เราอยากจากพักที่ Shirakawago หลังจากได้ยินมามากเกี่ยวกับที่นี่ คำเตือนอย่างหนึ่งคือหมู่บ้านนี้ค่อนข้างจะมีนักท่องเที่ยวมาก และไม่ค่อยมีอะไรให้ทำมากนักหลังจากตกเย็นแล้ว บ้านสไตล์ Gassho Zukuri ก็ยังคงมีอยู่ แต่หลายๆที่ก็เหมือนจะเปลี่ยนไปใช้สำหรับการท่องเีที่ยวแล้ว อย่างเช่น บ้านพัก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกหรือของจากพิพิธภัณฑ์ แต่ก็ยังมีกลิ่นอายแบบประวัติศาสตร์อยู่ แต่เพราะความสงบเงียบนั้นถูกทำลายไปจนหมดสิ้นโดยนักท่องเที่ยวรายวัน มันทำให้ผมไม่ค่อยอยากกลับมาที่นี่อีกสักเท่าไร

โรงแรม Nodaniya นี้เองก็ดูดีจากภายนอก แต่เมื่อเข้ามาข้างในแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากบ้านพักอื่นๆมากนัก แขกที่มาพักทุกคนนั้นอยู่ได้แค่ชั้นล่างเท่านั้น จึงไม่สามารถชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมบ้านประเภทนี้ภายในบ้านพักไม่ได้ อย่างเช่น หลังคามุงจากสูงๆ และคานรูปกากบาท สำหรับผู้ที่อยากชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรม คุณจะต้องไปพิพิธภัณฑ์ในเมือง แต่ตอนที่เราไปมันก็เกือบจะเต็มแล้ว เราเลยต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับคนอื่นๆ (มีอ่างล้างมือเพียง 2 อ่างสำหรับแขกทุกคน) แต่ห้องน้ำก็อยู่ในสภาพดีมาก

ผมคงต้องขอชื่นชมในเรื่องอาหารอันยอดเยี่ยม และปริมาณนั้นก็พอดีสำหรับผมและภรรยา สำหรับอาหารเย็นนั้นเราทาน โฮบะมิโซะ ปลาย่าง และผักภูเขาที่มีอยู่ทั่วภูมิภาคฮิดะ และเรายังได้ทานเต้าหู้ิแบบพิเศษของภูมิภาคนี้ด้วย
ช่วงเวลาอาบน้ำนั้นค่อนข้างจำกัด จากช่วงเวลาราวๆ 5 โมงเย็น ถึง 3 ทุ่มหรือ 3 ทุ่มครึ่ง แต่นั่นก็เพราะความเล็กของสถานที่

ในตอนเช้า พนักงานนำไข่ดาวมาเสิร์ฟสำหรับเรา ผมเดาว่าเธอคงคิดว่าเราคงไม่คุ้นเคยกับไข่ดิบอย่างที่คนญี่ปุ่นกินเป็นอาหารเช้า แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมอยากลองไข่ดิบนะ ดังนั้นผมคิดว่าหากเธอถามว่าผมชอบแบบไหนคงจะดีกว่าทึกทักเอาเอง แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ตำหนิอาหารเช้าสุดอร่อยแบบนี้ไม่ลงหรอก

โดยรวมแล้ว Nodaniya ไม่ใช่ที่ที่แย่เลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมตกหลุมรักที่นี่หัวปักหัวปำ อีกทั้งแขกที่ได้พักที่ Nodaniya จะได้ส่วนลดสำหรับพิพิธภัณฑ์ Gassho Zukuri Minkaen ด้วย ให้ขอคูปองส่วนลดจากทางโรงแรมได้นะครับ