ถึงแม้จะอยู่ใกล้กับริโอ เดอ จาเนร์โร (Rio de Janeiro) แต่อิลฮา กรานเด (Ilha Grande ) ก็แตกต่าง และเป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อนที่ยังบริสุทธิ์ของบราซิล การก้าวออกจากเรือเฟอร์รี่เพื่อลงสู่เกาะคือการตัดตัวคุณออกจากโลกภายนอก ไม่มีรถยนต์ ไม่มีธนาคาร (เอาเงินติดตัวไปด้วยนะ) ไม่มีเสียงโทรศัพท์ ทุกสิ่งทุกอย่างคือการพักผ่อนกลางแสงแดดอันอบอุ่น เล่นเรือใบ ว่ายน้ำ ปลีกตัวหายไปในสปา และกลับเข้ามาใหม่เพื่อชิมอาหารทะเลสดๆ ที่ร้านอาหารเล็กๆ กว่า 30 ร้าน

เมืองปอร์ตูเซกูโร (Porto Seguro) มีชีวิตชีวาไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ของประเทศบราซิล เรือใบแบบสกูนเนอร์ (Schooner) จะพาคุณแล่นออกจากริมฝั่งแม่น้ำ Buranhem ซึ่งห่างออกไป 15 ไมล์จากอุทยานทางทะเล Recife de Fora Marine Park เพื่อออกสำรวจทะเล ส่วนบันไดเมืองจะนำคุณไปยังสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง Cidade Historica เพื่อชมทิวทัศน์จากมุมสูง พร้อมกับชมการสาธิตศิลปะการป้องกันตัวแบบคาโปเอร่า แล้วไปดื่มด่ำกับประเพณีและวัฒนธรรมของบราซิลในย่าน Passarela Do Alcool ซึ่งเต็มไปด้วยรถเข็นขายงานฝีมือ ร้านอาหาร และเหล่านักแสดงที่กระตือรือร้นริมท้องถนน

นักเขียนและกวีต่างมีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองที่เปี่ยมไปด้วยมนตร์ขลังทางศิลปะอย่าง Cuenca ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศและเป็นเมืองหลวงของจังหวัด Azuay มีคาเฟ่และห้องแสดงศิลปะมากมายบนถนนสายแคบที่ปูด้วยหินขนาดใหญ่ พลาซ่าหลักประกอบไปด้วยวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี 1557 ซึ่งเป็นปีที่ก่อตั้งเมือง ตลอดจน Cathedral of the Immaculate Conception โดมฟ้าที่มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1885 หมวกปานามาที่ผลิตในท้องถิ่นเป็นสินค้าขึ้นชื่อของตลาดที่มี Casa de la Mujer ที่ใจกลาง

อารูบา เกาะที่เปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สั่งสมมานับแต่ตั้งถิ่นฐานเมื่อค.ศ 1000 อีเกิลบีช ชายหาดสุขสงบงดงามตามแบบหาดแคริบเบียนด้วยผืนทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีเขียวครามที่คอกีฬาทางน้ำต่างแวะเวียนมา ขณะที่หาดปาล์มบีชทางฟากตะวันตกของเกาะนั้นเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเล่นน้ำพร้อมด้วยหาดทรายละเอียดนุ่มละมุน สำหรับผู้ที่ชมชอบสภาพแวดล้อมใต้เกลียวคลื่นไม่ควรพลาดซากเรือบรรทุกสินค้า Pedernales ที่อัปปางจากตอร์ปิโดซึ่งเป็นจุดดำน้ำขึ้นชื่อ ด้วยความยาวเกาะเพียง 20 ไมล์ เพียงมีจักรยานหรือจักรยานยนต์เล็กสักคน คุณก็สำรวจอารูบาจนปรุโปร่งได้อย่างง่ายดาย