สวัสดีครับ
ครั้งนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยว "เกาะหลีเป๊ะ" จังหวัดสตูล หลังจากรอคอยมานานนับปี เพราะจองเที่ยวบินและที่พักไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็ถึงเวลาไปเตร็ดเตร่ที่เมืองใต้กันหน่อยและ
(แต่ก่อนอื่น แจ้งเพื่อนๆ ก่อนครับว่า อุทยานแห่งชาติตะรุเตาเขาก็มีช่วงปิดเกาะน่ะครับ อันนี้ผมไม่ได้เช็คข้อมูลก่อนไป
เพราะไม่รู้ว่ามีปิดเกาะด้วย ผมเกือบพลาด สำหรับปี 2558 นี้ จะปิดทำการตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 58 ถึง 16 พฤศจิกายน 58
เนื่องจากเป็นช่วงมรสุม และเพื่อให้ปะการังฟื้นตัว เพราะฉนั้น โซนในและโซนนอกไม่อนุญาตให้เข้าไปดำน้ำครับ
แต่สามารถไปเที่ยวและพักบนเกาะหลีเป๊ะได้ตามปกติรวมถึงสามารถไปดำน้ำโซนตะวันออกได้ครับ)

สำหรับทริป 3 วัน 2 คืนนี้ มีสมาชิก 6 คน ครับ
ตั้งแต่วันที่ 15/5/58 - 17/5/58
พักกับ ศลิษารีสอร์ท
ค่าใช่จ่ายในทริปนี้น่ะครับ
- ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ(จองช่วงโปร)-------------------- คนละ 1145 บาท
- ค่ารถตู้รับส่ง จากสนามบินไปท่าเรือ ไป--------------------เหมาคัน 1800 ตกคนละ 300 บาท
(ค่ารถปกติ 250 แต่เราต้องเหมาไปเพราะถ้าขึ้นรอบปกติไม่ทันเรือ )
- ค่ารถตู้รับส่ง จากท่าเรือไปสนามบิน กลับ------------------คนละ 250 บาท
- ค่าเรือรับส่ง จากท่าเรือปากบาราไปเกาะหลีเป๊ะ ไป-กลับ--คนละ 1000 บาท
(สำหรับรถตู้และเรือ เราต้องโทรไปจองก่อนและบอกทางรถว่ามาเครื่อง flight ไหน ถึงกี่โมง
เราใช้บริการของบริษัท Jolly Travel ทั้งรถตู้และเรือ)
- ค่าธรรมเนียมผ่านท่าเรือปากบารา -----------------------คนละ 20 บาท
- ค่าเรือ Taxi ที่โป๊ะเทียบเรือ รับส่ง ไป-กลับ-------------คนละ 100 บาท
- ค่าธรรมเนียมอุทยานฯ------------------------------------คนละ 0 บาท
(ปกติคนละ 40 บาทครับ แต่ของเราอยู่ในช่วงปิดอุทยานฯเลยไม่ได้จ่ายครับ)
- ค่าที่พัก 3 วัน 2 คืน สำหรับ 6 คน------------------------คนละ 1633 บาท
(รวมอาหารเช้า 2 มื้อ สำหรับอาหารมื้ออื่นต้องซื้อทานเองครับ แต่ถ้าพักที่ศลิษารีสอร์ท ลด 10%)
- ค่าเรือพาไปดำน้ำ โซนใน+โซนนอก---------------------คนละ 416 บาท
(ค่าเรือพาไปดำน้ำแบบเหมาลำ 2500 บาท)

สรุปค่าใช่จ่าย ต่อคน ประมาณคนละ 4861 บาทครับ (ไม่รวมค่าอาหารมื้ออื่นน่ะครับ)

