ด้วยการมาบรรจบกันของแม่น้ำไรน์และแม่น้ำโมเซล และทัศนียภาพของหุบเขาลุ่มน้ำไรน์ที่ได้รับการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกของยูเนสโกเมืองโคเบลนซ์จึงเต็มไปด้วยทิวทัศน์สวยงามที่คุ้มค่ากับการถ่ายภาพ ป้อมปราการในยุคกลางที่อยู่บนยอดเขาและอาคารแบบโรมาเนสก์ที่สวยงามน่าประทับใจทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดเลียบแม่น้ำไรน์

อาเคิน (Aachen) ที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองหลวงของอาณาจักรแฟรงก์ (Frankish) ของชาร์เลอมาญ (Charlemagne) ในวันนี้เมืองนี้ตั้งอยู่บนรอยต่อระหว่างเยอรมนี, เนเธอร์แลนด์ (ชาวดัชท์รู้จักเมืองนี้ในชื่อ อาเคน (Aken)) และเบลเยี่ยม (ที่ซึ่งกลุ่ม "วาลูนซ์" (Walloons) เรียกเมืองนี้ว่าเอซ์-ลา-ชาเปล (Aix-la-Chapelle)) แต่ประวัติศาสตร์ของอาเคินย้อนกลับไปยาวนานกว่าชาร์เลอมาญในศตวรรษที่ 8 มากทีเดียว นักรบโรมันในยุคศตวรรษที่ 1 ต่างชื่นชอบน้ำพุร้อนที่นี่ (รวมทั้งชาร์เลอมาญก็ชอบสปามากพอๆ กับคนที่แช่อยู่ข้างๆ คุณ) วิหารอาเคิน (Aachen Cathedral) ซึ่งเป็นวิหารที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตอนเหนือและเป็นมรดกโลกขององค์การ UNESCO เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของที่นี่

ลืมรองเท้านำแฟชั่นของคุณไปก่อน เฉพาะรองเท้าที่ใส่สบายเท่านั้นนะจึงจะเหมาะสำหรับคิลลาร์นีย์ เมืองนี้เป็นเมืองสำหรับการเดินเท้า และแต่ละเส้นทางก็คือบทเรียนประวัติศาสตร์อีกบทหนึ่ง เดินไปตามอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอร์แลนด์ซึ่งมีพื้นที่ถึง 26,000 เอเคอร์ที่ประกอบไปด้วยป่าไม้ ภูเขาหินทราย และทะเลสาบระดับต่ำ เมื่อเท้าคุณเริ่มรู้สึกเมื่อยล้า คุณสามารถขึ้นเรือจากปราสาทรอสเพื่อเข้าชมอุทยานแห่งชาติคิลลาร์นีย์ได้ และเนื่องจากคิลลาร์นีย์มีโรงแรมมากกว่าเมืองอื่นๆ ในไอร์แลนด์ (ยกเว้นดับลิน) คุณก็สามารถหาที่สำหรับเอนหลัง (และพักขา) ของคุณได้อย่างไม่ยากเย็น

บรรยากาศข้างถนนให้ภาพต่างๆ ที่แสดงออกถึงความประทับใจครั้งแรกที่คุณได้มาเยือนอาบูดาบี เมืองหลวงที่ทันสมัยของสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์แห่งนี้แสดงให้เห็นถึงประเพณีดั้งเดิมและความก้าวหน้าที่ผสมผสานกันอย่างหน้าทึ่ง ย้อนประวัติศาสตร์อันยาวนานกลับไปประมาณ 3000 ปีก่อนคริสต์ศักราช อาบูดาบียังคงรักษาบรรยากาศสไตฃ์อาหรับได้ดีกว่าในดูไบ แท็กซี่นั้นปลอดภัย และเชื่อถือได้และมีวิ่งให้บริการทั่วสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อย่าง อุทยานคอร์นิค ป้อมปราการขาว หมู่บ้านมรดก ซึ่งให้บรรยากาศชีวิตแบบเบดูดินและศูนย์หัตถกรรมสตรี

สัมผัสกับอาณานิคมเกาะสองแห่งได้ในพื้นที่ 37 ตารางไมล์ที่นี่ที่เดียว การรวมตัวกันอย่างจัดจ้านระหว่างเซนต์ Maarten/Martin ของทะเลคาริเบียน วัฒนธรรมฝรั่งเศสและดัชท์ที่หลากหลายแต่รวมอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน: