ปราสาทวาเวล (The Wawel Castle), Main Square, โบสถ์เซนต์แมรี (St. Mary's Church) และย่าน Kazimierz ล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองคราคูฟ ซึ่งเป็นเมืองที่มีรายชื่ออยู่ในรายการแรกของแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และเต็มไปด้วยขุมทรัพย์แห่งประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม เมืองที่เลื่องชื่อด้านมรดกทางวัฒนธรรมแห่งนี้ยังกลายมาเป็นศูนย์กลางแห่งมรดกทางด้านการชิมอาหารของยุโรปอีกด้วย ในปี 2019 เมืองคราคูฟได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมการชิมอาหารของยุโรปโดยสถาบันการชิมอาหารแห่งยุโรป (European Academy of Gastronomy) คราคูฟเป็นเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยวัฒนธรรมอย่างเต็มรูปแบบ ในแต่ละปี เมืองหลวงของเลสเซอร์โปแลนด์แห่งนี้จะเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลเกือบ 100 งานและกิจกรรมระดับนานาชาติอื่นๆ อีกมากมาย

โปแลนด์ทางตอนใต้ที่มีเทือกเขาทาทร้า (หรือที่ท้องถิ่นเรียกว่าทาทรี) ที่เป็นชายแดนทางตอนใต้ของประเทศติดกับสโลวาเกียประกอบด้วยสามจังหวัด คือ ออปอแล, ไซลีเซีย และเลสเซอร์โปแลนด์ (มาวอปอลสกา) สามารถพบปราสาทสวยงามที่สร้างขึ้นในยุคกลางได้มากมายภายในภูมิภาค รวมถึงปราสาทมอซนาในออปอแล และปราสาทชอซ (Ksiaz) ขนาดใหญ่ที่มีห้องถึง 400 ห้องในไซลีเซีย เลสเซอร์โปแลนด์เป็นที่ตั้งของเมืองกรากุฟ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของประเทศ เทือกเขาของภูมิภาคและพื้นที่สีเขียวนั้นเหมาะสำหรับการผจญภัยกลางแจ้งเป็นอย่างมาก

ถ้าคุณกำลังมองหาวันหยุดพักผ่อนเพื่อเล่นกีฬาฤดูหนาว คุณจะพบว่าไม่มีสถานที่เล่นกีฬาฤดูหนาวที่ไหนที่สวยงามไปกว่าอินเทอลาเคน (Interlaken) เมืองรีสอร์ทยอดนิยมของสวิสเซอร์แลนด์ ที่นี่มีการเล่นสกีขั้นสูง, ลานเล่นเลื่อนหิมะ, เส้นทางลากเลื่อนที่ยาวหลายไมล์ (ซึ่งมีระดับความยากง่ายหลายระดับเช่นเดียวกับทางสกี), สโนว์บอร์ด ... พร้อมด้วยทัศนียภาพที่งดงามของเทือกเขาในทุกจุดที่คุณเล่น ในฤดูร้อน เดินทางไกลท่ามกลางแพะภูเขาไอเบ็กซ์ (Ibex) ที่บริเวณใกล้กับไนเดอร์ฮอร์น (Neiderhorn) หรือซื้อนาฬิกาใหม่สักเรือนที่ร้านบูติคในเมือง

คุณจะได้พบกับความงามที่ไม่มีการปรุงแต่งและจังหวะชีวิตที่เนิบนาบในชิงเคว เทอร์เร (Cinque Terre) ด้วยชื่อที่มาจากเมืองทั้งห้าแห่ง นั่นคือ มอนเตรอสโซ (Monterosso), เวรนาซซา (Vernazza), คอร์นิจิเลีย (Corniglia), มานาโรลา (Manarola) และริโอมาจยอเร (Riomaggiore) บริเวณส่วนนี้ของอิตาเลียน ริเวียร่า (Italian Riviera) เป็นมรดกโลกขององค์การ UNESCO อีกแห่งหนึ่ง ที่นี่ไม่อนุญาตให้ใช้รถยนต์ คุณต้องขึ้นรถไฟท้องถิ่นหรือเรือเฟอร์รี่เพื่อเดินทางระหว่างเมืองแต่ละเมือง หรือเดินไปตามเส้นทางเดินทางไกลที่สวยงามซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองต่างๆ

ตั้งแต่สไตล์สุดแนวของชอร์ดิตช์ไปจนถึงสไตล์พังก์ของแคมเดนก์ และถนนพอร์โตเบลโลสุดเก๋ ลอนดอนเต็มไปด้วยความหลากหลาย ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้พบสิ่งที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละวัน สำรวจแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับราชวงศ์หรือสถานที่สำคัญประวัติศาสตร์ รวมทั้งเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของลอนดอนให้ครบถ้วน กินและดื่มในร้านอาหารระดับดาวมิชลิน เพลิดเพลินไปกับการดื่มในผับแบบดั้งเดิม หรือเดินเล่นบนถนนที่ปูด้วยหินที่คดเคี้ยวและดูว่าคุณจะเจอกับอะไรโดยบังเอิญบ้าง เมื่อพูดถึงลอนดอน โอกาสเหล่านี้ไม่มีที่สิ้นสุด

เกาะที่มีน้ำขึ้นและน้ำลงอย่างรวดเร็วแห่งนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นคุกที่อื้อฉาวในระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส ในวันนี้ ผู้คนต่างเลือกที่จะมาที่นี่โดยไม่มีใครบังคับเพื่อเที่ยวชมวัดที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11, ทานอาหารในร้านอาหารชั้นยอด และสัมผัสกับความสว่างไสวยามค่ำคืนที่น่าประทับใจ มีเพียงแค่ทางเดินแคบๆ ที่สร้างขึ้นในปี 1880 เท่านั้นที่เชื่อมเกาะแห่งนี้เข้ากับแผ่นดิน แต่อย่างไรก็ตาม โครงการสะพานเชื่อมก็มีกำหนดที่จะแล้วเสร็จในปี 2012

น้ำตกไนแองการ่าแต่เดิมเคยเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคู่รักฮันนีมูนและครอบครัว และบัดนี้ได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นหฤหรรษ์ ตัวน้ำตกถือเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวชั้นดี เพียงแค่ได้มาชมสายน้ำตกขาวไหลแรงเป็นฟองยาวก็ดูเพลินจนไม่อยากถอนสายตา สวมเสื้อกันฝนแล้วกระโดดลงเรือเมดออฟเดอะมิสต์ ล่องเข้าใกล้สายน้ำตกอีกหน่อย แค่นี้ร่างทั้งร่างก็จะเปียกโชกไปด้วยละอองน้ำอันมหาศาล ตบเท้าไปยังถนนสายหลักของคลิฟตันฮิลล์เพื่อเดินชมแหล่งท่องเที่ยวน่าตื่นตาตื่นใจและแหล่งรวมร้านอาหารมากมาย