บาริซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นปูเกลียและเป็นหนึ่งในเมืองที่โดดเด่นที่สุดในอิตาลีตอนใต้ได้ผสมผสานความงดงามริมทะเลกับเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ เมืองมหาวิทยาลัยแห่งนี้ซึ่งเป็นท่าเรือสำราญที่สำคัญในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนยังมีชื่อเรื่องเมืองเก่าแก่ที่มีโบสถ์ ลานโล่งที่สวยงาม และเพชรในตมที่น้อยคนจะรู้จัก

รีบไปมาเทรา (Matera) ให้เร็วที่สุด เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่รู้จักที่แห่งนี้ เมื่อไปถึงแล้ว ให้แวะเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาตโดเมนิโก ริโดลา (Domenico Ridola) แต่สิ่งที่ทำให้มาเทราเป็นที่รู้จักและกลายเป็นมรดกโลกขององค์การ UNESCO อีกแห่งหนึ่งนั่นก็คือถ้ำพักอาศัย ("i sassi") ที่กระจายตัวครอบคลุมเป็นบริเวณกว้างทางตอนใต้สุดของเมือง ถ้ำพักอาศัยเหล่านี้เดิมเป็นที่อยู่ของพระที่ครองตนตามกฎของเซนต์ เบเนดิก และเซนต์ บราซิล คุณจะเห็นห้องพัก, ห้องสวดมนต์ หรือแม้แต่โบสถ์ รวมทั้งการประดับประดาด้วยของตกแต่งในยุคบายแซนไทน์และจิตรกรรมฝาผนังปูนเปียกมากมาย

ด้วยพื้นที่ที่เป็นไร่องุ่นและสวนมะกอก มีเมืองบนภูเขาที่ขาวโพลนและชายหาดสีทองจากแสงแดด ทำให้เมืองทางใต้ของอิตาลีนั้นมีทัศนียภาพที่เหมาะสำหรับถ่ายภาพอยู่ในทุกๆ จุด นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่สร้างความประหลาดใจได้อยู่สองสามแห่งเช่นกัน รวมถึงเมืองแบบบาโรกแห่งเลกเซและหุบเขาอิเตรีย ที่มีบ้านแบบตรูลีที่ได้รับการบันทึกของยูเนสโกอีกด้วย

ภูมิภาคปูเกลียในอิตาลีตอนใต้เป็นที่รู้จักจากบ้านทรงกรวยยอดสีขาวและเมืองอัลเบโรเบลโล ที่มีบ้านหินตรูลีนับพันหลังซึ่งขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโกเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบเหมาะสำหรับการค้นพบ

เมืองแบร์กาโม (Bergamo) เปรียบเสมือนขุมทรัพย์อันล้ำค่าทางตอนเหนือของอิตาลี นับตั้งแต่ 49 ปีก่อนคริสตกาล แบร์กาโมมีศูนย์กลางสองแห่ง ได้แก่ เมืองอัลตา (Alta) ทางตอนบน และเมืองบัสซา (Bassa) ทางตอนล่าง ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยกระเช้าไฟฟ้าและเส้นทางเดินป่า  ใครอยากเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ควรไปชมจัตุรัส Piazza Vecchia, มหาวิหาร Cattedrale di Bergamo e Battistero และหอบัพติศมาของมหาวิหาร Basilica di Santa Maria Maggiore รวมทั้งสุสานแปลกตาของรัสเตลลี (Rastelli) นักโยนของเล่นกลชื่อดังระดับโลก ส่วนเมืองบัสซาเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและมีความทันสมัยมากกว่า อีกทั้งยังมีย่าน Via 20 Settembre ซึ่งแหล่งช้อปปิ้ง