การนั่งเรือไปที่นี่รับลมเย็น หรือนั่งในห้องปรับอากาศแล้วดูวิวแม่น้ำสองข้างทาง เมื่อไปถึง... อ่านเพิ่มเติม
การนั่งเรือไปที่นี่รับลมเย็น หรือนั่งในห้องปรับอากาศแล้วดูวิวแม่น้ำสองข้างทาง เมื่อไปถึง... อ่านเพิ่มเติม
-ช่วงที่เราไปเป็นเดือนมีนาคม ที่สวนยังปกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้ไม่ต้องเสียค่าชมสวน... อ่านเพิ่มเติม
พระราชวังตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลบอลติก โดดเด่นด้วยสวนน้ำพุที่ยิ่งใหญ่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และสวนสวยอันกว้างใหญ่ เรานั่งกินข้าวกล่องที่เตรียมไปด้วยเป็นมื้อเที่ยงในสวน ทำให้เป็นที่สนใจของกระรอกขนฟูหางพวง มันเชื่องและใจกล้ามากๆ กล้าปีนขึ้นขากางเกงมาขออาหารโดย ไม่กลัวคนแปลกหน้าอย่างเราเลยซักนิด ความน่ารักของมันทำให้เราใจละลายไปตามๆกัน นอกจากกระรอกแล้วในสวนยังมีสัตว์น่ารักอื่นๆอีก เช่น อีกา นกเป็ดน้ำ และนกหลายชนิด ถ้าเดินไปถึงริมฝั่งทะเลบอลติกจะได้เห็นหงส์และนกนางนวลด้วย
-ช่วงที่เราไปเป็นเดือนมีนาคม ที่สวนยังปกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้ไม่ต้องเสียค่าชมสวน เสียแต่ค่าเข้าวัง
-ข้างในพระราชวังสวยมาก สวยทุกๆห้อง สีทองอร่ามเราชอบมากๆ แต่ละห้องเราใช้เวลานานมากเพื่อซึมซับความวิจิตร ปราณีต
-ควรเดินไปให้ถึงทะเล ทะเลที่เย็นจนกลายเป็นน้ำแข็งสวยประทับใจจริงๆ
สวนกว้างมาก มีน้ำพุหลายแห่งและสวนที่ตกแต่งแตกต่างกันให้เดินชม มีที่นั่งให้สามารถนั่งปิกนิกได้ ผู้คนเยอะเฉพาะน้ำพุตรงกลาง มีที่ขายอาหารน้อยไปหน่อยและราคาสูง แนะนำพกอาหารง่ายๆ ไปทานเองดีกว่า ห้องน้ำสะอาดแต่ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับขนาดของสวน
เรามาเยือนพระราชวังฤดูร้อนที่อยู่นอกเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก มีนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ก็มีการจัดระเบียบและจัดคิวการเข้าชมได้ดี ตัวพระราชวังด้านนอกสวยงามมาก แต่ด้านในสวยงามมากกว่า ห้องต่างๆ จัดได้สวยงาม และมีคุณค่าทางศิลปะและประวัติศาสตร์ แต่อาจจะไม่สามารถเดินชมได้อย่างสบายๆ เพราะมีการจัดคิวการเข้าชมห้องแต่ละห้อง และแต่ละห้องมีเวลาไม่นานนัก ถือว่าคุ้มค่ากับการมาเข้าชมพระราชวังนี่จริงๆ
ที่นี่คือ "พระราชวังฤดูร้อน Peterhof หรือ Petrodvorets"จัดว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดถ้าได้มีโอกาสมาเที่ยวเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแห่งนี้ ครับ เป็นพระราชวังที่งดงามแบบไร้ที่ติครับ สร้างขึ้นในสมัย ของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชโดยสถาปนิคที่ออกแบบเป็นคนรัสเซียชื่อว่า" Jean-Baptiste Le Blond" ซึ่งท่านได้มีการรวบรวมสถาปัตยกรรม ประติมากรรม มาผสมผสานเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว แถมยังมีความทันสมัยอีกด้วยครับโดยมีต้นแบบมาจากพระราชวังแวร์ซายส์ครับ ใช้ระยะในการก่อสร้างที่ยาวนานถึง10ปี ครับ ในอดีตวัตถุประสงค์ในการสร้างพระราชวังแห่งนี้เพื่อเป็นที่ประทับพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนและพำนักช่วงล่าสัตว์ของกษัตริย์ครับ พื้นที่พระราชวังแห่งนี้กว้างมากๆครับและแบ่งเป็นหลายๆส่วน มีความสวยงามทั้งหมดครับด้านหน้าสุดของพระราชวังจะหันไปทางทะเลบอลติคครับ พื้นที่ส่วนที่โดดเด่นมากทำให้นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลมาที่นี่ก็คือ "น้ำพุ" ที่สุดแสนจะอลังการ มีรูปปั้นบุรุษเปลือยกายทำจากทองเหลือง จัดเป็นสวนน้ำพุที่ยิ่งใหญ่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยครับ ข้าพเจ้าทึ่งในความรู้ด้านวิศวะกรรมในการสร้างน้ำพุบนเนินดินเลนชื้นแฉะเป็นเรื่องที่ยากมากในสมัยนั้น แต่ก็สามารถสร้างออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมสวยงามหาที่เปรียบไม่ได้ครับ ตัวอาคารของพระราชวังไม่ใหญ่นักครับแต่ก็ สวยมากครับแต่ละห้องมีความงดงาม โดดเด่นด้วย สีทองส่องสว่างเพิ่มความหรูหราได้มากเลยครับ น้ำพุที่ด้านหน้าพระราชวังเค้าจะเปิดโชว์ในช่วง ต้นเดือนพฤษภาคม ถึง เดือนตุลาคม ครับ นักท่องเที่ยวจะเยอะมากๆครับ ถึงแม้ว่าในช่วงฤดูหนาว จะไม่มีการจัดแสดงน้ำพุที่พวยพุ่งออกมา แต่ก็รับรองครับว่าสวยไม่แพ้ช่วงหน้าร้อนครับ อีกทั้งยังไม่ต้องเสียค่าเข้าชมสถานที่ด้วยครับ ยกเว้นถ้าเข้าชมตัวพระราชวังเสียเงินครับ ภายในจะมีห้องทั้งหมด30ห้อง ครับ การตกแต่งภายในจะเป็นศิลปะแบบ ฝรั่งเศส ครับ บริเวณห้องโถงจะมีภาพวาดขนาดใหญ่ถึง12ภาพครับที่เกี่ยวข้องกับชัยชนะของสงครามรัสเซียตุรกี บุคคลที่วาดภาพคือ ศิลปินชาวเยอรมันชื่อว่า"จาค็อบฟิลิปป์ " ครับ ค่าเข้าชม คนละ500 รูเบิ้ล ครับ โดยจะต้องเสียเงินค่าเข้าตั้งแต่ทางเข้าด้านหลังพระราชวังในส่วนที่เป็นสวน upper garden ครับ
การเดินทางด้วย peterhof express
การเดินทางด้วยเรือสะดวกสบาย ใช้ระยะเวลา 30 นาที ชมทัศนียภาพท้องทะเลที่สวยงาม ข้อเสียของการนั่งเรือตำแหน่งนั่งด้านหน้าคนขายของที่ระลึกพูดตลอดเวลา ทำให้รำคาญ ต้องนั่งด้านหลังจะสงบ