ในฐานะเมืองหลวงของอะโซร์ส เมืองปงตาแดลกาดาทำหน้าที่เหมือนประตูสู่ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงของหมู่เกาะ ภูเขาไฟ และแนวชายฝั่งที่เต็มไปด้วยโขดหินมากมาย ตัวเมืองผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยเข้าไว้กับโบสถ์สไตล์โกธิค ป้อมปราการที่มีประวัติศาสตร์ และโรงแรมขนาดเล็กสไตล์โปรตุเกสดั้งเดิม

เมื่อนึกถึงเซอร์แมตต์ คนส่วนมากจะต้องนึกถึงสิ่งเดียวกัน นั่นคือภูเขาแมทเทอร์ฮอร์น ไอคอนสำคัญของสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเมืองเซอร์แมตต์ ซึ่งเริ่มดึงดูดนักท่องเที่ยวมาที่นี่เป็นครั้งแรกในช่วงปี 1860 หมู่บ้านเซอร์แมตต์นั้นเป็นหมู่บ้านปลอดรถยนต์ที่มีบรรยากาศสบายๆ น่าหลงใหล เต็มไปด้วยชาเลต์ทรงโบราณสีน้ำตาลและตรอยซอกซอยที่คดเคี้ยว (ไม่ต้องกังวลไป คุณไม่จำเป็นต้องเดินไปที่ไหนเองหรอก เพราะที่นี่มีรถไฟฟ้าและรถม้าไว้บริการ) ในพื้นที่นี้ จะสามารถเล่นสกีได้จนถึงช่วงต้นฤดูร้อน แต่เมื่ออากาศเริ่มอุ่นขึ้น ก็จะเหมาะสำหรับการเดินทางไกลอย่างยิ่ง

เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์เป็นศิลปะร่วมสมัยและแหล่งช้อปปิ้ง งานศิลปะที่สำคัญมีให้เลือกชมในพิพิธภัณฑ์คันส์ตัสและรีทเบิร์ก ผู้ที่ถือว่าการช้อปปิ้งเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งสามารถฝึกฝนทักษะได้ที่ Bahnhofstrasse และ Niederdorf หน้าต่างกระจกสีของชากัลที่โบสถ์ฟรัว มีนสเตอร์นั้นน่าทึ่ง คลับและบาร์รวม 500 แห่ง พร้อมสระว่ายน้ำ ช่วยให้จังหวะชีวิตของคุณไม่หยุดนิ่งไปจนถึงรุ่งเช้า เมืองที่ตั้งอยู่บนทะเลสาบซูริคนี้มีระบบการขนส่งสาธารณะที่ดีและจักรยานให้เช่าฟรี

เมืองเก่าที่น่าหลงใหลอีกเมืองหนึ่งบนทะเลสาบการ์ดา (Garda) ก็คือ มัลเชซิเน (Malcesine) ซึ่งเป็นสถานที่พักตากอากาศที่สวยงามที่เชิงปราสาท Castello Scaligero เพลิดเพลินไปกับวันช้อปปิ้งสบายๆ ในเมือง (อย่าลืมแวะร้านกาแฟกลางแจ้งที่มีวิวทะเลสาบสักร้าน) หรือถ้าคุณรู้สึกกระสับกระส่ายอยากขยับแข้งขยับขา ก็นั่งรถกระเช้าไปภูเขามอนเต บาลโด (Monte Baldo) เพื่อเล่นสกีในฤดูหนาว หรือเดินทางไกลในฤดูร้อนก็ได้เช่นกัน

เชเซนาติโกที่ตั้งอยู่ริมทะเลและเป็นจุดเด่นของริเวียร่าของแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญาถูกล้อมไปด้วยน้ำ: เลโอนาร์โด ดา วินชี ได้ออกแบบคลองท่าเรือที่โดดเด่นของเมือง และแนวชายฝั่งทะเลเอเดรียติกก็ถูกล้อมรอบด้วยชายหาดสีทอง พิพิธภัณฑ์ทางทะเลในท้องถิ่นและสวนน้ำเป็นสถานที่ที่เพิ่มความสนุก