สงบเงียบ ร่มรื่น แอบเปลี่ยวนิดหน่อย อิอิ ราคาห้องเหมาะสมตามราคา ห้อพักถือว่าพอใช้ ให้พักอาศํยไม่ึกับสวยมาก สัมผัสธรรมชาติเขียวขจี ภูเขาล้อมรอบ มีบ้านพักจำนวน 5 หลังแตกต่างกันคนละแบบ ตอนเช้าหมอกลงสวยงาม
- Wifi ฟรี
- ที่จอดรถฟรี
สงบเงียบ ร่มรื่น แอบเปลี่ยวนิดหน่อย อิอิ ราคาห้องเหมาะสมตามราคา ห้อพักถือว่าพอใช้ ให้พักอาศํยไม่ึกับสวยมาก สัมผัสธรรมชาติเขียวขจี ภูเขาล้อมรอบ มีบ้านพักจำนวน 5 หลังแตกต่างกันคนละแบบ ตอนเช้าหมอกลงสวยงาม
ที่พักสะอาด บรรยากาศดี ห้องกว้างมาก ที่พักหาไม่ยาก เจ้าของน่ารักเป็นกันเอง ให้คำแนะนำดี มีอาหารเช้า มีลำธารหน้าทางเข้า มีดอกไม้ ตอนเช้าพระอาทิตย์ขึ้นถ่ายรูปสวยมาก ถ้าใครต้องการธรรมชาติมีสายหมอกตอนเช้า ถือว่าที่นี่ดีมาก
ต้องบอกก่อนว่ารู้จักที่พักที่นี่จากการค้นหาผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่ได้มีใครแนะนำอะไรทั้งสิ้น เราหามาเป็นร้อยที่ โดยคำนึงถึงความสวยงาม ราคา แล้วก็พวกรีวิวต่างๆ เราได้เจอบ้านพราวฟ้า เลยเข้าไปดูในเว็บ ซึ่งเห็นภาพบรรยากาศสวยมากที่พักน่านอน จึงตัดสินใจ แต่พอวันที่ไป ระหว่างทางก่อนถึงรีสอร์ท ค่อนข้างเปลี่ยว มีแต่ป่า รถไม่มีเลย พอเข้าไปในรีสอร์ท รู้สึกอึ้งมากค่ะ คือไปไม่เป็น แทบไม่อยากลงจากรถ บ้านที่จองไว้คือบ้านปูนเปลือย ซึ่งมีประมาณ4หลัง หลังที่เราได้มันไม่มีระเบียงด้านหน้าเหมือนในภาพด้วย แล้วทางขึ้นก็แบบค่อนข้างลำบากใต้ถุนบ้านก็มีอุปกรณ์ก่อสร้างยัดอยู่ ซึ่งมันรู้สึกดูแปลกๆ แล้วต้นไม้ก็แบบแห้งเหี่ยว ไม่ได้สวยงาเหมือนในภาพเลย ต้นไม้แบบไม่มีร่มเงาเลย จัดสวนได้ไม่ดี พอเข้าไปในห้องพัก เราไปกัน5คน ต้องเสริมเตียง3ที่ ซึ่งที่ละ500บาท ที่นอนที่ได้แบนๆประมาณ3ฟุต เหมือนที่นอนนวด บ้านตอนบ่ายร้อนมาก ซึ่งแอร์เครื่องเล็กเอาไม่อยู่ เปิดสิบกว่าองศายังไม่เย็น ซึ่งพูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวก มีwifiแรงดี ทีวีดูชัด ในตู้เย็นมีแค่น้ำเปล่า กระดาษทิชชูในห้องก็ไม่มีซักม้วน มีแต่ในห้องน้ำ ซึ่งมันสมควรจะมี แถมมีมดที่พื้นด้วย ในห้องน้ำก็ตรงอ่างล้างมือน้ำซึม แบบสบู่ยากสระผมก็แทบไม่มี มีอยูสองขวดอันนึฃครีมอาบน้ำอีกอันไรไม่รู้เพราะป้ายที่บอกมันขาดซึ่งสภาพก็ไม่น่าใช้ คือบอกตรงๆค่ะว่าผิดหวังมากจาก100%พอเข้าไปเหลือ30%เลยค่ะ แล้วคือวันนั้นเราไปมีเราแค่ห้องเดียว