น่าเสียดาย ที่พักแห่งนี้สัญญาจะมอบประสบการณ์ที่พูดสั้นๆคือไม่มีอยู่จริงแก่คุณ ทำเลของโรงแรมฟังดูน่าอัศจรรย์ เราเลยจองห้องพักไปฮันนีมูนกัน 5 คืน แต่พอมาถึงก็ชัดเลยว่าที่นี่คุณหาความสงบไม่ได้หรอก เพราะเรือหางยาวมันวิ่งผ่านไปมาหน้าบังกาโลตั้งแต่ 7 โมงเช้า แล้วมันวิ่งไม่หยุดเลยนะทั้งวัน พวกเราพักอยู่บังกาโล 4 ซึ่งเวลานั่งอยู่นอกระเบียง จะคุยกันไม่รู้เรื่องเลยถ้าเรือมันกำลังแล่นผ่าน ใส่ที่อุดหูแล้วมันก็ยังปลุกตื่นทุกเช้า สำหรับใครก็ตามที่รักความเงียบ สงบ และผ่อนคลายเวลาหยุดพักผ่อน ฉันแนะนำให้หลีกเลี่ยงโรงแรมแห่งนี้เต็มที่ พวกเราเช็คเอาท์หลังพักไปแค่ 2 คืน แต่เค้ายังคิดเงินเรา 4 คืนแหนะ เพราะว่าผนังห้องบังกะโลแห่งนี้มีช่องว่างที่เป็นรูโหว่มากมาย ทำให้เหมือนรู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรเข้าออกตลอดเวลาแทนที่จะเหมือนกับมารับบรรยากาศนอนในป่า ซึ่งในความรู้สึกชนิดที่ว่าตอนกลางคืนอาจไปยืนทับแมลงสาบอบู่หรือพบมันในช่วงเช้า รู้สึกเหมือนกับว่ามีสิ่งมีชีวิตไต่อยู่บนตัวคุณในขณะที่กำลังอาบน้ำ มีแมลงมากมายมาเกาะอยู่ที่มุ้งกันยุงในตอนกลางคืนที่คุณกำลังนอนรับ ยังมีแมลงอีกมากที่บินไปติดอยู่ในพัดลมและส่งเสียงออกมา อาหารเช้าที่นี่โอเคแต่ธรรมดาเกินไปถ้ากินแบบนี้มากกว่าวันสองวันคงน่าเบื่อ ซึ่งสุดท้ายในวันท้ายๆของพวกเรากินพวกขนมเป็นอาหารแทนอาหารเช้าที่เขาเตรียมไว้ให้ (เพราะว่าเขาจะมีอาหารเช้าไว้ให้ในตู้เย็นให้พวกคุณไปอุ่นทำกันเอง) มันคงจะดีกว่านี้ถ้าในห้องเรามีผ้าม่านเหมาะๆสักหน่อย ที่เขาจัดให้มันปิดหน้าต่างแค่ครึ่งเดียว ดังนั้นถ้าเรือหางยาวไม่ปลุกคุณตื่น แสงอาทิตย์รุ่งเช้าปลุกคุณแน่ๆ ทางโรงแรมปิดไฟประมาณห้าทุ่ม แต่เพราะเรากลับมาถึงที่พักดึกกว่านั้น มันค่อนข้างอันตรายเวลาขึ้นลงบันได เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ (แม้เขาจะจุดคบไฟไว้ให้ก็ตาม) พวกเรารู้สึกผิดหวังอีกเช่นกันที่มีการก่อสร้างในบริเวณ ‘The Big Lebowski’ ซึ่งอยู่ตรงหน้าบังกะโล ในสายตาเราพอดี เราถามแล้วนะว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรือไม่ แล้วเขาก็รับรองว่า "ไม่อย่างแน่นอน" งานก่อสร้างนี้จะมีขึ้นในช่วงปลายฤดูซึ่งทางโรงแรมจะปิดให้บริการเท่านั้น ถ้าลองมองในแง่ดี อาหารที่ร้านอาหารของโรงแรมนั้นอร่อยเยี่ยม ส่วนเครื่องดื่มค็อกเทลก็เริ่ด! พนักงานโรงแรมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้งานบริการออกมาดี (พอมาถึงโรงแรมเขาก็นำอาหารมื้อแรกมาเสริ์ฟพร้อมแชมเปญอีกหนึ่งขวด เป็นของขวัญวันฮันนีมูน) แต่พวกเขาก็คงเอาใจทุกคนไม่ได้หรอก ในความเห็นส่วนตัวของเรา ทางโรงแรมไม่ซื่อตรงในเรื่องของสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังจะได้รับเวลาเข้าไปพักที่นี่ ในชีวิตนี้ เราไม่เคยจองที่พักที่ไหนไว้ 5 คืนแล้วอยู่กันแค่ 2 คืน แต่จ่ายเงินสำหรับ 4 คืนเลยนะ ต่อไปจะไม่ทำอะไรผิดพลาดแบบนี้อีกแล้ว

พวกเราเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ ช่วต้นเดือนเมษายน 2012 และเข้าพักที่ Serendipity Resort

พวกเราจองที่พักโดยการติดต่อผ่านทางอีเมล์ พนักงานที่ชื่อเจย์ตอบอีเมล์กลับอย่างรวดเร็ว เมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง ฉันได้สอบถามการเดินทางจากหาดใหญ่ไปที่รีสอร์ท ซึ่งพวกเราได้รับคำแนะนำจากทางรีสอร์ทตามที่ต้องการ
สิ่งแรกที่ประทับใจคือ เมื่อพวกเราเดินทางมาถึงท่าเรือของหาดพัทยา พวกเราได้รับการต้อนรับจากพนักงานขับเรือหางยาวของรีสอร์ท ซึ่่งพวกเราต้องขึ้นเรือหางยาวต่อ สำหรับการเดินทางไปที่รีสอร์ทที่หาดซันไรซ์ คาร์ล เมเนเจอร์ของรีสอร์ทแห่งนี้ออกมารอต้อนรับพวกเรา พร้อมกับน้ำผลไม้ ผ้าเช็ดหน้า และนำทางพวกเราไปที่วิลล่าที่พัก คาร์ลพาพวกเราเดินสำรวจรอบที่พัก พร้อมกับอธิบายสิ่งอำนวยความสะดวก และบริการต่างๆของรีสอร์ท
พวกเราเลือกพักที่เป็นวิลล่า แบบห้องแอร์ ติดริมทะเลโชคดีที่วิลล่านั้นตั้งอยู่บริเวณต้นเนินเขา โดยเดินขึ้นไปประมาณ 100 ก้าวจากระดับน้ำทะเล ซึ่งตรงตามความต้องการของพวกเรา ไม่จำเป็นต้องขึ้นไปพักในวิลล่าที่อยู่สูงกว่านี้ อย่างไรก็ตามการเดินขึ้นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเรา วิลล่าที่พักมีขนาดใหญ่เพียงพอ สำหรับสัมภาระและการเข้าพักสองคน สัมภาระของพวกเราจะมีแต่สิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการเดินทางเท่านั้น เช่น รองเท้าสำรอง （ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน） ตามที่ได้อ่านหลายๆรีวิวของที่พักแห่ง ข้อดีที่เห็นได้ชัดก็คือ ทำเลที่ตั้ง
วิวทิวทัศน์ที่มองเห็นได้จากวิลล่านั้นงดงาม จับตาต้องใจยิ่งนัก ทำเลที่ตั้งของวิลล่าอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เงียบสงบ ไม่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน หรือแหล่งชุมชน เมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้า สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามของทะเลได้อย่างชัดเจน มีความเป็นส่วนตัวมาก อีกทั้งพวกเราคิดว่าไม่จำเป็นต้องเลื่อนผ้าม่านปิดเลย ฉันไม่แน่ใจว่าวิลล่าที่อยู่ด้านล่างจะเป็นอย่างไร เพราะเนื่องจากการออกแบบตกแต่งของที่นี่เป็นแบบธรรมดา ตามแบบดั้งเดิม โดยอาศัยการตกแต่งเพียงเล็กน้อยจากช่างไม้มืออาชีพ อย่างไรก็ตามการตกแต่งดีไซน์โดยรวมถือว่าดูดีทีเดียว ทำให้ที่พักแห่งนี้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
