เรารู้สึกได้ถึงการต้อนรับอันอบอุ่นนับตั้งแต่วินาทีแรกที่รถรับส่งของโรงแรมรับเราที่สถานี Kawaguchiko จวบจนกระทั่งตอนไปส่งเรายังที่เดิมแห่งนี้สองวันหลังจากนั้น เราพักอยู่ในห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นที่มองออกไปเห็นทะเลสาบคาวากูชิและวิวของภูเขาไฟฟูจิ ภายในห้องพักดูโล่งโปร่งดี พื้นปูด้วยเสื่อตาตามิ และมีโต๊ะเตี้ยๆ กับเก้าอี้ โดยเตียงนอนจะถูกม้วนเก็บไว้ในตู้จวบจนกระทั่งกลางคืน (เมื่อคุณกลับมาจากอาหารค่ำ พวกมันจะถูกนำมาปูพร้อมสำหรับนอน) เรารักมันมากเลยล่ะ เรารับประทานอาหารญี่ปุ่นกันเป็นอาหารค่ำกับอาหารเช้า ซึ่งเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่แตกต่างออกไปสำหรับเรา เรามีหม้อไฟให้กิน และในคืนแรกก็ไม่รู้เลยว่าต้องทำอย่างไรกับมันบ้าง และบริกรหญิงก็พูดคุยกับเราอย่างมีความสุขเป็นภาษาญี่ปุ่น อธิบายว่าเราต้องทำอะไรบ้าง หลังเรามองเธอด้วยสายตางงงวย เธอก็เริ่มต้นทำอาหารและแสดงให้เราดูว่าต้องทำอย่างไรบ้าง มันสนุกไม่ใช่เล่นเลย มีอาหารทะเลเยอะมาก ทั้งดิบและตากแห้ง บางอย่างก็ค่อนข้างประหลาด แต่เราก็ลองกินมันหมดทุกอย่างนั่นแหละ และคุณก็จะไม่จากไปอย่างหิวโหยแน่นอน เนื่องจากมีอะไรให้กินมากมายเหลือเกิน และในคืนถัดมาเราก็รู้แล้วว่าเราต้องทำอย่างไรบ้าง ที่นี่ไม่ค่อยมีการพูดภาษาอังกฤษกันมากนัก แต่เราก็เข้าใจ และสามารถเข้าใจได้เป็นส่วนมาก รถรับส่งของโรงแรมพาเรากลับไปส่งที่สถานีเพื่อขึ้นรถบัสไปยังภูเขาไฟฟูจิ และตอนที่กลับมา เราก็แค่ไปที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว บอกชื่อโรงแรมกับชื่อของคุณ แล้วพวกเขาก็จะโทรไปแจ้ง และมีคนมารับ เราพักอยู่ที่นั่นกับพนักงานใบหน้าเปื้อนยิ้มด้วยความสุขอย่างมีความสุขมาก และสิ่งเดียวที่มาทำลายบรรยากาศในตอนท้ายสุดเลยก็คือค่าภาษีการใช้บริการออนเซน 600 เยน มันไม่ใช่เงินจำนวนมากหรอก แต่มันจะดีกว่านี้ ถ้าเรารู้เรื่องเกี่ยวกับมันก่อน และจ่ายมันเสียตั้งแต่ตอนเช็คอิน ไม่ใช่ตอนกำลังจะออกไป เราไม่เคยได้ใช้ออนเซนเลย และถ้ารู้ถึงค่าบริการนี้ เราก็คงจะมีความคิดพยายามจะไปลองใช้บริการมันดูบ้าง ไม่มีใครชอบจ่ายเงินให้กับสิ่งที่พวกเขาไม่ได้ใช้หรอก