ที่นี่ยังคงเป็นเมืองที่มีความเป็นอังกฤษมากที่สุดในอเมริกาเหนือ แต่ค่อนไปทางบ้านเรือนแบบวิกตอเรียมากกว่าร้านน้ำชา ร้านขายโบราณวัตถุ และห้องแสดงศิลปะ (ซึ่งก็มีอยู่มากมายเช่นกัน) เมืองที่ขับเคลื่อนด้วยคนรุ่นใหม่นี้มีร้านค้าเท่ๆ คอฟฟี่บาร์ขนานแท้ และร้านอาหารแบบโบราณเพิ่มขึ้นมากมายหลายร้าน และยังมีเส้นทางขี่จักรยานมากกว่าเมืองใดๆ ในแคนาดา ทำให้การขี่จักรยานเป็นวิธีการสำรวจจุดที่สวยงามต่างๆ (และหลีกเลี่ยงบ่ายแห่งการช้อปปิ้งของโบราณ) ที่ดีเยี่ยมวิธีหนึ่ง

วัตสันวิลล์และหุบเขาปาราโจในภาคใต้ของซานตาครูซเคาน์ตีเต็มไปด้วยชายหาดที่มีความงามตามธรรมชาติแท้ๆ และภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน บรรดานักดูนกจะไปรวมกันที่เส้นทางเดินป่ายาวหลายกิโลเมตรรอบพื้นที่ชุ่มน้ำของวัตสันวิลล์ ใกล้ๆ กันเป็นเขตอนุรักษ์ปากแม่น้ำแห่งชาติเอลค์ฮอร์นสลัฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ชุ่มน้ำที่อุดมสมบูรณ์ผืนสุดท้ายของแคลิฟอร์เนียและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดูนก และอย่าพลาดชมงานเทศกาลชมนกประจำปี เทศกาลสตรอว์เบอร์รี ตลาดนัดเกษตรกรรายสัปดาห์ วัตสันวิลล์พลาซ่า และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางการเกษตร

ซากปรักหักพังของชนเผ่ามายาเหนือทะเลในตูลุมเป็นภาพเก่าแก่ที่คุณจะได้เห็นในระหว่างอาบแดด เมืองที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองแห่งนี้ถือเป็นเมืองสุดท้ายที่ชาวมายาสร้างขึ้น และแหล่งโบราณคดีของที่นี่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี ละสายตาจากชายหาดแล้วมาเยี่ยมชมเอล คาสติลโล วิหารเฟรสโก และวิหารเทวสถิตกันบ้าง ออกสำรวจแม่น้ำใต้ดินใต้ชายคาหินย้อยในถ้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งสวนนิเวศลาพาญ่า หรือดำลงไปในซีโอเต้ ดอส โอโฮสเพื่อดำน้ำตื้นในถ้ำกลางป่า