แล้วตอนไปก็ไม่ได้มีเจ้าของมารับนะ มีแต่คุณลุงท่านนึงให้กุญแจ กะเด็กพม่าสองคนช่วยถือของ แล้วคือทางก่อนเข้ามาเปลี่ยวมากจึงทำให้กลัว คือถ้าเข้ามาตอนเย็นๆนี่แบบไม่กล้าเข้าแน่ เพราะกะไปไปเที่ยวข้างนอก เราเลยปรึกษากัน ว่าจะเอาไง สรุปคือพอนอพักผ่อนงีบเสร็จ ก็ขนของขึ้นรถออกค่ะ ทั้งที่จ่ายไปแล้ว4000แต่ก็ยอมทิ้งไปโดยยังไม่ได้ค้างคืนอะไรเลย สุดท้ายต้องไปหาที่พักใหม่ เสียเงินอีกรอบ
คร้ังแรกสำหรับการพักในสวนผึ้ง กับบ้านพราวฟ้า
รีสอร์ทอยู่ริมเขา พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนิน บ้านบางส่วนอยุ่บนที่ลาดชันที่ต้องขึ้นบันไดและแยกเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งต้องขึ้นบันไดสูงพอประมาณครับ
โดยรอบเป็นป่าเขา เงียบสงบ
ความน่าประทับใจแบบเสียวๆ เริ่มแรกตั้งแต่ทางเข้ารีสอร์ท
เพราะเป็นสะพานแบบไม่มีรั้วกั้น เป็นถนนคอนกรีตข้ามธารน้ำค่อนข้างใหญ่ด้านหน้า สะพานเป็นถนนทอดตัวลงจากถนนหลัก ลาดลงไปจนใกล้ลำธาร ทำให้สัมผัสน้ำสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
ตอนแรกอาจดูเสียวๆหน่อย แต่ถ้าขับช้าๆ และถ้าได้ลองจอดรถแล้วชมวิวลำธารและป่าเขารอบๆดีๆ ต้องบอกว่ารู้สึกดีทีเดียวครับ
พอข้ามสะพานแล้ววิ่งไปตามถนนไปเรื่อยๆ ผ่านบ้านพักด้านขวาไป 2-3 หลัง ข้างหน้าจะเจอทางเลี้ยวโค้งขึ้นเนินเขา ด้านหน้าก่อนเลี้ยวเจออาคารหลังนึงเป็นส่วนทำการและส่วนทานอาหารเช้า ติดต่อเข้าพักตรงนี้เลยครับ
ถ้าขับเลยไป จะขึ้นเนินถนนหน้าบ้านพักไปยาวๆเลยครับ ซึ่งเป็นทางค่อนข้างแคบอาจกลับรถยากมาก เพราะด้านซ้ายเป็นบ้านพักติดเขา ด้านขวาเป็นที่ลาดชันที่ต้องระวังมากๆ
บ้านพักโอเค ไม่ได้หรูหรา แต่ก็สะอาดดี และสะดวกพอประมาณครับ
บ้านพักด้านหน้าที่ผ่านตอนเข้ามาเป็นลักษณะบ้าน 2 ชั้น อยู่ได้หลายคน (แยกชั้นบนช้ันล่างด้วยบันไดข้างนอก เป็นกึ่งพักแยกกึ่งพักรวมได้ เหมาะกับมาเป็นหมุ่คณะประมาณ 6-10 คน)
บ้านพักด้านหลัง(ขึ้นเนินไปอีก) เป็นบ้านชั้นเดียว ยกสูง (สร้างบน slope ลาดชัน) พักได้ห้องละ 2 คน
สิ่งอำนวยความสะดวกก็ทั่วไปครับ (ค่อนข้างน้อย) แต่ไม่มีอะไรแตกหักเสียหาย
มี wifi ให้ใช้
ด้านหน้าห้องเป็นระเบียงยาวตลอดแนวตัวบ้าน ไม่แคบไป ไม่กว้างไป นั่งสบาย
และยังมีดาดฟ้าให้เดินขึ้นไปนั่งชมวิว ชมดาว ท้าลมหนาวอีกด้วย
