เมืองโคเวนทรีมีสัญลักษณ์ของเมืองเป็นซากปรักหักพังของโบสถ์ที่ถูกทำลายจากการระเบิดอย่างรุนแรง รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงแม้เมืองหลักของมิดแลนส์จะเป็นประตูที่สะดวกในการเดินทางไปยังสแตรทฟอร์ดอัพพอนเอวอน แต่ผู้ที่แวะพักที่นี่ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์ในเมืองที่อยู่ในระหว่างการฟื้นฟูทั้งทางด้านการเงินและวัฒนธรรมไปในตัว

ห่างไปทางตะวันตกจากกรุงลอนดอนเพียงเล็กน้อย เมืองเรดดิ้งมีอาคารอิฐสีแดงจากยุควิคตอเรีย ซากปรักหักพังในยุคกลาง มหาวิทยาลัยที่เจริญก้าวหน้า และทางเดินริมน้ำสวยงามที่ทอดยาวไปตามแม่น้ำเทมส์ ชุมชนนักเรียนนักศึกษาของที่นี่และเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ประจำปีอย่าง Reading Festival ช่วยเพิ่มสีสันความแปลกใหม่ให้กับเมือง

วินด์เซอร์ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของพระราชวังวินด์เซอร์ ที่พำนักของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทางแบบเดย์ทริปจากกรุงลอนดอน นักท่องเที่ยวที่เลือกใช้เวลาเดินเที่ยวเมืองฝั่งริมน้ำ สามารถเดินไปตามถนนที่ปูด้วยหิน เข้าและออกร้านบูติก ร้านอาหาร และร้านน้ำชาที่หรูหราที่ตั้งอยู่บนทางสู่แม่น้ำเทมส์

น็องต์ ถือเป็นหนึ่งในเมืองเกิดใหม่ที่กำลังพัฒนาด้านวัฒนธรรมและมีสีสันที่สุดในประเทศฝรั่งเศส เมืองนี้จึงเปิดเผยให้เห็นนวัตกรรมของตนอย่างหมดเปลือก จากการเป็นที่อยู่ของนักศิลป์ วิศวกร และนักเรียนนักศึกษา ทำให้ทัศนียภาพที่เห็นเส้นขอบฟ้าของเมืองที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงนี้มีรากฐานมาจากยุคกลางและมรดกทางการเดินเรือที่รุ่งเรือง

ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันหรือกลางคืน เมืองรีสอร์ทสลีมาก็มีกิจกรรมให้ทำมากมาย มีโบสถ์ทางประวัติศาสตร์ หอสังเกตการณ์ และป้อมปราการเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณ ขณะที่ริมน้ำก็มีร้านค้าในท้องถิ่น ร้านอาหาร บาร์ หรือจะลองเดินเล่นไปเรื่อยๆ เพื่อชมวิวทะเลเมดิเตอเรเนียนที่สวยงามระยิบระยับ

ภูเขาแคสเคด (Cascade Mountain) ที่อยู่ทางเหนือและภูเขาซัลเฟอร์ (Sulphur Mountain) ที่อยู่ทางใต้ทำให้เมืองแบมฟ์ (Banff) ขึ้นชื่อว่ามีที่ตั้งอันงดงามในบริเวณเทือกเขาร็อกกีของแคนาดา นักท่องเที่ยวมีตัวเลือกต่างๆ ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่พักสุดหรู ปุยหิมะขาวบริสุทธิ์ ร้านอาหารชื่อดัง ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แบมฟ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนตลอดทั้งปี ทั้งในส่วนของร้านค้า สปา และลานสกี ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูหนาวก็ตาม