เราตัดสินใจแต่งงานบนเกาะอินดิสตะวันออก (มีนาคม 2007 ไม่ใช่มกราคม 2012 เร็วที่สุดเท่าที่ฉันเลือกได้จากรายการติชม) เพราะเราเป็นนักเดินทางที่กระตือรือร้นและการแต่งงานนอกประเทศเป็นสไตล์ของเรามากกว่า เจดเมาน์เทนยังอยู่ในช่วงก่อสร้าง ดังนั้นเราจึงตัดสินใจใช้เงินฟุ่มเฟือยและให้แขกของเราขึ้นไปอยู่ที่แอนเซ่ ชัสตาเน็ต (เป็นอีกครึ่งหนึ่งของรีสอร์ทแห่งนั้น อยู่ต่ำลงไปจากภูเขา) เราได้ 'ห้องสวีทของเจ้าสาว' บนภูเขาเจด โอ้ พระเจ้า หรูหราแท้ เราอาบน้ำพร้อมกับมองออกไปยังทะเลคาริบเบียน สระน้ำแบบไร้ขอบของเราน่าตกตะลึง และห้องสวีทแบบเปิดโล่งก็เหมือนอะไรสักอย่างที่ออกมาจากภาพยนตร์เรื่องเจมส์ บอนด์ พนักงานเป็นมิตรและอารีอารอบอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาจัดแจงให้เจ้าพนักงานไปที่โรงแรมเพื่อการลงนามในทะเบียนสมรสให้เรา ดังนั้นเราจึงไม่ต้องเข้าไปในเมืองแคสตรีส์เพื่อพิธีการต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ห้องอาหารและบาร์บนหาดทรายมีทุกอย่างที่เราอาจต้องการ แต่พื้นที่สวยน่าตกตะลึง ฉันขอแนะนำเต็มที่ให้ไปเที่ยวป่าดงดิบด้วยกระเช้าไฟฟ้าสูงขึ้นไปบนฟากฟ้า! เยี่ยมมาก ข้อเสีย ทุกอย่างเคลื่อนไหวเชื่องช้ามากและด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายกว่ามากๆ ดังนั้นขอให้เตรียมตัวรับ... รวมทั้งยุง! (ห้องสวีทเป็นแบบเปิดโล่งและทั้งหมดนั่นแหละ...นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันอยู่ในคาริบเบียนและฉันมักจะนอนแนบมุ้ง) งานแต่งงานไม่ได้เป็นไปตามแผนการเป๊ะๆ (งานแต่งงานที่ไหนเป๊ะบ้างล่ะ) แต่ก็ลืมไม่ลงและมีคนดูแลทุกอย่างให้เรา (ยกเว้นช่างถ่ายภาพลืมส่งรถกลับไปให้เราในรีสอร์ทบนยอดเขาหลังจากถ่ายรูปให้เรา และทำให้เราติดค้างอยู่บนภูเขา เราจึงต้องปีนกลับลงไปโดยสวมชุดแต่งงานหรูหราของเรานั่นเอง ไม่ใช่หายนะ แต่น่าผิดหวังนิดๆ) แต่ถึงกระนั้นเราก็ได้ช่วงเวลาที่น่าพิศวง และอยากจะใช้เวลามากกว่านั้นในห้องสวีทของเรา ซึ่งเป็นเรื่องยากในเมื่อต้องให้ความสำราญแก่ครอบครัวและมิตรสหาย...การเดินทางกลับไปที่นั่นในวันครบรอบปีที่ 10 ของเราอาจจะรออยู่ในอนาคตกระมัง (ฉันจะหว่านล้อมสามีของฉันเรื่อยๆ!) กระนั้นก็ดีที่นั่นยังเป็นจุดหมายปลายทางในฝันและ โรแมนติกอย่างไม่น่าเชื่อ...
1,098
110
35
25
11