ข้อดี: ใกล้สถานีรถไฟอุเอโนะมากๆ พนักงานเป็นมิตร บางส่วนพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง พนักงานให้ความช่วยเหลือดี อาหารเช้าดี ห้องพักสะอาด
ข้อเสีย: โรงแรมเก่าแล้ว ห้องพักของฉันกลิ่นเหม็นอับ ไม่มีวิวให้ดูได้จากห้องนอกจากกำแพงคอนกรีต - เพราะกำแพงคอนกรีตอยู่รอบๆโรงแรม ไม่ใช่โรงแรมข้างๆ
ฉันพักที่นี่หนึ่งคืน มันอยู่ใกล้สถานีรถไฟอุเอโนะมากๆ ออกทางออกอาซากุสะของสถานีอุเอโนะ ลงบันได ข้ามถนนที่ทางแยก (ไม่มีไฟแดง) ที่ทางซ้ายของคุณ แล้วเลี้ยวซ้ายหลังจากคุณข้ามถนนแล้ว และเดินอีกไม่เกินครึ่งช่วงตึก โรงแรมจะอยู่ทางขวามือ
พนักงานเป็นมิตรมากๆ เวลาเช็คอินคือบ่ายโมง ฉันไปถึงตั้งแต่ 10 โมงเช้า ฉันจ่ายเงินค่าห้องพักไปและถามว่าทางโรงแรมจะรับฝากกระเป๋าเดินทางไว้ได้หรือไม่เพราะฉันจะไปพบเพื่อนในย่านชิบูย่า พนักงานไม่เพียงแค่ยินดีช่วยรับฝากกระเป๋าแต่เมื่อฉันกลับมาถึงกระเป๋าเหล่านั้นก็ไปอยู่ในห้องของฉันเรียบร้อย ฉันจองห้องดับเบิ้ลเพราะมันแพงกว่าห้องเดี่ยวไม่มากเท่าไหร่และฉันดีใจที่ทำอย่างนั้น ห้องพักเล็ก...แต่อย่างไรก็ตามนี่คือกรุงโตเกียว...ฉันเคยไปพักที่เล็กกว่านี้มาแล้ว เตียงเป็นแบบทั่วไป...ค่อนข้างเหมือนกับที่โรงแรมอื่นๆที่ฉันพัก (ในญี่ปุ่น) เตียงขนาดเดียวกับเตียงขนาดฟูลไซส์ในอเมริกา...เล็กกว่านิดหน่อย ฉันจ่ายไปประมาณ 1,000 เยนสำหรับอาหารเช้า...อาหารเช้าแบบญี่ปุ่น และจ่ายเพิ่มเติมตอนหลัง มันแพงมากสำหรับ “อาหารเช้า” แต่ไม่แพงเมื่อเทียบว่าฉันได้อะไรมาบ้าง รวมถึงว่าร้านที่เปิดในตอนเช้าส่วนใหญ่นั้นมีอาหารแบบที่ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรตต่ำที่ฉันกิน (มักจะเป็นเพสตรี้และอื่นๆ)
อย่างที่บอกไปตอนต้น ห้องของฉันมีกลิ่นเหม็นอับ แต่มันแค่คืนเดียวและถูกกว่า 100 ดอลล่าร์ ตัวห้องพักเองนั้นสะอาด มีทีวีจอแบน โต๊ะเล็กๆ ไม่มีตู้เสื้อผ้าแต่มีขอและที่แขวนเสื้อผ้าให้ มีนาฬิกาปลุกแบบบิวท์อิน ห้องอาบน้ำมียาสระผม คอนดิชันเนอร์ และสบู่เหลว ตอนที่ฉันเช็คอินพนักงานก็ให้ถุงใส่โลชั่นและพวกสบู่ตีฟองมาด้วย เครื่องปรับอากาศทำงานดีมาก เมื่อมันเริ่มจะทำให้ห้องหนาวฉันก็ปิดมัน ฉันเคยไปมาหลายที่ในญี่ปุ่นและเครื่องปรับอากาศเหล่านั้นไม่หนาวเลย ห้องของฉันเงียบดี เวลาเดียวที่ได้ยินเสียงคนอื่นพูดคุยคือตอนที่ฉันเดินไปตามโถงทางเดิน ห้องของฉันเลข 702 ซึ่งอยู่ตรงมุม
