ไปเล่นว่าวที่เมืองวาเนอมึนเดอ เมืองที่มีลมทะเลพัดแรงออกสู่ทะเลบอลติกเสมอๆ พร้อมด้วยร้านค้าพื้นเมืองมากมายที่ขายว่าวซึ่งประดับด้วยสีสันสดใสให้แก่คุณ ชายหาดอันกว้างใหญ่ที่ปากแม่น้ำวาร์โนว์เชื้อเชิญให้คุณไปนอนอาบแดด ในขณะที่ทะเลก็เหมาะสมมากสำหรับการแล่นเรือใบหรือการล่องเรือเช่ายามบ่าย ถ้าคุณต้องการเห็นมุมมองแบบพาโนรามิคที่ดีที่สุด คุณต้องแวะไปที่ประภาคาร

ด้วยปราสาทแบบโกธิค อาคารสไตล์เรเนสซองส์ที่หรูหรา และบ้านเรือนหลังคาจั่วที่เรียงรายกันเป็นแถว การเดินเล่นไปรอบๆ เมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นบัญชีของยูเนสโกในลือเบ็คจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้เดินเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย สถานที่ทางสถาปัตยกรรมที่หายาก ทางสัญจรที่มีลมพัดเย็นสบาย และสนามที่เรียงรายไปด้วยร้านกาแฟต่างสร้างความประทับใจรูปแบบใหม่ของเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้

Ahoy, Kiel! เมืองโอลิมปิคนี้เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมการแข่งเรือใบระดับนานาชาติ โดยรวมถึงสัปดาห์ คีเอล (Kiel Week) ที่รู้จักกันแพร่หลายซึ่งจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปีตั้งแต่ปี 1882 เป็นต้นมา เมืองที่เริ่มต้นจากการเข้ามาตั้งรกรากของชาวไวกิ้งนี้ได้เติบโตขึ้นตามกาลเวลา โดยในปัจจุบันได้มีร้านอาหาร, การช้อปปิ้ง และความบันเทิงสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย เดินเล่นในสวนพฤกษศาสตร์ที่เขียวชอุ่ม และชมเรือประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่ลอยอยู่ที่ท่าเรือ

ชายหาดที่ทอดตัวยาวอยู่ระหว่างเนินทรายและทะเลบอลติกบนคาบสมุทรฟิชลันด์-ดารสส์-ซิงส์ หาดทรายที่ซิงส์นุ่มละเอียด เหมาะสำหรับการอาบแดด และสปาทรีตเมนท์จากธรรมชาติของซิงส์ก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน นักท่องเที่ยวมากมายจึงหลั่งไหลมาที่ซิงส์ นอกจากนี้สำหรับคนรักธรรมชาติ บนคาบสมุทรยังเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ซึ่งเป็นจุดแวะพักระหว่างการอพยพของฝูงนกกระเรียนยุโรปนับพันตัวอีกด้วย

ฮัมบูร์กเป็นเมืองที่มีขนาดและประชากรน้อยกว่าเบอร์ลินเพียงเมืองเดียวเท่านั้น และยังเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปอีกด้วย เดินเล่นไปตามทางเดินริมน้ำและคลองที่มีอยู่มากมาย แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมที่นี่จึงเคยถูกขนานนามว่า "เวนิสทางเหนือ" อย่าพลาดการแวะชมตลาดปลาพื้นเมือง เขตเมอร์เชนท์ ที่รู้จักกันดีจากสถาปัตยกรรมที่ใช้อิฐสีแดง ร้านอาหารริมน้ำชั้นเยี่ยม หรือการเที่ยวกลางคืนในย่านมหาวิทยาลัย เอ ... เราได้เอ่ยถึงย่านโคมแดงไปหรือยังนะ ที่นี่ขึ้นชื่อมากเกี่ยวกับ ... โคมแดง

นิจเมเจนมีอายุกว่า 2,000 ปีและเปี่ยมไปด้วยความสำราญใจ บรรยากาศของเมืองที่เปลี่ยนจากค่ายทหารโรมันมาเป็นเมืองที่ทันสมัยไม่ใช่เรื่องง่าย แต่วันนี้เมืองแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดเนื่องจากมีนักเรียนนักศึกษาอาศัยอยู่จำนวนมากและเป็นศูนย์รวมกิจกรรมทางการเมือง ลองเยี่ยมชมเมืองในช่วงเทศดกาลนิจมีส์ เวียร์แดกส์สำหรับเดินชม 4 วันและปาร์ตี้โซเมอร์ฟีสทีนช่วงหน้าร้อน ทั้ง 2 งานจัดขึ้นพร้อมกันเลย

เรเกนสบวร์ก (Regensburg) เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นโดยชาวโรมันในคริสต์ศักราชที่ 179 โดยเรียกว่า Casta Regina (หมายถึง ป้อมปราการใกล้แม่น้ำเรเกน) เป็นเมืองที่รอดพ้นมาจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบันมีผู้คนมากมายพากันมาเยี่ยมชมเมืองเก่าแก่ที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ดีเยี่ยม รวมทั้งสิ่งก่อสร้างในยุคกลางจำนวนมากในเมืองนี้ นักรบครูเสดใช้สะพานหินสมัยศตวรรษที่ 12 เป็นเส้นทางไปยังดินแดนปาเลสไตน์ โบสถ์ Regensburg Cathedral (หรือ Dom St. Peter) เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่มีความประณีตงดงามที่สุดของเยอรมนีตอนใต้

น้ำทะเลสีฟ้าครามที่โคท ดาซูร์คถือเป็นฉากหลังอันอลังการงานสร้างของเมืองนีซที่หรูหรา สูดอากาศเมดิเตอร์เรเนียนแสนสดชื่นให้เต็มปอดระหว่างเดินเล่นริมถนนเลียบชายหาด หรือชมทัศนียภาพของเมืองจากวิวสูงได้ที่คาสเซิลฮิลล์ Place Rossetti เป็นย่านทางเท้าในใจกลางเมือง พร้อมพรั่งไปด้วยน้ำพุยักษ์ อาคารที่ดูคึกคักมีชีวิตชีวา และวิหาร Sainte-Réparate ที่สวยงามให้บรรยากาศต่างจังหวัดแบบฝรั่งเศสอย่างเต็มเปี่ยม