สิ่งอำนวยความสะดวกของวิลล่ามีเยอะ - เตียงมีมุ้งคลุมซึ่งพนักงงา่นโรงแรมจะมากางให้ในช่วงเย็นพร้อมกับจุดยากันยุงให้ด้วย วิลล่ามีชาให้เลือกดื่มหลายยี่ห้อ มีกาแฟสดบดซึ่งจะเติมทุกๆวัน ห้องอาบน้ำ มันดีมากเพราะมีฝักบัวน้ำร้อนให้ด้วย ชั้นรู้ว่ามีคนวิจารณ์เกี่ยวกับคุณภาพของฝักบัวแต่ขอให้นึกถึงว่าน้ำบนเกาะไม่ได้หาง่ายๆ ชั้นเห็นว่าไม่ควรที่จะบ่นอะไรมากนัก
ขอคอมเม้นท์ 1 อย่าง - ก๊อกน้ำที่อ่างล่างมือรั่ว - มันรั่วมาพักใหญ่แล้วเพราะว่ามันทำให้ฐานทองเหลืองกร่อน มันน่ารำคาญนะ แต่ขอพูดตรงๆว่าขี้เกียจขอให้ทางโรงแรมมาจัดการ
ลานข้างนอกขนาดกว้างดี มีเปลและหมอนให้นอน ราวระเบียงค่อนข้างต่ำโดยเฉพาะตรงบริเวณที่ยื่นออกมา เราจะัระวังนิดนึงถ้าหากพาเด็กๆมาด้วยเพราะว่าทางลาดลงนั้นค่อนข้างชัน ที่ขอติอย่างแรงเกี่ยวกับวิลล่าคือระบบความปลอดภัยเพราะว่าไม่มีตู้เซฟ ตามกำหนดเราต้องได้สิ่งเหล่านี้ ประตูพับที่มีกลอนพร้อมด้วยกุญแจนิรภัยที่ต้องใส่รหัส
สำหรับรีสอร์ทระดับนี้เราคิดว่าการจัดเตรียมแบบนี้น่าผิดหวัง - เราไม่ได้คิดว่าช่องว่างระหว่างประตูพับนั้นดีมาก รีสอร์ทอื่นดูเหมือนจะมีล็อคประตูที่เหมาะกว่า และพยายามทำให้ประตูเลื่อนพอดีจนได้ แต่เราก็ไม่ได้มีปัญหากับทรัพย์สินมีค่าของเรา เพราะว่าไม่มีคนอยู่แถวนั้นเลย ทิ้งของในวิลล่าก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร
อาหารเช้าและห้องอาหาร
อาหารเช้าถูกวิจารณ์อย่างมากแล้ว สำหรับวันแรกๆนั้นก็อร่อยดี ผลไม้ ธัญพืช โยเกิร์ต ขนมปัง เค้ก ทั้งหมดอร่อยดี ได้มีโอกาสเลือกว่าจะกินอะไร ก็ดีเหมือนกัน บ่อยครั้งเราจะได้ทานขนมปังปิ้งและแยมในช่วงกลางวันด้วย เราได้ลองอาหารเช้าแบบฝรั่งซึ่งไม่ค่อยจะแตกต่างจากเดิมเท่าไหร่แต่จะเพิ่ม ไส้กรอกกระเทียมสองสามชิ้น นี่แหล่ะที่เราไม่ประทับใจ
หลังจากพักสองสามวันเราเลือกที่จะไม่ทานอาหารเช้าและไปทานไข่เจียวที่อยู่ห่างออกไปตามชายหาดเป็นบางครั้ง
ชั้นรู้ว่าคุณ Jay ได้บอกใบ้ว่าพวกเขากำลังพิจารณาตัวเลือกที่ดีๆในฤดูกาลหน้า - ในความเป็นจริงแล้วชั้นคิดว่ามันจำเป็น ชั้นรู้ในรีสอร์ทเล็กๆนั้นมันจะยุ่งยากเมื่อขอให้มีคนพร้อมทอดไข่ให้ตลอดเวลา แต่เราคิดว่ามันจะดีกว่านี้ ห้องอาหารไม่ได้มีราคาถูกที่สุดบนเกาะ แต่รสชาติอาหารอร่อยที่สุดเจ้าหนึ่ง ทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง และยังตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงามมากๆ สิ่งหนึ่งที่เราไม่เคยเข้าใจเกี่ยวกับราคานั้นคือ ทำไม Serendipity ต้องบวกภาษี 7% กับราคาที่โฆษณาไว้ทุกราคา ยกตัวอย่าง น้ำปั่นเพื่อสุขภาพมีราคา 120 + ภาษี! เท่าที่เราเห็นรีสอร์ทนี้เป็นรีสอร์ทเดียวบนเกาะแห่งนี้จึงสามารถผูกขาดราคาได้!
