ภูชี้ฟ้า สถานที่ในความทรงจำที่เคยไปเยือนกับกลุ่มเพื่อนๆ เมื่อมีโอกาสจึงพาคุณแม่ และคุณน้า ไปเยื่อนเพื่อสัมผัสทะเลหมอกสักครั้ง (และอีกครั้งสำหรับเรา) การเดินทางเริ่มจาก กทม นั่งหลับสักพักบนหางแดง ก็เข้าสู่ เชียงรายแล้ว จากนั้นเช่ารถขับเอง โดยแวะนมัสการ พ่อขุนเม็งรายก่อน สำหรับการมาเยือนถิ่นเชียงราย จากนั้นมุ่งหน้าสู่ภูชี้ฟ้าจุดหมายหลักของเรา การเดินทางถนนหนทาง สะดวกเป็นถนนคอนกรีตสลับกับถนนลาดยาง ขับไปได้สักครึ่งทางเริ่มไม่แน่ใจ แวะถาม จนท ตชด สักหน่อย คำตอบที่ได้คือ ... เห็นเขาลิปๆ ตรงนั้นมั้ย ข้างหลังลูกแรกที่เห็นนั่นแหละ ภูชี้ฟ้า ..... ห๊าาาาาา ข้ามเขาไปอีก 2 ลูก....มาถึงขนาดนี้แล้ว ลุยต่อไป ... ชมวิว ทิวทัศน์ ธรรมชาติบ้าง บ้านเรือนคนบนดอยบ้าง สลับกันไป จนมาถึงจนได้ ที่พักที่เราจองไว้ (เราจองด้านหลังภูชีฟ้าไว้) การต้อนรับของเจ้าของบ้านพักเป็นไปอย่างอบอุ่น ขาดเหลืออะไร พี่ๆเขาก็จัดหามาให้ แถมอาหารอร่อยอีกต่างหาก (เป็นอาหารที่ดูแบบ บ้านๆมากเลย แต่รสชาติ สุดยอด) รุ่งเช้าเตรียมตัวขึ้นภู พร้อมไกด์ตัวน้อยๆ น้องหญิง กับ น้องเฟิร์น ที่อาสามานำทางเดินขึ้นภูให้เรา โดยมีรถของที่พัก พาเราไปยังจุดเดินเท้าขึ้นภู ( ทางด้านหลังภูชี้ฟ้าจะเดินถึงยอดภูมีระยะทาง 400 เมตร จะใกล้กว่าทางด้านหน้าภูที่ต้องเดินทางเป็นระยะทาง 700 เมตร) งานนี้ได้ไกด์ตัวน้อยเล่าโน่น เล่านี้เจื้อยแจ้วไปตลอดทาง พร้อมทั้งช่วยประคับประคองผู้สูงอายุไปด้วย ไม่นานเราก็ถึงยอดภู ...... อากาศดีมาก หนาวได้ใจ (แต่ยังไม่หนาวจัด) กลุ่มก้อนเมฆลอยผ่านตัวไปอย่างนุ่มนวล รอจนพระอาทิตย์ขึ้น แสงแรกแห่งวัน งดงามจริงๆ นั่งพัก ถ่ายรูป ชิวๆ ร่วม 2 ชั่วโมง กว่าจะรู้ตัวอีกที แล้ว 2 สาวน้อยก็พาลงจากยอดภูโดยพาแวะไปถ่ายรูปกับหัวสิงห์โต สัญลักษณ์อีกแห่งของภูชี้ฟ้า แถมด้วยสวนโพสต์ท่าสนุกๆตามจินตนาการเด็กๆ จนพวกเราลืมวัยกันไปเลย ก่อนจะพาลงมายังจุดจอดรถเพื่อขึ้นรถกลับที่พัก.....เป็นอีกหนึ่งความประทับใจ ทั้งธรรมชาติรอบตัว และอัธยาศัยไมตรีอันดีจากคนในพื้นที่ค่ะ

ภูชี้ฟ้า จุดชมทะเลหมอกที่สวยติดอันดับต้นๆของประเทศ เราต้องเดินขึ้นไปจุดชมวิวค่อนข้างเหนื่อยนิดหน่อย แต่เมื่อขึ้นไปถึงวิวรอบด้าน ทำให้เราลืมความเหนื่อยไปเลย