เริ่มต้นเดินทางกันแต่เช้า เหมือนอย่างเคยครับ นัดรวมพลกันก่อนที่สนามบินดอนเมือง
ความจริงเราสามารถไปลงได้สองที่น่ะครับ คือที่หาดใหญ่และที่ตรัง แต่สำหรับที่เลือกลง หาดใหญ่
เพราะน่าจะเดินทางได้ง่ายและสะดวกมากกว่าอีกอย่างเที่ยวบินเยอะกว่า เที่ยวรถเยอะกว่า สำหรับระยะทางก็พอๆกัน ครับ
มาถึงเวลา 11.00 พอเครื่องลงปุ๊บคนขับรถโทรมาปั๊บ บอกว่า รออยู่ด้านหน้าแล้ว รถทะเบียน....
เราก็โอเค รับทราบ เดินออกไปตามหารถตู้ตามที่เขาบอก รีบทำเวลาเพราะกลัวไม่ทันเรือรอบบ่ายโมงตรง
เราใช้บริการรถตู้และเรือของทาง Jolly Travel เพราะเท่าที่โทรสอบถามและดูจากราคา ก็ถือว่าใช้ได้ครับ
นั่งรถไปประมาณ 120 กว่ากิโล เกือบๆชั่วโมงครึ่งได้
เราต้องเดินไปตรงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมผ่านท่า คนละ 20 บาท
ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงโป๊ะเทียบเรือ
เราไม่ได้แวะตะรุเตาและเกาะไข่เนื่องจากขึ้นเรือรอบบ่าย ถ้าใครอยากแวะทั้งสองเกาะต้องขึ้นเรือรอบ เก้าโมงเช้าน่ะ
เราต้องต่อเรือ Taxi เพื่อไปรีสอร์ทหรือขึ้นไปบนเกาะอีกหนึ่งต่อ เสียเงินค่าเรือคนละ 50 บาท
ถนนคนเดินตอนกลางคืนคนไม่ค่อยเยอะเท่าไรครับ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นช่วง LOW
ตื่นเช้ารอดูพระอาทิตย์ขึ้น และทานมื้อเช้ารอเรือมารับไปกำน้ำดูปะการัง
นัดเรือไว้ตอน 08.00 ให้มารับที่หน้ารีสอร์ทเลย เรือพร้อมไกส์เป็นแบบเหมาครับ โซนใน + โซนนอก 2,500 บาท/ลำ

จุดหมายแรกของเราคือ เกาะหินงามครับ นั่งเรือไม่ไกลมากประมาณ 10 นาทีกว่าๆ ก็ถึง
บอกก่อนเลยครับผมเมาเรือ ไม่ไหวจะหยิบกล้องมาถ่ายรูปให้มันดูดี ตามมีตามเกิดแล้วกัน
ทั้งเกาะเต็มไปด้วยหินสีดำ สวยมากครับ ในน้ำก็ไม่มีทรายน่ะ มีแต่หินแบบนี้เต็มไปหมด
เสร็จจากตรงนั้นก็อ้อมมาทางด้านหลังเกาะ ดำน้ำที่แรกครับ ตามลงไปดูกันเลย มีทั้งปลาและปะการังสวยๆ
ส่วนใหญ่เป็นปะการังไฟครับ

ที่ต่อไปเราต้องนั่งเรือนานนิดหน่อย เพราะเราจะต้องไปเกาะหินซ้อนกัน
พร้อมกับลงดำน้ำที่ร่องน้ำหินซ้อนครับ ประการังบริเวณนี้สวยมากหลากหลายสีสัน
ปลาการ์ตูนเต็มไปหมด

แค่นี้ก็เที่ยงละ ไปแค่ไม่กี่ที่เอง ก่อนพักทานอาหารกลางวัน แวะอีกที่นึงแล้วกัน เกาะรอกลอย
ชอบที่นี้มากครับ น้ำใสได้ใจจริงๆ เหมือนสระว่ายน้ำเลย

พักทานอาหารกันสักหน่อย เกาะดง เกาะดงจะมีอ่าวลิงครับ แต่ไม่ไปดีกว่า กลัว เดี๋ยวจะไม่ได้กินข้าวกันพอดี แต่เจออยู่ 1 หน่วย มาจากไหนไม่รุ มาอยู่ตัวเดียว

ลุยกันต่อ ยังเหลืออีกหลายที่น่ะ รีบๆ เดี๋ยวไม่ทัน
ต่อกันที่ เกาะยาง เกาะนี้มีที่ดำน้ำ 2 จุด ก็ลงดำน้ำกันทั้งสองจุดเลยนั้นแหละ

และปิดท้ายการดำน้ำที่ร่องน้ำจาบัง และแวะเดินเล่นที่หาดอาดังนิดหน่อย ก่อนกลับที่พักครับ

บอกได้เลยว่าทะเลสวยงามมาก สีสวยใสความอุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเลสวยงามหาดทรายที่เหยียบราวกับแป้ง ไปช่วงต้นปีจะยิ่งสวยมาก