รีสอร์ทแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ เกาะพยาม จังหวัดระนองในการเดินทางไป สะดวก เมื่อได้มีการจองห้องพักกับทางรีสอร์ทแล้วสามารถแจ้งความประสงค์ได้ครับว่า อยากให้ ทางรีสอร์ทแห่งนี้ นำรถไปรับที่สนามบินโดยตรงแล้วมาลงเรือที่ท่าเรือเพื่อเดินทางมายัง รีสอร์ทสุดหรูแห่งนี้ที่เกาะพยามได้เลยครับ ค่าใช้จ่าย ในการบริการ สำหรับค่ารถ จาก สนามบินมายังท่าเรือ อยู่ที่ 300บาท ต่อท่านครับ และค่าเรือโดยสารความเร็วสูง แบบสปีทโบ้ท อยู่ที่ท่านละ 350บาท ครับ เมื่อรถตู้ที่ทางโรงแรมไปรับจากสนามบินมายังท่าเทียบเรือ แล้ว ท่านจะเจอกับ ตัวอาคารรับรองแขก เฉพาะลูกค้าที่เดินทางไปพักที่ เดอะบลูสกายรีสอร์ทเกาะพยาม ตั้งจะตั้งอยู่บริเวณด้านซ้ายมือสุดของท่าเทียบเรือมองเห็นได้ในระยะไกลพร้อมทั้งมีป้ายบอกและมีโลโก้ ชื่อว่า The Blue Sky@ Blue Monkey ครับ เข้าไปนั่งพักผ่อนตามอัธยาศัย มีห้องน้ำให้บริการสะอาด ครับ หรือสำหรับท่านใดที่เดินทางมาแล้วหิวข้าว ก็สามารถสั่งอาหารจานด่วนที่เค้าให้บริการภายในบริเวณพื้นที่นี้ได้ครับ แต่ เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มนะครับ ไม่ได้ ให้บริการอาหารฟรี ครับ เมื่อถึงเวลาออกเดินทางจากบริเวณท่าเทียบเรือจะมีตั๋วโดยสารที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ ต้องยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ก่อนลงเรือครับ ข้าพเจ้าเดินทางด้วยเรือเร็ว สปีทโบ้ทใช้ระยะเวลาในการเดินทางไปยังท่าเรือที่เกาะพยาม 45นาที โดยประมาณครับ เมื่อถึงที่เกาะบริเวณท่าเรือจะมี รถกล็อฟของทางรีสอร์ทมารอรับที่ท่าเรือเลยครับสะดวกสบายแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆครับ จากบริเวณท่าเรือไปยังรีสอร์ทที่พัก ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างมากนักจากบริเวณท่าเรือ ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ5นาที ก็ถึงด้านหน้ารีสอร์ทแล้วครับ เดอะบลูสกายรีสอร์ทเกาะพยามแห่งนี้ มีพื้นที่ทั้งหมด 6ไร่แบ่งเป็นส่วนที่เป็นผืนน้ำและป่าโกงกางประมาณ1 ไร่ ตั้งอยู่ริมชายหาดส่วนตัว ที่มีทัศนียภาพงดงามที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะพยามแห่งนี้ครับ รีสอร์ทแห่งนี้ มีพื้นที่ห้องพักทั้งหมด5โซน จำนวน 30ห้อง ครับ บริเวณด้านหน้าแนบชิดติดริมทะเล จะมี 2โซน คือ 1)วิลล่าซีวิวจะเป็นบ้านพัก2หลังห้องนอนและพื้นที่หลักจะอยู่ที่ชั้นล่าง ส่วนพื้นที่ชั้นบนจะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ ที่สามารถนอนเล่นพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย ครับ สามารถเดินเชื่อมต่อถึงกันได้ครับ เพราะสำหรับท่านที่มากันเป็นครอบครัวใหญ่ครับ และพื้นที่ลำดับถัดมาคือห้องพักที่สร้างขึ้นอยูด้านหลัง วิลล่าซีวิว โซนที่ 2) จะชื่อว่า วิลล่าดีลักซ์ จะมีลักษณะของห้องพักเหมือนกันห้องพักแบบ วิลล่าซีวิวเลยครับ เพียงแต่ ห้องพักจะอยู่ในพื้นที่ถัดเข้ามาด้านใน บริเวณด้านหน้าห้องพักจะไม่แนบชิดติดริมทะเลครับ และโซนที่3) ชื่อว่า วิลล่าลากูน ตัวอาคารห้องพักก็จะเหมือนห้องพักในแบบ วิลล่าซีวิวและห้องพักแบบวิลล่าดีลักซ์ เพียงแต่ สถานที่ตั้งจะอยู่ถัดเข้ามาด้านในใกล้กับบริเวณล็อบบี้หลักของทางรีสอร์ทแห่งนี้ครับ บริเวณด้านหน้าห้องพักจะติดกับริมทางเดินหลักของทางรีสอร์ท ส่วนด้านหลังห้องพักจะแนบชิดอิงแอบกับลากูน พื้นที่ส่วนกลางของรีสอร์ท ที่ ระดับน้ำในลากูนแห่งนี้ จะขึ้นลงตามระดับน้ำทะเลครับ ครับ ในช่วงเช้า น้ำจะเต็มพื้นที่ลากูน ส่วนช่วงเย็นระดับน้ำจะลดลงเห็นป่าโกงกางที่ขึ้นอยู่ในบริเวณนี้อย่างชัดเจนครับ ห้องพักแบบลากูนนี้จะมีอยู่จำนวน7ห้องพักครับ พื้นที่ห้องพักโซนต่อมาลำดับที่4 และลำดับที่5 จะเป็นห้องพักยอดนิยมที่ห้องพักจะเต็มเกือบตลอดทั้งปี ครับ โดยลำดับที่ 4) คือห้องพักแบบมัลดีฟ สไตล์ วิลล่าโซน L จุดสังเกตุของห้องพักแบบนี้ คือเมื่อเดินเข้ามาในพื้นที่ของห้องพักในแบบ มัลดีฟ ให้มองด้านซ้ายมือครับ จะมีห้องพักอยู่จำนวน 7ห้อง ห้องพักชนิดนี้ จะไม่มีท่าน้ำที่สามารถลงเล่นน้ำจากระเบียงด้านหลังห้องพักได้ครับ อีกยังยังไม่มีตะแกรงที่ทำจากตาข่าย อยู่บริเวณระเบียงห้องพักครับ แต่ การตกแต่งภายในห้องพักจะเหมือนกันหมดครับ ลำดับที่5) ห้องพักแบบ มัลดีฟ สไตล์วิลล่า โซนR จุดสังเกตุคือเมื่อเดินเข้ามาในบริเวณห้องพักในแบบ มัลดีฟ ห้องพักชนิดนี้ จะอยู่ที่ฝั่งขวามือทั้งหมดครับ มีห้องพักอยู่จำนวนทั้งหมด13ห้องพักครับ คุณสมบัติพิเศษของห้องพัก ในโซนR นี้ คือ จะมีท่าน้ำส่วนตัวบริเวณหลังห้องพัก สามารถลงไปเล่นน้ำบริเวณท่าน้ำได้เลยและมีตะแกรงที่ทำจากตาข่าย อยู่บริเวณระเบียงห้องพักครับ กิจกรรมที่น่าสนใจของรีสอร์ทแห่งนี้ มีหลากหลายครับ ไม่ว่าจะเป็นมีเรือคายัคให้บริการพายเล่นบริเวณโดยรอบรีสอร์ท,มีสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐาน,มีจักรยานให้บริการยืมฟรีขี่ไปเที่ยวเล่นในละแวกใกล้เคียงรีสอร์ท อีกทั้งยังสามารถใช้บริการพิเศษจากทางโรงแรมพาไปดำน้ำดูปะการังรอบบริเวณเกาะพยามได้ครับ แต่ บริการพิเศษนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มนะครับ อีกทั้งในช่วงดวงตะวันจูบลาขอบฟ้า ทางรีสอร์ท เค้าก็มี บริการพาไปเที่ยวชมความงดงามของ อัศดงลาขับขอบฟ้าในมุมมองที่สุดแสนจะสวยงามที่สุดที่เกาะพยาม ที่ อ่าวเขาควาย -หินทะลุ และชมสุสานหอยทับทิม ซึ่งบริการนี้ก็เสียค่าใช้จ่ายอยู่ที่ท่านละ 100บาท สำหรับการพาไปเที่ยวชมครับ บรรยากาศโดยรวมรีสอร์ทแห่งนี้ถือว่า อยู่ในมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย และ ความเป็นส่วนตัว ห้องพักสะอาดได้มาตรฐาน อาหารเช้าได้คุณภาพเพราะคัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นเลิศมาปรุงก่อนเสริฟแบบไม่อั้น พนักงานบริการดีเยี่ยมเป็นมิตรคอยอำนวยความสะดวกให้อย่างสุดแสนจะอบอุ่น เป็นหนึ่งความประทับใจ จนแทบไม่อยากจากลา เดินทางกลับสู่ฝั่งจังหวัดระนอง ไม่ต่างกับดาวที่หลงฟ้า ยังมีความสุขและอยากจะพักอยู่ที่นี่ อีกหลายๆคืนครับ