ประวัติศาสตร์กว่าสองพันปีกระจายครอบคลุมทั่วฟ้าของไมนซ์ (Mainz) และพิพิธภัณฑ์และวิหารที่มีสถาปัตยกรรมที่หลากหลายก็กระจายอยู่ทั่วเมือง ซื้อหนังสือกลับไปเป็นของที่ระลึกสักเล่ม กุตเทนเบิร์ก (Gutenberg) พิมพ์งานของเขาที่นี่ และพิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้แก่เขาก็เป็นไฮไลท์ที่คุณพลาดไม่ได้

เมืองวีสบาเดน (Wiesbaden) ในแคว้นเฮสเซ (Hesse) ซ่อนอยู่ในหุบเขาที่สวยงามระหว่างแม่น้ำไรน์ (Rhine) กับภูเขาเทานุส (Taunus) ที่นี่ได้ชื่อว่าเมืองสปาที่สำคัญมาเป็นเวลานานแล้ว และหากนับย้อนกลับไปยังยุคโรมัน ที่นี่ถูกเรียกว่า Aquae Mattiacorum นอกจากนี้ ในศตวรรษที่ 19 วีสบาเดนยังเคยเป็นศูนย์กลางบ่อนการพนันที่โด่งดังอีกด้วย สำหรับการลงน้ำเพื่อผ่อนคลาย ลองไปที่ Kaiser Friedrich's Therme ที่มีชื่อเสียงอยู่ในกลางใจเมือง และอย่าพลาด Schlossplatz (พาเลซสแควร์) และศูนย์การประชุมและกิจกรรม Kurhaus Wiesbaden ที่น่าประทับใจ ซึ่งทั้งสองแห่งอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่ช่วงตึก

บางเมืองก็มีเทศกาลพีช บางที่ก็มีเทศกาลบลูเบอร์รี่ แม้แต่เทศกาลหัวหอมก็ยังมี เทศกาลเหล่านี้คงจะสนุกไม่น้อย แต่เราคิดว่าที่ตูบินเจน (Tubingen) ความคิดเจ๋งมากๆ ที่จัดเทศกาลช็อคโกแลตขึ้น ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป และจัดขึ้นในต้นเดือนธันวาคม ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ นักท่องเที่ยวก็อยากจะลิ้มรสขนมหวานของเมืองนี้เสียเหลือเกิน

เมืองคาสอาจเป็นที่รู้จักอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการดำน้ำลึกที่สำคัญที่สุดในตุรกี แต่ด้วยการมีซากปรักหักพังจากยุคโบราณ ร้านอาหารริมทะเล และบ้านเรือนที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขตร้อนมีระเบียงสไตล์ออตโตมัน จึงทำให้เมืองริมทะเลแห่งนี้มีสิ่งน่าสนใจมากกว่าแค่การเป็นแหล่งทำกิจกรรมใต้น้ำ

ในฐานะเมืองหลวงของอะโซร์ส เมืองปงตาแดลกาดาทำหน้าที่เหมือนประตูสู่ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงของหมู่เกาะ ภูเขาไฟ และแนวชายฝั่งที่เต็มไปด้วยโขดหินมากมาย ตัวเมืองผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยเข้าไว้กับโบสถ์สไตล์โกธิค ป้อมปราการที่มีประวัติศาสตร์ และโรงแรมขนาดเล็กสไตล์โปรตุเกสดั้งเดิม