เสียง
จริงๆแล้วหนวกหูมาก - ทันทีที่ฟ้าสางเราจะกลายเป็นผู้ชมในการแข่งขันชิงแชมป์โลกเครื่องตัดหญ้า! คนที่คิดค้นเรือหางยาวลำแรกที่ใช้เครื่องยนต์เหล่านี้ต้องเป็นคนหูหนวกอย่างแน่นอน บางครั้งก็ดังอย่างไม่น่าเชื่อ ข้อดีของรีสอร์ทก็เป็นข้อเสียเช่นกัน การมีทำเลที่ตั้งอยู่ปลายหาด Sunrise แปลว่า รีสอร์ทอยู่ใจกลางเส้นทางเดินเรือหลักระหว่าง 2 ชายหาดที่คึกคักที่สุด และเนื่องด้วยการคมนาคมหลักของที่นี่คือ เรือ คุณสามารถเดาได้ว่าจะเจออะไร.
กล่าวได้ว่าที่นี่คือ ประเทศไทย และเรือก็เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวบ้าน หลังอยู่ได้ซักพักเราก็ชินกับทุึกอย่าง ที่น่าสนใจคือ ได้ยินว่ารีสอร์ทกำลังพยายามส่งเสริมให้ชาวบ้าน
ใส่เครื่องกรองเสียงสำหรับเครื่องยนต์ของเรือ - เราคิดว่าความหวังจะอยู่ที่เรือ 2 ลำนี้แล้ว Bob ก็เป็นหนึ่งในนั้น เราเห็นเรือหางยาวลำหนึ่งที่ติดเครื่องยนต์แบบ inboard - มันเงียบแต่ขาดส่วนที่เป็นเพลายาว เราสังเกตุได้ว่าเรือของทางรีสอร์ทยังไม่ได้ติดที่กรองเสียงเลย!
สัตว์ประจำถิ่น
ขอให้ระลึกไว้ว่าที่นี่เป็นเกาะเขตร้อน. สำหรับเราที่นี่ไม่เป็นปัญหากับเราเพราะสัตว์ที่นี่ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป ตัววิลล่ามีช่องที่ปิดไม่มิดชิดจึงไม่แปลกเลยที่บางครั้งเราจะใช้ห้องนอนร่วมกับเจ้าถิ่นแถวนี้ มุ้ง-ไม่ได้กันยุงแต่กันไม่ให้แมลงปีกแข็งบินเข้ามา ทุกๆคืนจะมีฝูงแมลงปีกแข็งมาฆ่าตัวตายโดยการชนมุ้งของเรา วิลล่าก็มีเจ้าถิ่นอื่นๆ เช่น ตุ๊กแก กบ กิ้งกือ และแมลงอีกนานาชนิด
ใช่แล้วเราทั้ง 2 ถูกกัด- แต่ไม่ใช่ยุงนะ - เห็นยุงอยู่บ้าง - แต่ที่กัดเรานั้นเป็นแมลงเล็กๆน่ารำคาญที่มองไม่เห็น. อีกหนึ่งสิ่งที่อยากบอกเกี่ยวกับที่นี่คือ การเดินกลับไปรีสอร์ทในตอนเย็น คุณต้องเอาไฟฉายไปด้วย - เพราะทางเดินกลับที่ต้องเดินผ่านหาด Sunrise และบริืเวณล่างของรีสอร์ทจะมืดมาก ตรงนี้แหล่ะที่ต้องระวังฝูงปูเสฉวนที่จะมาเดินเพ่นพ่านแถวนี้ยามมืดค่ำ บริเวณชายหาดของรีสอร์ทเป็นที่ว่ายน้ำที่เยี่ยมมาก - แต่อาจมีปัญหาตอนน้ำลงเพราะมีหินโสโครกเยอะ แต่น้ำใสแจ๋วเ้ลย
