ถ้าใครมาที่น... อ่านเพิ่มเติม
ถ้าใครมาที่น... อ่านเพิ่มเติม
เป็นศูนย์ศึกษาในพระราชดำริ ภายในมีความรู้มากมายให้อ่านบนบอร์ด นอกจากนี้สามารถเดินชมป่าชายเลนได... อ่านเพิ่มเติม
เดินไปกะเด็กชายค่ะ ระยะทางเดินไปถึงจุดชมวิวประมาณ 800 เมตร มีเรือให้เช่าพายด้วยค่ะ มีสะพานเชือกตื่นเต้นนิดหน่อย ใครไม่ชอบร้อนควรไปเช้าๆ ไปตอน 10 โมงอากาศอ้าว เด็กชายไม่บ่นเหนื่อย แค่ถามว่าทำไมไม่ถึงทางออกสักที
เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กๆ สามารถพามาชมปลาทะเลชนิดต่างๆมากมาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่สามารถร่วมบริจาคได้ แต่สถานที่ไม่ค่อยได้รับการปรับปรุง ป้ายข้อมูลเก่าและปลาบางตัวอยู่ในตู้ที่เล็กเกินไป อุโมงค์ใต้น้ำไม่ค่อยสะอาดและมีขนาดเล็ก
ไม่ได้แวะเที่ยวแบบจริงจังค่ะ แต่ตั้งใจผ่านมา
เพราะเค้าว่ากันว่าถนนเลียบหาดตรงนี้ สวยมากๆ
ได้มาเห็นกับตาแล้ว สวยจริงๆค่ะ
อยากจะลงไปสัมผัสน้ำทะเล แต่ไม่สะดวก
ไว้จะหาโอกาสไปใหม่
เป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนในจันทบุรี มีบรรยากาศร่มรื่น ถือเป็นที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับคนรักธรรมชาติ ได้สัมผัสบรรยากาศสดชื่น มีสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามป่าชายเลนมากมาย ชอบค่ะ
เป็นพื้นที่ ที่ให้ความรู้มากมาย เกี่ยวกับ ธรรมชาติ ชีวิตของสัตว ทะเล และสามารถ ทำให้เรารัก ธรรมชาติมากขึ้น
อ่าวคุ้งกระเบน หรือชื่อเต็มที่ว่า ศูนย์ศึกษาพัฒนาป่าชายเลนโครงการในพระราชดำริ เป็นอีกที่หนึ่งที่น่าไปเที่ยว
หากคิดถึงอ่าวคุ้งกระเบนคนส่วนใหญ่จะนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระทรงท่านที่ทรงเสียสละทรงงานหนักจนกระทั่งประสบความสำเร็จนำพื้นป่ากลับคืนสู่แผ่นดิน สร้างประโยชน์แก่ผู้คน ภายในอ่าวคุ้งกระเบนสามารถท่องเที่ยวได้หลายอย่าง เช่น การเดินสบายตามสะพานไม้เพื่อศึกษาธรรมชาติและป่าชายเลน การร่วมลุยโคลนปลูกป่าชายเลน หรือแม้กระทั่งให้อาหารปลาฉลาม
หนึ่งในภาระกิจฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน นั้นคือการเป็นศูนย์กลางในการอบรมเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการศึกษาวิจัย เพื่อนำมาพัฒนาด้านการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำด้วย สัตว์ที่เลี้ยงไว้หลายชนิด ได้แก่ เต่า ปลา รวมทั้งฉลาม
และหนึ่งในกิจกรรมน่าตื่นเต้นที่เราร่วมทำได้ที่นี่คือ การให้อาหารปลาฉลาม ถ้าตอนเช้าๆ ฉลามจะหิวมาก ปลา 10-20 ตัวก็ทำท่าเหมือนไม่อิ่ม (กระโดดขึ้นมางับปลาจนน้ำกระจาย ผู้คนก็วี๊ดว้ายกันด้วยความสนุก) แต่ถ้ามาช่วงบ่ายๆ อิ่มแล้วค่ะ จะง้อยังไงก็ไม่กิน จนบางทีก็แอบคิดว่า "ถึงจะตกลงไปในน้ำก็คงจะปลอดภัย"