อาหารเช้าเสิร์ฟช่วง 7 ถึง 9 โมงเช้าในร้านอาหารใต้ดินของโรงแรม ไม่มีอะไรเป็นพิเศษแต่อาหารดี เมื่อคุณเดินเข้าไป ทุกโต๊ะถูกจัดด้วยถาดพร้อมอาหารจานเย็นเช่น สึเกะโมะโนะ (ผักดองแบบญี่ปุ่น) โนริ (สาหร่ายสำหรับทานกับข้าว) ทามาโกะยากิ (ไข่ม้วนย่าง) ฯลฯ หลังจากคุณโชว์ป้ายอาหารเช้าที่ติดกับกุญแจห้องแล้ว คุณจะได้ที่นั่งและภายในหนึ่งนาทีบริกรก็นำแซลมอนย่าง ซุปมิโสะ และข้าวมาให้ มันอิ่มเลยสำหรับฉัน ฉันเห็นกลุ่มชายชาวญี่ปุ่นขอนัตโตะซึ่งฉันไม่ต้องการและพวกเขาขอข้าวเพิ่มได้ฟรีด้วย บริกรยังนำชาและน้ำส้มแก้วเล็กมาให้ ฉันขอน้ำเปล่าไปด้วย และถ้าฉันไม่อิ่มเสียก่อนฉันมั่นใจว่าพวกเขาจะนำน้ำส้มมาให้อีกแก้วถ้าฉันขอ
อินเทอร์เน็ต - มีรูแจ็คสายแลน แต่ไม่มีคอนเน็กเตอร์พอยท์ (ซึ่งคล้ายๆกับอันที่อยู่บนสายโทรศัพท์) โรงแรมที่ฉันพักในทากาซากิมีคอนเน็กเตอร์พอยท์และเน็ตเกียร์ของฉันมีรูแจ็ค ดังนั้นปกติฉันมีรูแจ็คสองรู มีอินเตอร์เน็ตไวร์เลสในล็อบบี้แต่ล็อบบี้นั้นเล็กและเต็มไปด้วยผู้คนและสูบบุหรี่ได้ หลังจากอาหารเช้าฉันเอาไอแพดไปที่นั่นและแน่นอนว่าทันทีที่ฉันใช้งาน มีคนสองคนมานั่งสูบบุหรี่ แหยะ
ล็อบบี้ดูค่อนข้างเบียดเสียด...มีเก้าอี้แค่ 4-6 ตัวรอบๆโต๊ะ 2 ตัว กระเป๋าเดินทางมากมาย คอมพิวเตอร์สองเครื่องบนโต๊ะ เครื่องทำกาแฟ ทีวีขนาดใหญ่ ของอื่นๆ และเครื่องถ่ายเอกสารขนาดใหญ่ เมื่อไม่มีคนมันดูโอเค...แต่เมื่อมีคนเต็มจะรู้สึกแออัดมาก
ในวันสุดท้ายในโตเกียว เวลาเช็คเอาท์คือ 10 โมงเช้า ดังนั้นโรงแรมจึงให้ฉันฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้ได้เมื่อฉันออกไปที่อื่น ฉันกลับมาที่โรงแรมและมีเวลาเหลืออีก 40 นาทีก่อนออกเดินทางไปสนามบิน และพวกเขายินดีให้ฉันเตร็ดเตร่อยู่ในล็อบบี้ พวกเขายังเปิดทีวีให้ฉันดูอีกด้วย
สถานีรถไฟอุเอโนะเป็นที่ที่ง่ายในการไปไหนมาไหน ฉันสามารถไปฮาราจูกุและชินจูกุโดยรถไฟเจอาร์สาย Yamanote ในราคาน้อยกว่า 200 เยน (ประมาณ 20 นาที) ฉันยังสามารถไปรถไฟใต้ดินสาย Hibiya จากสถานีอุเอโนะไปยังสถานีสึคิจิ (จากนั้นฉันเดินไปตลาดปลาสึคิจิ) - ประมาณ 15 นาที สถานี Keisei (รถไฟไปสนามบิน) อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนของสถานีอุเอโนะ (ประมาณ 30 ดอลล่าร์ไปสนามบิน นั่ง 45 นาที) มีร้านขายของและร้านอาหารมากมายในสถานีเช่นกัน
อีกด้านหนึ่งของตัวสถานีคือสวนสาธารณะอุเอโนะ ถ้าคุณมีเวลา ลองมาเดินเล่นดู มีวัด สวน พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ ฯลฯ เดินเล่นรอบๆได้ฟรี แต่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าสวนสัตว์ ฯลฯ ฉันใช้เวลาชั่วโมงครึ่งเดินไปรอบๆสวนสาธารณะนี้และยังเดินดูได้ไม่ถึงครึ่งเลยเพิ่มเติม
18
56
22
4
0