หน้ารีสอร์ทเป็นแหล่งสำหรับการดำน้ำตื้นอย่างดี รวมถึงบริืเวณเกาะทั้ง 2 ซึ่งห่างออกจากชายหาด โชคร้ายที่ปะการังใกล้เกาะหลีเป๊ะถูกทำลายไปเกือบหมด - ยังมีพันธุ์ปลาให้เห็นอย่างหลากหลายอยู่ แต่เมื่อเห็นว่าปะการังมันเสียหายมากขนาดนี้ก็รู้สึกเศร้ามาก. จริงที่ว่าชายหาดนี้จะหายไปเมื่อน้ำขึ้น จึงไม่สามารถอาบแดดได้ แต่ยังมีสิ่งอื่นให้เลือกทำอยู่มากมาย จึงไม่ใช่ปัญหา
ความเห็นโดยรวม
พนักงานที่รีสอร์ททุกคนดูแลใส่ใจดีมาก และทักทายเราเสมอด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ ระดับของการบริการสูงมาก และไม่มีปัญหาอะไรมาก
คุณCarl เป็นคนช่วยเหลือเราในการเดินทางมาที่นี่ เรารู้สึกว่าเขาช่วยเหลือและเป็นมิตรกับเรามาก. มีการวิจารณ์เกี่ยวกับคุณภาพของราวบันได - ใช่ คุณภาพมันไม่ยอดเยี่ยมแต่ถ้าหากระวังในการขึ้นลงก็ไม่น่าจะเกิดปัญหา รีสอร์ทแห่งนี้ราคาไม่ถูกและคิดค่าที่พักแพงระดับสูงสุด เราเชื่อว่ามีการขึ้นราคาสำหรับฤดูกาลปี 2012/2013 - ทำให้เรากังวลมากที่จะต้องมาพักที่นี่ เราไม่กังขาว่าที่ Serendipity เป็นรีสอร์ทที่มีโครงการและวางแผนมาอย่างดี
ทำเลที่ตั้ง ความเป็นส่วนตัว และการเอาใจใส่ลูกค้าในระดับบุคคล เป็นจุดเด่นที่สุดของรีสอร์ทแห่งนี้
แต่เรารู้สึกว่าคุณภาพวัสดุก่อสร้างและการตกแต่งสุดท้ายไม่ทำให้รีสอร์ทแห่งนี้ยอดเยี่ยมพอ จัดว่าดีมากๆแต่ไม่สุดยอด จริงๆแล้วอยากจะให้ 4 ดาวครึ่งนะ แต่รีสอร์ทนี้ไม่ได้ตามระดับนี้จริงๆ เราไม่สงสัยในความโด่งดังของ Serendipity เลยเพราะเราเคยเจอคนจำนวนหนึ่งบนเกาะที่อยากจะมาพักที่นี่ แต่ไม่สามารถทำได้เพราะว่ารีสอร์ทเต็ม รีสอร์ทกำลังอยู่ในระหว่างการสร้าง ‘The Big Lebowski’ ใหม่ ซึ่งมีสระว่ายน้ำสำหรับกระโดดใหม่
หากคิดที่จะใช้บริการจะต้องบวกเพิ่ม 300 ปอนด์ต่อคืน/2คน
ความจริงแล้วมีการก่อสร้างช่วงที่เราอยู่ เราจำได้ว่ารีสอร์ทถูกปิดเป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค. แต่ก็แปลกใจว่าทำไมต้องมาก่อสร้างในช่วงที่รีสอร์ทมีแต่แขก เราพอใจกับการเข้าพักมากที่ Serendipity และเราอยากขอขอบคุณคุณ Carl และคุณ Nu และทุกๆคนที่เกี่ยวข้องสำหรับการบริการที่ทำให้เราประทับใจอย่างยิ่ง โอ้วใช่แล้ว - เราเลือกพักที่นี่แม้ว่าจะมีสัญญาณเตือนซึนามิ
ความเห็นสุดท้าย - รอบเกาะเริ่มจะมีปัญหาเกี่ยวกับขยะอย่างมาก เห็นแล้วก็เศร้าหวังว่าจะมีการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว