เป็นที่เที่ยวที่ไปมาสามครั้ง ละได้นอนที่บ้านพักของอุทยานด้วย สะดวกสบายด... อ่านเพิ่มเติม
เป็นที่เที่ยวที่ไปมาสามครั้ง ละได้นอนที่บ้านพักของอุทยานด้วย สะดวกสบายด... อ่านเพิ่มเติม
สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ธรรมชาติสวยงาม เดินทางสะดวก ไปไม่ยาก... อ่านเพิ่มเติม
เป็นครั้งแรกที่ได้ไปชมความงามอุทยานแห่งเมือง2แคว ครั้งนี้ไปแบบแบกเป้โบกรถลุยคนเดียว โชคดีอย่างแรกที่เจอก็คือ มีคนใจดีขับมาส่งถึงตัวอุทยานเลย ครั้งแรกที่เดินเข้าไปก็ตื่นตาตื่นใจกับต้นสนที่สูงตระหง่า พร้อมสายลมเย็นๆพัดมากระทบหูและกลิ่นฝนที่เพิ่งจะโปรยปรายลงมาทำให้รับรู้ถึงความเป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์จริงๆ หลังจากเข้าที่พักแล้วก็ได้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่ลานหินแตก ถาพในวันนั้นท้องฟ้าสวยงามมาก แต่เสียดายที่แบตกล้องหมดไม่ทันได้ภาพพระอาทิตย์ตกดินเลยเอาภาพที่ไปถึงและยืนที่ปลายหน้าผาลานหินแตกมาฝากกันครับ
อากาศดี ที่เที่ยวเยอะ บรรบากาศดีมาก หมอกเยอะ อากาศเย็น ที่พักดี และสามารถกางเต้นได้ ห้องน้ำสะอาด ไปมาหลายครั้งไม่เคยเบื่อ
มีจุดเที่ยวชมหลายจุด เช่น ลานหินแตก ลานหินปุ่ม แต่ที่ไปมา คือที่ลานหินปุ่ม เส้นทางการไปที่นี่ ป้ายบอกทางค่อนข้างไม่ชัดเจน หากมาจากทางภูทับเลิก จะมองไม่เห็นป้ายชี้ทาง ต้องหลงไปถึงตัวที่ทำการแล้วย้อน กลับมาถึงจะมองเห็น ทางเข้า เส้นทางไปลานหินปุ่ม ค่อนข้างสะดวกสบาย มีทางเดิน ไม่ต้องปีนภูเขา หากไปในหน้าฝน จะเห็นทางน้ำ ที่ไหล มาจากภูเขา บรรยากาศ สวยงาม เป็นธรรมชาติมาก จุดที่เป็นลานหินปุ่ม ดูประหลาน และไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ธรรมชาติสร้างให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร ยังหาคำตอบกันต่อไป ส่วนวิวที่ลานหินปุ่มนั้น อลังการ มาก เพราะมองไปเบื้องล่าง จะมองเห็นผืนป่าอันกว้างใหญ่ และถ้ามาในช่วงเช้า ๆ จะได้เห็นทะเลหมอกด้วย
ผมไปประมาณปลายปี56 กางเต็นท์นอนที่อุทยาน อุณหภูมิตอนเช้า 9 องศา มีแม่ขนิ้งด้วยแต่ต้องขับรถไปดูข้างทางตามจุดที่เขาบอก 4-5 กม.ก่อน 8โมงเช้า จุดเที่ยวต่างๆต้องขับรถไปแต่ไม่ไกลนัก ผาชูธง ลานหินปุ่ม และอื่นๆต้องเดินกันเหนื่อยหน่อย ลานหินแตกอยู่ถัดไป มีดอกซากุระด้วยต้องไปดูที่หมู่บ้านชาวเขา พักผ่อนกับอากาศเย็นๆและครอบครัวมีความสุขดีจริงๆ
ทริปนี้ว่าง-3วัน นัดทีมเตรียมเต้นท์ไปสูดอากาศบริสุทธิ์กัน
นัดเที่ยวพักผ่อน เดินทางทำบุญ ในช่วงวันหยุดธรรมดา
ขับรถออกจากสมุทรปราการ6:00น ถนนโล่งสะดวก ดีจัง
วันแรก แวะชิมไก่ย่างส้มตำ ข้าวเหนี่ยวนึ่งห่อใบตองหอมฉุยที่วิเชียรบุรี อร่อยมากเลย
จากนั้นไปเขาค้อกันก่อน มีดอกบัวตองสวยๆเป็นดงอยู่ริมทางจุดชมวิว เลยแช้ะภาพกันซะ
ร้านค้าชาวเขา มีบัวหิมะขายโลละ40บาท กินแล้วชื่นใจ กรอบเหมือนมันแกว หวานนิดๆครับ
ไปพักกางเต้นท์กันที่ลานไปรษณีย์เขาค้อ ริมหน้าผาเลย วิวสวยๆสุดลูกหูลูกตา สวยจริงๆยามพระ
อาทิตย์ตกดิน ที่นี่ห้องน้ำสะอาดมาก มีน้ำอุ่นให้อาบด้วย อิอิ เย็นสบาย18องศาครับ
ตกค่ำโชคดี ไปงานลอยกระทงจัดที่พระบรมธาตุเจดีย์เขาค้อ ได้ทำบุญกันปลื้มๆไปเลย
วันที่สอง แวะเที่ยวพระตำหนักเขาค้อ ฐานอิทธิ นั่งไกวชิงช้าเล่น ดอกไม้สวยๆ มุมถ่ายภาพเท่ห์ๆเยอะเลย
แล้วไป ไร่บีเอ็นซื้อของฝาก ไปภูทับเบิกต่อ ทางขึ้นสูงชัน แต่ถนนกว้าง รถต้องเครื่องแรงหน่อยนะ
ครับ เบรคก็ต้องดี ไร่กะหล่ำเขียวๆ ไร่สตอร์เบอร์รี่ริมทางมีให้ชิม มีหมอกลงหนาเลยครับ
วิ่งไปต่อลานหินแตก พักบ้านพักของกรม 400บาทต่อหลัง มีน้ำอุ่นให้อาบสบายตัวจัง
วันที่สาม ตระเวณเทียว ถ่ายรูป ดูดอกไม้ป่า ชมลานหินแตก ลานหินปุ่ม เอาขาแช่ธารน้ำเย็นเจี๊ยบ
ตรงนี้เดินระวังหน่อยครับ ร่องหินลึกเลย ตกไปก็.....
ริมทางช่วงนี้มีดอกไม้ป่าเล็กๆเป็นดง กำลังบานสวยเชียว ทั้งดอกดุสิตา มณีเทวา สร้อยสุวรรณา
เที่ยงลงมาเส้นภูทับเบิก เบรกใช้ตลอดทาง แวะกินขนมจีนหล่มเก่า ราคาย่อมเยา อร่อยๆ
ตบท้ายที่ร้านไร่กำนันจุล ก่อนกลับสมุทรปราการ
สมาชิกที่ไป4คน แต่ละคนประทับใจกันมาก แก้มก็แดงกันทุกคน สงสัยอากาศดี มีความสุข ได้ชิมบัวหิมะด้วย
หมดงบไปคนละประมาณ1250บาท --3วัน 2คืน--
มีเวลา ไปเที่ยวกันนะครับ ที่สวยๆเมืองไทยมีอีกเยอะ
วิวสวย อากาศดี เหมาะแก่การท่องเที่ยว อากาศดีตลอดทั้งปี ไปเที่ยวกับ ครอบครัว หรือชวนเพื่อนไปนอนกางเต้นท์ สุกไปอีกแบบ