(เสียดายมีที่นั่งน้อย และเป็นม้านั่งประเภทที่เรียกกันรวมๆว่าม้าหินอ่อน ซึ่งนั่งนอนไม่ค่อยสบายครับ
ถ้ามีแบบเตียงนอนริมสระ อะไรประมาณน้ันจะดีมาก)
บรรยากาศทางธรรมชาติดีครับ ห่างจากรีสอร์ทใกล้เคียงหรือแหล่งเที่ยวอื่นๆ เงียบสงบ
พอดีบ้านที่พักเป็นบ้านที่อยู่ด้านหลัง แต่ละหลังอยู่ห่างกันแบบหลวมๆ มีต้นไม้ริมเขาแทรกขึ้นมาจนมองไม่เห็นบ้านข้างๆ จึงเป็นส่วนตัวมากๆ
น่าจะถูกใจสำหรับคนที่อยากพักผ่อนแบบเงียบๆ ไม่วุ่นวาย และเป็นส่วนตัวครับ
สิ่งอำนวยคามสะดวกหลักๆ เช่น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น กาต้มน้ำแบบเดือดเร็วและกาแฟซองเตรียมให้
(แต่ไม่มีทิชชูในห้อง มีเฉพาะในห้องน้ำ)
ช่วงที่ไป หนาวมาก เลยไม่ต้องเปิดแอร์
และไม่มียุงและไม่เจอแมลงสัตว์กัดต่อยครับ ถ้าชอบนั่ง outdoor และสามารถทนความเย็น(ตามฤตู) ได้
การนั่งเล่นข้างนอกหรือดาดฟ้าก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ
ข้อเสียที่เห็นได้ทั่วไปคือ ที่นี่ไม่มีครัวหนักสำหรับอาหารมื้อหลักๆโดยเฉพาะมื่้อเย็นครับ
จึงไม่มีบรรยากาศของการนั่งกินข้าวเย็นในรีสอร์ท
แต่ทางรีสอร์ทก็สามารถสั่งอาหารจากข้างนอกมาจัดจานให้ได้ หากต้องการ
อีกอย่างคือ มีการตกแต่งค่อนข้างน้อย ไม่ค่อยมี prop กุ๊กกิ๊กๆ น่ารักๆ อย่างรีสอร์ททั่วๆไป
จึงดูออกจะแห้งๆไปบ้าง แต่ก็ได้แนวเรียบๆเป็นธรรมชาติ
ตรงนี้ก็คงแล้วแต่คนชอบครับ
สุดท้ายคือ อาหารเช้ามีให้เลือกค่อนข้างน้อยครับ มีให้เลือกว่าจะเป็นข้าวต้มหมูสับ หรือเป็น breakfast และปริมาณต่อชุดก็น้อยเช่นกัน
(ผมกินแล้วไม่อิ่ม แต่ขอเพิ่มคุณเจ้าของก็ใจดีเพิ่มให้อีกชุด ไม่คิดเงินครับ แต่ไม่แน่ใจว่าเพิ่มให้ฟรีสำหรับทุกห้องรึเปล่า)
สามารถเลือกได้ว่าจะมากินที่ส่วนทานอาหารเช้า หรือจะให้ยกไปเสิร์ฟที่ห้องก็ได้ ก็ถือว่าโอเคมากครับ
ด้วยอาคารสถานทีส่วนทานอาหารเช้าที่ไม่ค่อยดึงดูดนัก เลยขอให้ช่วยยกมาที่ห้อง (น้องๆต้องปีนบันไดมาเสิร์ฟ) ซึ่งนั่งกินระเบียงหน้าห้องก็ได้บรรยากาศดีครับ
เป็นที่พักที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างดีเยี่ยม บรรยากาศรอบที่พักสวยงาม มีความเป็นธรรมชาติมาก ห้องพักสะอาด มีการบริการที่ดี เจ้าของมารับ และมาส่งแขกด้วยตนเอง แต่มีข้อเสีย คือ สันยานโทรศัพท์ไม่มีเลย และสันยาน Wifi ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ของที่พัก