การเดินทางไปยังเกาะพยาม ในทริปนี้เราเดินทางไปเกาะโดยใช้เรือสปีดโบ๊ท ราคาต่อหัวคือ 350 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที สำหรับใครที่ไม่รีบก็มีเรือลำใหญ่ที่แล่นชิลๆ 1.30 ชม. ที่พักที่นี้มีราคาตั้งแต่ 800 จนถึงเป็นหมื่น บนเกาะก็มี มอเตอร์ไซด์ทั้งรับจ้างและให้เช่า ที่เกาะนี้มีหาดหลายหาดให้เราได้ท่องเที่ยว ที่เราประทับใจอย่างหนึ่งก็คือที่เกาะพยามไม่มีเตียงนอนอาบแดด มาวางบดบังความสวยงามเต็มหาดเหมือนที่อื่น จะมีก็แบ่งสัดส่วนกันไว้เรียบร้อยถึงจะมีรถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง แต่ทริปเราเลือกที่จะเที่ยวรอบเกาะโดยใช้รถ อีแต๊ก ราคาก็คันละ 500 - 1500 บาท นั่งได้ประมาณ 9-12 คน ก็จะมีคุณลุงคนขับทำหน้าที่เป็นตั้งคนขับแล้วก็ไกด์ เส้นทางในเกาะเป็นเส้นทางที่ไม่ใหญ่มากแค่พอให้รถมอเตอร์ไซด์สวนกันได้ ทุกครั้งที่มีรถมอเตอร์ไซด์สวนมา คุณลุงก็จะหลบทางให้ทุกครั้ง ระหว่างทางเราก็สามารถเห็นนกเงือกและเหยี่ยว เป็นระยะๆ แต่เสียดายที่ไม่สามารถเก็บภาพมาได้ อาชีพของชาวบ้านที่นี่นอกจากจะเป็นชาวประมงแล้ว ชาวบ้านยังขายเมล็ดมะม่วงหิมพานต์คั่วด้วย ระหว่างทางไปหาดก็จะเห็นร้านค้าเรียงรายอยู่เป็นระยะ แต่ละร้านก็จะแกะเปลือกคั่วกันที่หลังโต๊ะขาย เรียกได้ว่าแปรรูปกันสดๆเห็นๆเลยจากการที่นั่งรถเที่ยวรอบเกาะบอกได้คำเดียวเลยว่าเกาะนี้เงียบสงบมากๆ
วัดเกาะพยาม วัดประจำเกาะ โบสถ์ของที่วัดนี้เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กสำคัญของเกาะพยาม ที่โดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางทะเล เราสามารถเดินเข้าไปสักการะ บูชาได้ ช่วงเย็นก็สามารถมาถ่ายรูปสวยๆ ไปอวดเพื่อนๆ ได้ง่ายๆ ใกล้กับวัด ก็จะสามารถขึ้นไปยัง จุดชมวิว ที่สามารถชมความงามของผืนป่าสีเขียวที่ตัดกับผืนน้ำสีฟ้า ได้เป็นอย่างดี แน่นอนพอมาทะเล ก็ต้องนึกถึงหาดทราย ที่เกาะพยามก็มีหาดสวยๆ มากมาย ใครอยากจะนอนอาบแดด เล่นน้ำ หรือเดินเล่นก็สามารถทำได้ชิลๆ บรรยากาศบนเกาะต้องบอกว่าเยี่ยมสุดๆ เหมือนสมัยที่ไปเกาะสมุยก่อนจะดังสัก 2-3 ปีเลยก็ว่าได้ หาดที่เราอยากจะแนะนำมีอยู่ 2-3 หาด ที่แรกก็คือ อ่าวใหญ่ จะเป็นอ่าวขนาดใหญ่ ที่มีช่วงหาดค่อนข้างกว้าง ถ้าใครจะเล่นน้ำหาดนี้ ต้องบอกว่าคงต้องเดินไกลสักหน่อย ส่วนมากคนที่มาเที่ยวอ่าวใหญ่ ก็จะพากันอาบแดดมากกว่า ส่วนอ่าวกวางปีบ อ่าวเขาความ อ่าวแม่หม้าย ก็เป็นหาดขนาดเล็กที่เหมาะกับการเล่นน้ำได้แบบสบายๆ อ่าวหินทะลุ ก็เป็นอีกอ่าว ที่อยากจะแนะนำมาให้ลองถ่ายรูป ที่นี่มีปราการหินที่ถูกกระแสน้ำขึ้นน้ำลงกัดเซาะจนกลายเป็นรู หลายโขดหิน เกิดเป็นผลงานศิลปะที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาที่น่าสนใจและสวยงามอีกแห่งหนึ่ง บ้างก็กลายเป็นรูปหัวใจ ทำให้ที่นี่มีคู่รักนิยมมาถ่ายรูปคู่ เติมความหวานให้กับทะเลเป็นอย่างยิ่ง ที่อ่าวหินทะลุ แนะนำมาตอนที่น้ำลง ช่วงบ่ายแก่ จะได้สามารถเดินไปถ่ายรูปกันได้

เกาะพยามก็ถือเป็นเกาะที่สวยงามในอันดับต้นๆอีกเกาะหนึ่งของประเทศไทย สำหรับใครที่อยากหลีกหนีจากความวุ่นวายจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ที่เราเองก็ไม่อยากที่จะต้องแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวกับคนอื่นๆ ก็คงต้องยกให้ “เกาะพยาม” เป็นหนึ่งในตัวเลือกแรกๆ ของการตัดสินใจ ความสวยงานที่น่าค้นหานี้ กำลังรอให้ นักเดิทางผู้หิวโหยการผจญภัยได้เดินทางไปประทับรอยเท้าอยู่ครับ