พักที่โรงแรมที่มีเอกลักษณ์นี้เป็นเวลาหนึ่งคืนในช่วงที่มีจัดกิจกรรม รีสอร์ทนี้มีเอกลักษณ์มากสำหรับคนที่ชอบขี่ม้า หรือแค่ดูการแสดงม้า นอกนั้น รีสอร์ทอยู่ค่อนข้างไกลจากเมืองและชายหาด (แต่ใกล้กับทะเลสาบและสนามกอล์ฟ) ห้องพักดูไม่ได้รับการดูแลรักษามากนัก อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยมีแขกมาพัก เตียงนอนไม่สบายเอาเสียเลย ไม่แน่น นิ่มเกินไปและเล็ก ห้องพักค่อนข้างกว้าง การตกแต่งพื้นๆ พบว่าห้องน้ำไม่ค่อยสะอาด อาจจะเป็นเพราะคนไม่ค่อยมาพักอีกนั่นแหละ ร้านอาหารรสชาติกลางๆ และบริการเชื่องช้า แต่คุณภาพอาหารดีกว่าที่คาดหวังไว้ ไม่มีไวไฟในห้องพัก มีแต่ในล็อบบี้ อยากไปสปาแต่ปิดอยู่

พักที่รีสอร์ทแห่งนี้กับครอบครัวเป็นเวลาสามคืนเมื่อสัปดาห์ก่อน เราพักที่ Paris Lane และห้อง Asawin ที่ชั้นบนสุดของโรงแรม (ชั้น 3 ไม่มีลิฟต์) ห้องพักสะอาดมากและสะดวกสบายสำหรับแขก 6 คน (รวมถึงเด็ก 3 คนอายุ 9,8 และ 4 ขวบ)

นอกจากบทเรียนบทเรียนขี่ม้าที่ยอดเยี่ยมทุกเช้า เรายังเช่าจักรยานขี่ไปรอบๆ รีสอร์ท ซึ่งกว้างขวางและเต็มไปด้วยคอกม้าและไก่ เป็ด ห่านทีเลี้ยงแบบ "เกษตรอินทรีย์" ลูกๆ ที่เป็นคนเมืองตื่นเต้นกับสัตว์ที่เห็นมาก และการให้อาหารเป็ดไก่กลายเป็นตัวชูโรงสำหรับการเที่ยวพัทยาครั้งนี้ไปเลย

เราเลือกแบ่งทริปออกเท่าๆ กันระหว่าง Horseshoe Point Resort และ Rabbit Resort ซึ่งอยู่กลางเมืองมากกว่า และเราพักเป็นเวลา 3 คืน และดีใจที่ตัดสินใจเช่นนั้น เพราะว่านอกจากกิจกรรมสัมผัสธรรมชาติและบทเรียนขี่ม้า (ซึ่งใช้เวลาอย่างมากก็ครึ่งวัน) ก็ไม่มีอะไรให้ทำมากนัก!

นึกว่าจะมีโชว์ช่วงสุดสัปดาห์แต่ตอนเราอยู่ไม่มีการแสดง เราทานอาหารที่ร้านอาหารเดิมทุกมื้อ เพราะมีร้านเดียว แต่อาหารอร่อยดี

โต๊ะส่วนต้อนรับให้ความช่วยเหลือดี แต่ไม่มีโต๊ะจัดทัวร์และโบรชัวร์กับแผนที่ ซึ่งเราอาจจะอยากใช้ถ้าจะจัดทริป

สระว่ายน้ำสกปรกตอนที่เราไปพัก ทำให้เราไม่ได้ใช้เวลากับสระว่ายน้ำมากนัก แค่แวะจุ่มๆ ตามใจเด็กๆ บาร์ที่สระว่ายน้ำก็ไม่มีคนตามคาด

ไม่มีบริการนวดในโรงแรม โรงแรมจัดบริการนวดให้เราจากร้านนวดใกล้ๆ

จะกลับมาพักที่นี่อีกก็ต่อเมื่อชอบม้าขึ้นมามากๆ เท่านั้น เพราะตัวรีสอร์ทไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้สำหรับการพักผ่อนแบบครอบครัว แต่โรงเรียนสอนขี่ม้าก็สนุกและเป็นมืออาชีพ ขอแนะนำให้จองล่วงหน้าจะได้มั่นใจว่ามีที่ว่างเหลือ