆ และการผสมผสานของร้านค้านำสมัย ร้านกาแฟกลางแจ้ง และเอกลักษณ์แบบท้องถิ่นหลากสีสัน หยิบแผนที่ทัวร์เดินเที่ยวจากบูธข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวที่ใจกลางจัตุรัสได้เลย เส้นทางนี้จะพาคุณเดินผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่ง รวมถึงสุสาน Mount Auburn แหล่งประวัติศาสตร์แห่งชาติ Tory Row และ Longfellow มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดนำเสนอทัวร์โดยนักศึกษาไปยังอาคารและอนุสาวรีย์ที่โด่งดังและทรงเกียรติต่างๆ ผู้ที่สนใจในศิลปะและสถาปัตยกรรมควรเดินสำรวจรอบๆ วิทยาเขต M.I.T ซึ่งมีประติมากรรมกลางแจ้งโดยปรมาจารย์ เช่น Picasso และอาคารศตวรรษที่ 20 ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกขึ้นชื่อ เช่น Eero Saarinen และ I. M. Pei ระหว่างทาง ลองสำรวจร้านหนังสือ แวะดูนักแสดงบนท้องถนน และจิบกาแฟที่ร้านกาแฟกลางแจ้งเพื่อดื่มด่ำกับทุกสิ่งที่เมืองอันน่าทึ่งแห่งนี้มอบให้