โรงแรมพาวาปี จะเป็นผู้จัดพาเราไปเกาะมุก โดยจองผ่านอีเมล แต่เรือไม่มาตามนัด และรีสอร์ทที่จองไว้บนเกาะไข่ก็ไม่มีใครรับสาย เกาะไข่รีสอร์ทได้จัดการพาเราไปได้ในนาทีสุดท้าย เราถึงโรงแรมพาวาปีและถูกพาไปที่ห้องของเรา และให้อภินันทนาการเราด้วยน้ำดื่มสองขวด และทิ้งให้เราอยู่ลำพังหลังจากนั้น ที่นั่นไม่ค่อยมีคนพัก นอกจากแขกที่สับสนอีกจำนวนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าบาร์ก็ไม่ให้บริการ และไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้นเพื่อตอบคำถามเลย บังกาโลก็เหมือนทั่วๆไป แต่ระเบียงสวยมาก มีลมพัดผ่านเย็นสบายและมีวิวทะเล หลังคามุงจาก แต่ทั้งหมดต้องการการมุงใหม่ ในห้องมีตู้เซฟเล็กๆ แต่มันล๊อคอยู่เมื่อเราไปถึงจึงไม่สามารถใช้มันได้
ก๊อกน้ำค่อนข้างเก่ามีสนิมและผ้าเช็ดตัวสกปรก ผ้าปูเตียงมีรอยเปื้อนเลือดอยู่ (ทั้งหมดดูเหมือนมาจากการตบยุง) ฉันไม่กล้าจะเลื่อนตาข่ายกันยุงลงมาต่ำเพราะกลัวมันจะอุจจาระสกปรกไปทั่วเตียง มีกาแฟสำเร็จรูปให้ในห้องแต่ไม่มีน้ำร้อนมาด้วย ชายหาดไม่ค่อยน่าเดินแต่เหมาะกับการว่ายน้ำมากกว่าชายหาดทางด้านเหนือของคาบสมุทรซึ่งเต็มไปด้วยกองสาหร่ายและขยะ ในเช้าวันแรกของเรามีคนมาที่ห้องเราเพื่อบอกเราว่าเขากำลังเสิร์ฟอาหารเช้าให้ เราไม่แน่ใจว่าพวกเขามีบริการนี้จนกระทั่งตอนบอก เขานำไข่ดาวและขนมปังปิ้งสีขาว 2 ชิ้นมาให้ ไข่เจียว 1 จาน (เราทานร่วมกัน 2 คน) และผลไม้ตัดแต่ง 1 จาน
เขามีชาบริการ (แต่ไม่มีกาแฟ) และเพิ่มน้ำขวดให้เรา อาหารเช้าเหมือนกันในแต่ละวัน อย่างไรก็ตามมีกาแฟให้ในเช้าวันที่ 3 คู่รักคู่อื่นตอนทานอาหารเช้าถามเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตไร้สาย และเขาบอกว่าตัวส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตของเขาเสียอยู่แต่เขาจะพยายามซ่อมมัน ฉันไปถามเช็คดูมากกว่า 2 ครั้งในระหว่างที่เราอยู่ที่นั่นแต่มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีกลุ่มสุนัขประมาณ 6 ตัวอาศัยอยู่ที่รีสอร์ทและไม่เขินอายที่จะมาเล่นกับคุณที่ลานบ้าน พวกเขาแทบทั้งหมดน่ารักมากและมีประตูอยู่ตรงลานบ้านดังนั้นคุณสามารถปิดให้พวกเขาออกไปได้ถ้าคุณต้องการ
เราเข้าๆออกๆห้องในเช้าวันนั้น และเมื่อห้องเราไม่ได้ทำความสะอาดในตอนบ่าย เราเลยคิดว่าพนักงานทำความสะอาดคงไม่เห็นตอนเราออกจากห้อง เขาได้เอากาต้มน้ำไฟฟ้ามาวางไว้ให้ที่ระเบียง เราไม่ได้อยู่ในห้องตลอดช่วงเช้าวันนั้นและวันถัดมา และกลับมาพบว่าห้องเราก็ยังไม่ได้ทำความสะอาด และเนื่องจากฝนตกหนักมากหลายครั้งในระหว่างที่เราพักอยู่ที่นั่น ทำให้ทรายติดเรามาเยอะมากถึงแม้เราจะพยายามไม่ให้มันติดสักเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ สามีฉันพยายามจะหาพนักงานมาทำความสะอาดห้องเรา แต่ถูกมองกลับด้วยสายตาที่ว่างเปล่าจากพนักงาน (ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ) ฉันพยายามอีกโดยการเอาผ้าเช็ดตัวที่สกปรกไปให้พวกเขา อย่างน้อยฉันก็สามารถทำให้เขาเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวให้เราได้
เช้าวันที่สาม ในที่สุดก็มีพนักงานมาดูเรา โดยที่ไม่รู้เลยว่าเราจะพักนานเท่าไหร่ เขาต้องเรียกพนักงานอื่นมาถามว่าจะต้องคิดเงินเราเท่าไหร่ เราจ่ายเขาด้วยเงินสดและต้องขอใบเสร็จรับเงิน เพราะฉันยังไม่เชื่อว่ารีสอร์ทนี้เปิดทำการอยู่หรือไม่ระหว่างที่เราพักอยู่ที่นั่น ในที่สุด เช้าวันสุดท้าย ก็มีพนักงานมาทำความสะอาดห้อง เราบอกพวกเขาว่าให้มาทำตอนเราไปแล้วก็แล้วกัน เราสามารถนั่งพักที่ระเบียงจนเรือ (ได้ถูกจัดจากที่อื่นบนเกาะ) มารับเราเวลาบ่ายโมงครึ่ง จริงๆแล้วเราดีใจที่เรือไม่ได้จัดโดยรีสอร์ทนี้ เพราะรีสอร์ทคิดราคาเรา 300 บาทแพงกว่าเรือของเอกชน
ถ้าคุณเต็มใจจะใช้แท๊กซี่ไปที่ท่าเรือทางอีกฝากหนึ่งของเกาะ และลงเรือที่วิ่งระหว่างเกาะตามเวลา คุณก็จะได้ราคาถูกกว่านี้ ถ้าฉันจะมาที่นี่อีกฉันจะไม่วุ่นวายที่จะให้ใครจัดหาเรือไว้ให้ล่วงหน้าอีก ฉันคิดว่าคุณน่าจะได้ราคาที่ถูกกว่าเมื่อคุณอยู่ในประเทศไทยแล้ว ฉันสงสัยว่าปัญหาที่เราเจอเป็นเพราะปัญหาที่ทางรีสอร์ทเจอกับผู้ให้บริการทางอินเตอร์เนท และในความจริงที่ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การคาดเดาที่ฉันคิดว่าเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ เจ้าของรีสอร์ทอาจไม่อยู่ และผู้ดูแลก็คงไม่ได้รับการฝึกฝนจนถึงระดับที่จำเป็นสำหรับรีสอร์ทแบบนี้เพิ่มเติม
- สระว่ายน้ำ
- ชายหาด